นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค รักษาการอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้มีการประเมินผลความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) ซึ่งถือเป็นความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ของไทยฉบับแรกที่ได้ทำกับประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งนับจากวันที่มีผลบังคับใช้ 1 ม.ค.2548 จนถึงขณะนี้ผ่านไปแล้วกว่า 4 ปี พบว่า การค้าระหว่างไทยกับออสเตรเลียขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะภาคการส่งออกของไทย และสินค้าเกษตรของไทยยังได้รับอานิสงค์บุกเจาะตลาดออสเตรเลียได้แล้ว
ทั้งนี้ ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา (ปี2548-2551) การค้าระหว่างไทยกับออสเตรเลียมีมูลค่าเฉลี่ย 9,211 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 158.78% เป็นมูลค่าการส่งออกเฉลี่ย 5,308.67 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 178.24% และเป็นมูลค่าการนำเข้าเฉลี่ย 3,902.58 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 136.25% เมื่อเทียบกับมูลค่าเฉลี่ย 4 ปี (ปี2544-2547) ก่อนทำ TAFTA
สำหรับสินค้าที่ไทยมีการขอใช้สิทธิในการส่งออกไปยังออสเตรเลียมากที่สุด เช่น รถบรรทุกชนิดแวนและปิกอัพ รถยนต์ เครื่องปรับอากาศแบบติดหน้าต่างหรือผนัง ปลาที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น โดยมียอดการขอใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าในปี 2548-2551 คิดเป็น 68% 63% 69% และ 62% ของมูลค่าการส่งออกไปออสเตรเลียทั้งหมดตามลำดับ ขณะที่การนำเข้ามีการใช้สิทธิประโยชน์คิดเป็น 15% 14% 11% และ 10% ของมูลค่าการนำเข้าจากออสเตรเลียทั้งหมด โดยสินค้าที่ใช้สิทธินำเข้ามากสุด เช่น สินแร่ อลูมิเนียม มอลต์ ไหม และธัญพืช เป็นต้น
ส่วนสินค้าเกษตร ถือเป็นความสำเร็จของการเจรจาเอฟทีเอกับออสเตรเลียเลยก็ว่าได้ เพราะในอดีตที่ผ่านมา สินค้าเกษตรไทยไม่สามารถเข้าตลาดออสเตรเลียได้ แต่ในการเจรจาเอฟทีเอไทยได้พยายามที่จะใช้เวทีนี้ในการแก้ไขปัญหา โดยได้มีการตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญร่วมสองฝ่ายด้านมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS) ขึ้นมา ซึ่งผลปรากฎว่า ขณะนี้สินค้าเกษตรไทยสามารถเข้าตลาดออสเตรเลียได้แล้วเป็นจำนวนมาก เช่น มังคุด ลำไย ลิ้นจี่ สับปะรด ทุเรียน ส้มโอแกะเปลือก ปลาสวยงาม และกุ้งปรุงสุกและแปรรูป เป็นต้น โดยในปี 2551 สินค้าดังกล่าวมีมูลค่าส่งออกไปยังออสเตรเลียสูงถึง 35.44 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ ยังมีสินค้าที่มีโอกาสในการบุกเจาะตลาดเพิ่มเติม ได้แก่ ไก่ กุ้งสด และมะม่วง ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผลการตรวจวิเคราะห์ความเสี่ยงจากออสเตรเลียอยู่ ซึ่งถ้าวิเคราะห์เสร็จ สินค้าดังกล่าวจะเข้าตลาดออสเตรเลียได้เพิ่มอีก ในทางกลับกัน ส้มและมันฝรั่งของออสเตรเลียก็สามารถนำเข้าไทยได้ โดยในปี 2551 มีการนำเข้าสินค้านี้รวมมูลค่า 1.53 ล้านเหรียญสหรัฐ และอยู่ระหว่างการตรวจวิเคราะห์ของไทย ได้แก่ เนื้อหมู โคพันธุ์และม้า
ในด้านการลงทุน ออสเตรเลียมีโครงการลงทุนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในปี 2548-2551 โดยมีโครงการคิดเป็นมูลค่า 30.04 13.54 45.06 และ 95.77 ล้านเหรียญสหรัฐตามลำดับ โดยไทยไปลงทุนในออสเตรเลียมีจำนวนน้อยมาก
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630