นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการหารือกับนายเฉิน เตอ หมิง (Mr.Chen De Ming)รัฐมนตรีพาณิชย์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2552 ณ จังหวัดเพชรบุรี ฝ่ายไทยได้ขอบคุณจีนที่จัดตั้งกองทุน China- ASEAN Investment Cooperation Fund มูลค่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ และ China-ASEAN US 15 billion Loan หรือเงินกู้จำนวน 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ โดย China - ASEAN Investment Cooperation Fund มีลักษณะเป็นกองทุนการลงทุนเพื่อภาคเอกชน ที่จะจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม เครือข่ายโทรคมนาคม รวมทั้งพลังงานและแหล่งพลังงานเพื่อเชื่อมโยงอาเซียนกับจีน ส่วน China-ASEAN US 15 billion Loan จะจัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม เพื่อเชื่อมโยงอาเซียนกับจีน ทั้งนี้ จีนได้แจ้งว่าทั้งสองโครงการอยู่ในระหว่างการกำหนดรายละเอียด โดยหากมีความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวจะแจ้งให้ไทยทราบ
ฝ่ายไทยได้แสดงความสนใจที่จะจัดทำโครงการโลจิสติกส์กับประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน โดยจะขอการสนับสนุนเงินกู้จาก China-ASEAN Loan นี้ โดยเห็นว่าน่าจะมีการศึกษา
1) การทำเส้นทางดานัง-ตราด-แม่สอด-มะละแหม่ง
2) เส้นทางจากกาญจนบุรีไปยังทวาย ซึ่งมีท่าเรือน้ำลึกที่ทวาย โดยจะเป็นเส้นทางที่เชื่อมจีน อาเซียน และอินเดีย
3) เส้นทาง R3 (คุนมั่น กงลู่) R3E และ R3W จากยูนาน กรุงเทพ และสิงคโปร์
จีนได้แสดงความยินดีและเห็นว่า หากเส้นทางโลจิสติกส์ผ่านประเทศใดในอาเซียน ก็สามารถใช้เงินกู้ก้อนนี้ได้ โดยจัดทำการศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study) ก่อน และอาจดำเนินการภายใต้กรอบ GMS อย่างไรก็ดี เส้นทางที่ฝ่ายไทยเสนอมีหลายเส้นทาง ก็จะดูว่าประเทศที่มีเส้นทางผ่านเหล่านี้เห็นชอบด้วยหรือไม่ และเส้นทางใดให้ผลตอบแทนที่ดี หรือบางเส้นทางต้องใช้รถไฟ ซึ่งจำเป็นต้องมีมาตรฐานเดียวกัน ในการก่อสร้างนี้ ถ้าเป็นการก่อสร้างในจีน จะไม่ใช้กองทุนนี้ เพราะจีนมีงบประมาณของตนเอง ซึ่งจะได้มีการหารือกันต่อไป
นอกจากนี้ ไทยและจีนได้หารือเกี่ยวกับความตกลงขยายความร่วมมือทวิภาคีทางเศรษฐกิจและการค้าในเชิงกว้างและเชิงลึกระหว่างไทยกับจีน (Expanding and Deepening Bilateral Economic and Trade Cooperation: EDBETC) ที่ได้ลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย และรัฐมนตรีการค้าจีน เมื่อวันที่ 24 มิย. 2552 ณ กรุงปักกิ่ง โดยทั้งสองฝ่ายได้ย้ำว่าจะให้เจ้าหน้าที่อาวุโสของหน่วยงานที่รับผิดชอบของทั้งสองประเทศหารือเพื่อจัดทำแผนพัฒนาระยะ 5 ปี (Five-year development program) และกำหนดแผนงานอย่างเป็นรูปธรรมภายในเดือนพฤศจิกายน นี้
ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือเกี่ยวกับปัญหาการส่งออกผลไม้ไทยไปจีน โดยเฉพาะประเด็นเรื่องใบอนุญาตนำเข้าสินค้าที่ได้มาตรฐานสุขอนามัย (Quarantine Import Permit) และการกำหนดราคากลางของศุลกากรจีน ซึ่งไทยได้เรียกร้องให้จีนขยายอายุใบอนุญาตฯ ออกไปจาก 6 เดือน เป็น 1 ปี และเพิ่มจำนวนผลไม้ตามใบอนุญาตฯ นำเข้าให้ขยายการครอบคลุมจาก 1 ชนิด เป็น 23 ชนิด ซึ่งจีนรับว่าจะนำไปพิจารณาต่อไป
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630