นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือระดับรัฐมนตรีอาเซียน (AEM) กับภาคเอกชนกลุ่มยานยนต์อาเซียน ในวันที่ 22 ตุลาคม 2552 ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 15 ณ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งประกอบด้วย รัฐมนตรีเศรษฐกิจของประเทศอาเซียน 10 ประเทศ เลขาธิการอาเซียน ประธานสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน (ASEAN-BAC) ผู้แทนจากสภาหอการค้าและการลงทุนอาเซียน รวมทั้งสภาอุตสาหกรรมยานยนต์อาเซียน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนในการเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ตลอดจนเพื่อรับทราบถึงปัญหาและโอกาสในศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ของอาเซียน
ที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์จากภาคเอกชนว่า ในปี 2552 ยอดขายรถยนต์ของอาเซียน 6 ประเทศ และเวียดนามคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 1.8 ล้านคัน ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้านี้ร้อยละ 21 ในขณะที่ยอดการผลิตรถยนต์มีประมาณ 1.21 ล้านคัน ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 32.5 ในส่วนของประเทศไทย มียอดขายรถยนต์ลดลงร้อยละ 33.1 แต่อย่างไรก็ดี ในขณะนี้เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีจากยอดการผลิตรายเดือนที่เพิ่มขึ้น
ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์อาเซียนได้เรียกร้องให้ภาครัฐให้ความช่วยเหลือแก่อุตสาหกรรม ยานยนต์ โดยขอให้รัฐบาลอาเซียนดำเนินนโยบายกระตุ้นให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่ง ASEAN-BAC ได้มีข้อเสนอแนะหลายด้านที่สำคัญ เช่น
1. เร่งรัดการลดภาษีภายใต้ AFTA ให้สมบูรณ์โดยเร็ว
2. เร่งรัดการอำนวยความสะดวกด้านศุลกากรด้วยอิเล็คทรอนิคส์ ณ จุดเดียว (ASEAN Single Window)
3. พัฒนาบริษัทร่วมทุนในอาเซียน
4. ให้ความช่วยเหลือด้านสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการ SMEs
5. ปรับปรุงการรายงานผล (AEC Scorecard) และเผยแพร่แผนการปฏิบัติงานในเว็บไซต์ของอาเซียน
ในการประชุมครั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์อาเซียน ยังได้มีข้อเสนอสำคัญๆ อาทิ การพัฒนามาตรฐานร่วมกันระหว่างสมาชิกอาเซียน การพัฒนาเครือข่ายเชื่อมโยงการขนส่งทั้งทางบกและทางเรือ และการคงไว้ซึ่งความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ (AICO) เป็นต้น
ในส่วนของประเทศไทยแจ้งว่า จะเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวกับยานยนต์และผลิตภัณฑ์ Thailand Auto Parts & Accessories 2010 ครั้งที่ 4 ระหว่างวันที่ 28 เมษายน — 2 พฤษภาคม 2553 ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา โดยคาดว่าจะมีบริษัททั่วโลกเข้าร่วมงานกว่า 300 บริษัทซึ่งประเทศไทยได้เชิญประเทศสมาชิกอาเซียนเข้าร่วมงานดังกล่าว และแจ้งว่ายินดีที่จะให้การสนับสนุนประเทศสมาชิกอาเซียนเป็นพิเศษ โดยจะจัดพื้นที่แสดงสินค้าให้แก่ประเทศสมาชิกประเทศละ 450 ตารางเมตร โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ ประเทศไทยได้เสนอให้ภาคเอกชนอาเซียน รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ของอาเซียนให้ความสำคัญและร่วมมือกับภาครัฐในการพัฒนารถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ (bio- fuel car) รวมถึงการใช้เทคโนโลยีที่ไม่เป็นพิษต่อมลภาวะ เพื่อร่วมมือกันแก้ไขภาวะโลกร้อน
ที่ประชุมตกลงที่จะเร่งรัดดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2553 ที่จะลดภาษีภายใต้อาฟต้าให้สมบูรณ์โดยเร็ว สำหรับข้อเสนอภาคเอกชนในบางเรื่อง ก็ได้มีการดำเนินการของอาเซียนอยู่บ้างแล้ว เช่น การลดภาษีชิ้นส่วนยานยนต์ภายใต้โครงการ AICO ที่จะสิ้นสุดในปี 2555 นอกจากนี้ อาเซียนจะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น รวมทั้งจะเร่งดำเนินการใช้ระบบ ASEAN Single Windows และการปรับมาตรฐานต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การเป็นฐานการผลิตเดียวของอาเซียน (Single Production Base)
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630