"พาณิชย์" เผย 1 ม.ค.ปีหน้า สินค้า 8,300 รายการ ในอาเซียนภาษีเหลือ 0% แนะผู้ประกอบการไทยเตรียมพร้อมส่งสินค้าเจาะตลาดอาเซียน
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2553 อาเซียนจะมีการเปิดเสรีการค้าสินค้าภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) โดยอาเซียนเดิมจะลดภาษีสินค้าทั้งหมดเหลือ 0% ขณะที่อาเซียนใหม่ 4 ประเทศ หรือ CLMV จะลดเหลือ 0% ในปี 2558 โดยในอาเซียนมีรายการสินค้าอ่อนไหวและสินค้าอ่อนไหวสูงที่จะไม่ลดภาษีเหลือ 0% เพียง 93 รายการ จากรายการสินค้าทั้งหมด 8,300 รายการ โดยไทยมีเพียง 4 รายการที่จะลดภาษีเหลือ 5% คือ ไม้ตัดดอก มะพร้าวแห้ง มันฝรั่ง และกาแฟ
ทั้งนี้ ในการลดภาษีดังกล่าว พบว่าสินค้าอุตสาหกรรมของไทย คือ ยานยนต์และชิ้นส่วน คอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ จะได้ประโยชน์จากการใช้วัตถุดิบในอาเซียน การแบ่งงานกันผลิตชิ้นส่วนที่แต่ละประเทศสมาชิกมีความได้เปรียบ ส่งผลให้อุตสาหกรรมของไทยสามารถพัฒนาตัวเองเป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้
ขณะที่สินค้าเกษตร ไทยจะได้ประโยชน์ในการส่งออก ที่เห็นได้ชัดเจน คือ ข้าว ที่ไทยจะได้ประโยชน์จากการลดภาษี ได้แก่ อินโดนีเซียผูกพันภาษีใน WTO สูงถึง 160% แต่ในอาเซียน 25% น้ำตาลที่ตลาดหลักของไทย คืออินโดนีเซีย จะลดภาษีภายใต้ AFTA เหลือ 5-10% ในปี 2558 เป็นต้น
"ผู้ประกอบการไทยควรจะวางแผนการบุกเจาะตลาดอาเซียน เพราะปีหน้าสินค้าทั้งหมดภาษีจะเหลือ 0% ทำให้การค้าขายระหว่างกันไม่มีกำแพงภาษีอีกต่อไป ทำให้อาเซียนจะกลายเป็นตลาดที่สำคัญของไทย โดยปัจจุบันอาเซียนได้กลายเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทย มูลค่าการค้าไทยกับโลกปี 2551 มูลค่า 356,494 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นการค้าขายกับอาเซียน 70,000 เหรียญสหรัฐ คิดเป็น 20% ของการค้าระหว่างไทยกับอาเซียน โดยไทยได้เปรียบดุลการค้ากับอาเซียน 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ" นางนันทวัลย์กล่าว
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การค้าขายในอาเซียนมีความคล่องตัว อาเซียนได้ทำความตกลงการค้าสินค้าฉบับใหม่ขึ้นมาเรียกว่า ATIGA ซึ่งเป็นความตกลงที่มีเนื้อหาสาระมากกว่าข้อตกลง CEPT โดยจะครอบคลุมกฎเกณฑ์ทางการค้าอื่นๆ เช่น มาตรการสุขอนามัยพืชและสุขอนามัยสัตว์ มาตรการด้านมาตรฐาน ความร่วมมือด้านศุลกากร มาตรการที่มิใช่ภาษีอื่นๆ และกระบวนการระงับข้อพิพาท เป็นต้น ซึ่งจะทำให้การค้าในอาเซียนมีความโปร่งใส่มากขึ้น ทั้งนี้ ATIGA ได้มีการลงนามกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2552 และหลังจากที่อาเซียนให้สัตยาบันครบทุกประเทศแล้ว ก็จะมีผลบังคับใช้ทันที
สำหรับข้อตกลงการค้าอื่นๆ ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2553 ที่ผู้ประกอบการไทยจะได้ประโยชน์นอกเหนือจาก AFTA ก็คือ ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) อาเซียน-จีน ที่จะมีการลดภาษีเป็น 0% สำหรับสินค้าเกือบทั้งหมด อาเซียน-เกาหลี จะลดภาษีเป็น 0% สำหรับสินค้าประมาณ 90% รวมไปถึง FTA อาเซียน-ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630