ที่ประชุมประจำปีของรัฐมนตรีการค้าและรัฐมนตรีต่างประเทศจาก 21 เขตเศรษฐกิจของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) นำโดยสหรัฐและจีน ซึ่งเปิดฉากวันแรกที่สิงคโปร์เมื่อวันพุธ เรียกร้องทุกฝ่ายร่วมกันต่อต้านการกีดกันทางการค้า หนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ก่อนการหารือสุดยอดผู้นำจะมีขึ้นสุดสัปดาห์นี้
"หากเราไม่ระวัง กว่าจะรู้ตัว เราอาจตกอยู่ในสถานการณ์คับขันที่ยากจะแก้ไข" จอร์จ เหยียว รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศเจ้าภาพ เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการต่อต้านนโยบายกีดกันทางการค้า
ต่อข้อซักถามที่ว่ารัฐมนตรีเอเปกคิดว่าวิกฤติการเงินโลกครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบเกือบศตวรรษสิ้นสุดลงแล้วหรือยัง เหยียวตอบว่า ทุกคนเห็นตรงกันว่ายัง แต่ใกล้แล้ว "สัญญาณที่ดีขึ้นช่วงนี้เป็นเพียงช่วงพักคั่นเวลา แต่สถานการณ์โดยรวมยังไม่แน่นอน เราต้องพยายามจัดการกับต้นตอของปัญหาให้ได้"
เอเปกก่อตั้งขึ้นในปี 2532 ด้วยจุดมุ่งหมายหลักในการส่งเสริมการลงทุนและการค้าเสรี ชาติสมาชิกของเอเปกมีตั้งแต่ประเทศด้อยพัฒนาอย่างปาปัวนิวกินีไปจนถึงสหรัฐ ยักษ์เศรษฐกิจเบอร์ 1 ของโลก และจีน ตลาดเกิดใหม่ที่กำลังมาแรงที่สุด
ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เปิดเผยว่า ในการประชุมสุดยอดช่วงสุดสัปดาห์นี้ ประธานาธิบดีบารัก โอบามา จะเน้นย้ำความสำคัญของเอเปกในฐานะเวทีความร่วมมือและการแสดงจุดยืนทางเศรษฐกิจร่วมกัน "เราทั้งหมดพูดได้อย่างภาคภูมิใจว่าวิกฤติเศรษฐกิจไม่สามารถดึงเราเข้าไปติดบ่วงของลัทธิกีดกันทางการค้าได้"
ด้านโรเบิร์ต เซลลิก ประธานธนาคารโลก ที่เข้าร่วมประชุมเอเปกครั้งที่ 20 หนนี้ด้วย กล่าวกับสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศของสิงคโปร์ว่า แม้เศรษฐกิจโลกจะมีแนวโน้มกระเตื้องขึ้น แต่ความเสี่ยงที่โลกจะเผชิญกับปัญหาการกีดกันทางการค้าก็ยังมีอยู่
ทั้งนี้ สมาชิกเอเปก ซึ่งมีออสเตรเลีย แคนาดา ญี่ปุ่น และรัสเซีย รวมอยู่ด้วย มีประชากรรวมกัน 40% ของประชากรโลก ด้วยมูลค่าการค้ารวมร้อยละ 44 ของการค้าโลก และมูลค่าจีดีพีเกินครึ่งของจีดีพีรวมทั้งโลก.
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000 โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630