“อลงกรณ์ บินถกรัฐมนตรีอาเซียน 7 เม.ย.นี้ ที่ฮานอย เร่งกระบวนการภายในประเทศ เพื่อให้สัตยาบันความตกลง ATIGA ติดตามความคืบหน้าเปิดเสรีการลงทุน และการลดภาษีปิโตรเคมีของเวียดนาม ทำแถลงการณ์เสนอผู้นำอาเซียน 10 ประเทศประกาศสร้างความเชื่อมั่นการฟื้นตัวเศรษฐกิจ การเงินโลก พร้อมหารือเตรียมท่าทีจัด AEM โรดโชว์สหรัฐฯ”
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนการค้าไทย เดินทางไปร่วมประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) วันที่ 7 เม.ย.2553 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม โดย AEM จะมีการหารือถึงความคืบหน้าในการดำเนินการของอาเซียน และเตรียมประเด็นสำหรับผู้นำอาเซียนที่จะมีการประชุมกันในวันที่ 8-9 เม.ย.นี้
ทั้งนี้ อาเซียนจะมีการหารือถึงประเด็นการบังคับใช้ความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าอาเซียน (ATIGA) ซึ่งไทยอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการกระบวนการภายในประเทศเพื่อลงนาม MOU เรื่องข้าวร่วมกับฟิลิปปินส์ ก่อนที่จะให้สัตยาบันความตกลง ATIGA ขณะเดียวกัน อาเซียนจะมีการหารือถึงความคืบหน้าในการหารือเรื่องการตารางข้อสงวน และแนวทางในการลดข้อจำกัดเรื่องการลงทุนของอาเซียน โดยจะต้องหาข้อสรุปให้ได้โดยเร็วเพื่อให้มีผลบังคับใช้ภายในเดือน สค.2553
นอกจากนี้ อาเซียนจะพิจารณาการปรับปรุงตารางการลดภาษีสินค้าปิโตรเลียมของเวียดนาม ซึ่งมี 32 รายการ เพื่อให้สิทธิประโยชน์ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนเดียวกัน ทั้งนี้เวียดนามยืนยันว่าได้ให้สิทธิพิเศษแก่อาเซียนมากกว่าประเทศคู่เจรจาอื่นๆ แล้ว และยังเปิดให้มีการทบทวนการลดภาษีในปี 2556 อีกด้วย ทั้งนี้ หากอาเซียนเห็นชอบก็จะมีการเสนอให้ AFTA Council ในเดือนส.ค.นี้เห็นชอบต่อไป
นางนันทวัลย์กล่าวว่า รัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนจะได้พิจารณาแถลงการณ์ของผู้นำอาเซียนในเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของอาเซียน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยืนยันเจตนารมณ์ของอาเซียนต่อการฟื้นตัวจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจและการเงินโลกในขณะนี้ โดยสาระสำคัญของแถลงการณ์ดังกล่าว จะเน้น 8 ประเด็นหลัก ทั้ง 8 ประเด็นที่ผู้นำจะประกาศ ได้แก่ 1.ความร่วมมือเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินและการฟื้นฟูอย่างยั่งยืนในอาเซียน 2.การส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน 3.การสนับสนุนการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐาน 4.การส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน 5.การเสริมสร้างเครือข่ายระบบการประกันสังคม 6.การสนับสนุนความร่วมมือด้านการศึกษา 7.การส่งเสริมการหารือร่วมกับภาคเอกชน และ 8.การลดช่องว่างการพัฒนาในอาเซียน นอกจากนี้ อาเซียนจะติดตามความคืบหน้าของแผนการทำงานของอาเซียน (AEC Scorecard) ซึ่งจากการวัดผลการดำเนินงาน ปี 2551-2552 ที่ผ่านมาอาเซียนดำเนินงานตามแผนได้ 73.6% และมีหลายมาตรการยังไม่เป็นไปตามแผน เช่น การพัฒนาระบบ ASEAN Single Window การให้สัตยาบันความตกลงต่างๆ ที่ได้ลงนามไปก่อนหน้านี้เพื่อให้มีผลบังคับใช้ เช่น กรอบความตกลงการอำนวยความสะดวกขนส่งสินค้าผ่านแดน เป็นต้น ซึ่งอาเซียนจะมีการหารือเพื่อผลักดันการดำเนินงานที่ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และเผยแพร่ความคืบหน้าให้สาธารณชนรับทราบด้วย
นางนันทวัลย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมครั้งนี้ อาเซียนยังจะหารือถึงการเตรียมงาน AEM Road Show ซึ่งรัฐมนตรีเศรษฐกิจของอาเซียนจะเดินทางไปยังเมืองซีแอตเติล และวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 3-5 พ.ค.2553 เพื่อพบปะทั้งกับภาครัฐและภาคเอกชน สร้างความเชื่อมั่นในด้านการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน นอกจากนี้ยังจะมีการประชุมภายใต้กรอบความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนระหว่างอาเซียนและสหรัฐฯ (ASEAN-US TIFA) อีกด้วย
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630