นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี มีมติให้ความเห็นชอบกรอบการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-ชิลี ซึ่งเสนอโดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ โดยคณะรัฐมนตรีจะเสนอเรื่องดังกล่าวต่อรัฐสภา เพื่อให้ความเห็นชอบก่อนเริ่มเจรจาต่อไป ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการจัดทำหนังสือสัญญาต่างประเทศ ภายใต้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 190
“การจัดทำ FTA ไทย-ชิลี จะเป็น FTA ฉบับที่ 2 ที่ไทยทำกับประเทศในภูมิภาคอเมริกาใต้ ต่อเนื่องจาก FTA ไทย-เปรู ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการเพื่อให้ความตกลงมีผลใช้บังคับ โดยชิลีเป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ของไทย ในภูมิภาคอเมริกาใต้ และเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เนื่องจากชิลีเป็นประเทศหนึ่งที่มีเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจมากที่สุดในภูมิภาค และดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม” นางนันทวัลย์ กล่าว
แม้ชิลีจะเป็นเพียงประเทศเล็ก ๆ แต่ก็มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ยร้อยละ 4.2 และมีรายได้ประชากรเฉลี่ยต่อหัวสูงเป็นอันดับต้นของภูมิภาค หรือประมาณ 10,109 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมากกว่าของไทย 2 เท่า เนื่องจากมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดีและมั่นคง นอกจากนี้ ไทยและชิลียังมีโครงสร้างการผลิตที่เกื้อหนุนกัน โดยชิลีเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์และหลากหลาย สามารถเป็นแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญสำหรับการผลิตสินค้าของไทย โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญของชิลี ได้แก่ ทองแดง ไม้ เยื่อไม้ และสินค้าประมง ขณะที่สินค้าส่งออกของไทยไปชิลีเป็นสินค้าอุตสาหกรรมและเกษตรแปรรูป เช่น รถยนต์ ปูนซิเมนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอาหารแปรรูป ปัจจุบัน ชิลีเป็นประเทศหนึ่งที่มีการทำ FTA กับประเทศต่างๆ มากที่สุดในโลก โดยได้จัดทำความตกลงการค้าเสรี ทั้งหมด 21 ฉบับ กับ 57 ประเทศ เช่น สหรัฐฯ แคนาดา สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย ส่วนประเทศในเอเชีย ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน และชิลีอยู่ระหว่างการเจรจา FTA กับมาเลเซียและเวียดนาม การจัดทำ FTA ไทย-ชิลี นอกจากจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันสินค้าไทยในตลาดใหม่ และช่วยขยายมูลค่าการค้าสินค้าแล้ว ยังจะเป็นประตูการค้าสู่ภูมิภาคอเมริกาใต้ อีกด้วย
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630