กลุ่มบันเทิงหนุนไทยเปิดเสรีกับอียู

กลุ่มบันเทิงหนุนไทยเปิดเสรีกับอียู แต่รัฐต้องช่วยเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการ ทั้งการใช้กฎหมายการลดหย่อนภาษี และการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ นายอัครพล ลีลาจินดามัย ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนในเรื่องการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่า ได้ประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนกลุ่มบริการสาขาบันเทิง ซึ่งเอกชนเห็นว่าสภาพธุรกิจภาพยนตร์ เพลง และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น ปัจจุบันเป็นการผลิตเพื่อการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก และมีการส่งออกไปยังต่างประเทศตามคำสั่งซื้อของลูกค้า โดยรูปแบบการผลิตภาพยนตร์ไทยและเพลงไทย เป็นการผลิตเพื่อสนองต่อกลุ่มคนที่รู้วิถีชีวิตและเข้าใจกระแสความต้องการของภาษาไทย ดังนั้น ในการเปิดเสรีกับอียู ผู้ประกอบการต่างตระหนักถึงความสำคัญของการแข่งขันในเวทีระหว่างประเทศ และได้เสนอแนะให้ภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลืออุตสาหกรรมภาพยนตร์และเพลง ด้านการลดหย่อนภาษีอุปกรณ์ที่นำเข้าเพื่อการผลิต รวมถึงการออกมาตรการ กฎหมายในการติดตามการชำระหนี้ของลูกหนี้ รวมทั้งควรสนับสนุนให้มีการศึกษาเชิงลึกในเรื่องของ Content และแนวโน้มการบริโภคธุรกิจบันเทิงในอนาคตของตลาดต่างประเทศ เพื่อให้ผู้ประกอบการไทย สามารถพัฒนาผลงานให้สอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรมและความต้องการของตลาดอียู ผู้ประกอบการ มีความเห็นว่า ภาครัฐควรพิจารณาความพร้อมของผู้ประกอบการไทยในการแข่งขันกับผู้ประกอบการอียู และประเด็นกฎหมายที่ใช้ในการกำกับดูแลธุรกิจสาขาบันเทิง เพื่อให้ไทยได้ประโยชน์จากการเจรจาเปิดตลาดสูงสุด ทั้งนี้ ภาครัฐควรมีมาตรการหรือนโยบายที่ชัดเจนในการลดหย่อนภาษีแก่ผู้ผลิตและจำหน่ายภาพยนตร์ รวมทั้งธุรกิจด้าน Post Production และการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ของภาพยนตร์และเพลงด้วย

ทั้งนี้ ในการหารือ ผู้แทนกระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวง ICT ให้ความเห็นว่า ไทยยังต้องเตรียมความพร้อมในหลายๆ ด้าน เช่น แหล่งเงินทุน การสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้บริโภค โดยเฉพาะเยาวชน และกฎหมายที่จะมากำกับดูแล digital content และกิจการกระจายเสียงและกิจการ

โทรคมนาคม ในขณะที่กระทรวงแรงงาน ให้ข้อเสนอแนะว่า ประเทศไทยควรมีการจัดตั้งเขตอุตสาหกรรมบันเทิง โดยศึกษาตัวอย่างการดำเนินงานที่ดีที่สุดของต่างประเทศ และนำมาประยุกต์ให้เหมาะสมกับประเทศไทย

นอกจากนี้ จากการหารือยังเห็นว่าอียูยังไม่ได้ผูกพันสาขาโสตทัศน์ภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) เนื่องจากสาขาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม และเป็นโอกาสอันดีสำหรับประเทศไทย ในการระดมความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อมูล/ความเห็น เพื่อใช้ในการเจรจาสาขาโสตทัศน์กับอียูในอนาคต สำหรับการประชุมร่วมกับเอกชนกลุ่มบริการสาขาบันเทิงครั้งนี้ มีผู้แทนภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม ได้แก่ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กรมประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการส่งออก กรมทรัพย์สินทางปัญญา สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ สมาคมผู้บริหารการผลิตภาพยนตร์ต่างประเทศ สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจบันเทิงไทย บริษัท GMM Grammy บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท สหมงคลฟิล์ม จำกัด และบริษัท Workpoint Entertainment เป็นต้น

ทั้งนี้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ยังได้จัดทำช่องทางการรับฟังความคิดเห็นผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตในรูปแบบเว็บบอร์ด ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถลงทะเบียนเข้าใช้ เพื่อแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อดังกล่าวได้ที่ www.dtn.go.th

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000 โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630