อลงกรณ์ เปิดเส้นทางโลจิสติกส์การค้าใหม่ เชื่อมโยงไทยกับอนุภูมิภาคอ่าวเป่ยปู้

ข่าวทั่วไป Thursday August 19, 2010 15:27 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จะนำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจรอบอ่าวเป่ยปู้ (Pan Beibu Gulf Economic Cooperation - PBGEC) ครั้งที่ 5 จัดขึ้น ณ นครหนานหนิง เขตปกครองตนเองกวางสี ระหว่างวันที่ 12-13 สิงหาคม 2553 เพื่อเปิดเส้นทางโลจิสติกส์การค้าใหม่ระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศในอนุภูมิภาคเป่ยปู้ ซึ่งประกอบด้วย 3 มณฑลของจีน ได้แก่ กวางสี กวางตุ้ง และไหหนาน และประเทศในอาเซียนที่อยู่ในย่านอ่าวเป่ยปู้ หรือ “อ่าวตังเกี๋ย” ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ บรูไน มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย โดยไทยได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกรายล่าสุดของอาเซียนตั้งแต่ปี 2552 และจะเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ในฐานะประเทศสมาชิกเป็นครั้งที่ 2

กรอบความร่วมมืออ่าวเป่ยปู้เป็นตลาดที่น่าจับตามอง มีประชากร 1.9 พันล้านคน เป็นขั้วเศรษฐกิจใหม่ที่มีอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุดในเอเชียแปซิฟิก และเป็นฐานการผลิตสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ยางพารา ผลไม้ และอุตสาหกรรมที่สำคัญ เช่น อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องจักรกล และสินค้าแร่ต่าง ๆ เช่น เหล็ก ถ่านหิน ทองแดง โดยมีมูลค่าการค้าระหว่างกันเฉลี่ยต่อปีมากกว่า 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยไทยเป็นคู่ค้าที่สำคัญอันดับที่ 2 (รองจากมาเลเซีย) โดยไทยมีมูลค่าการค้ากับมณฑลกวางสี กวางตุ้ง และไหหนาน คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 20 ของมูลค่าการค้าทั้งหมดในกลุ่มอ่าวเป่ยปู้ โดยสินค้าหลักที่ไทยส่งออกใน 3 มณฑลของจีน ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม แผงวงจรไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ยางสังเคราะห์ และผลไม้ โดยทั้ง 3 มณฑลข้างต้น เป็นประตูการค้าสำคัญและมีสัดส่วน 1/3 ของมูลค่านำเข้าสินค้าไทยทั้งหมดในตลาดจีน

ภายใต้กรอบอนุภูมิภาคอ่าวเป่ยปู้จะมีโครงการพัฒนาหลักที่เน้นเรื่องโลจิสติกส์ของการขนส่งทางทะเล (Maritime Logistics) ซึ่งจะช่วยเสริมกับกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) ที่เน้นเรื่องโลจิสติกส์ของการขนส่งทางถนน (Road Logistics) เชื่อมโยงกลุ่มอินโดจีนและจีนตอนใต้ ทำให้อนุภูมิภาคในอาเซียน โดยเฉพาะไทย ลาว เวียดนาม มีการเชื่อมต่อกับจีนตอนใต้อย่างครบวงจรตามแนวคิด “หนึ่งแกน สองปีก” (One Economic Belt — Two Corridors) ที่ช่วยเสริมการเปิดตลาดการค้าและการลงทุนของอาเซียนกับจีน เมื่อต้นปี 2553 นี้ อาเซียนกับจีนได้ยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้ากว่าร้อยละ 90 ของรายการสินค้าระหว่างกันแล้ว

นอกจากนี้ ในการประชุมฯ ประเทศภาคีจะเดินหน้ายกระดับการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ทางทะเล ได้แก่ การพัฒนาท่าเรือน้ำลึก การเปิดเส้นทางเดินเรือประจำเส้นทางที่ให้บริการเดินเรือตรงระหว่างท่าเรือหลักในอาเซียนและ 3 มณฑลของจีน เช่น ท่าเรือเป่ยไห่ ท่าเรือฝางเฉิง และท่าเรือซินโจว การส่งเสริมการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ การจัดทำเขตปลอดอากร การอำนวยความสะดวกด้านพิธีการการค้า และการส่งเสริมกิจกรรมการค้าระหว่างกัน ซึ่งจะช่วยลดเวลาและต้นทุนการค้าระหว่างไทยกับตลาดในอภูมิภาคอ่าว

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ