นายวุฒิชัย ดวงรัตน์ รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการดำเนินงานความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ 28-30 กรกฎาคม 2553 ณ เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา ว่าที่ประชุมให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกกระตุ้นผู้ส่งออกและผู้นำเข้ามาใช้สิทธิประโยชน์จาก FTA อาเซียน-เกาหลีใต้ (AKFTA) หลังพบว่ามีการใช้สิทธิประโยชน์น้อยมาก เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการที่ใช้สิทธิประโยชน์จำกัดอยู่กับนักธุรกิจกลุ่มเดิมที่ทำการค้ากับเกาหลีอยู่แล้ว อีกทั้งยังขาดกิจกรรมส่งเสริมการค้า รวมถึงความซับซ้อนเรื่องการยื่นเอกสารประกอบและการกรอกแบบฟอร์มขอใช้สิทธิ FTA
นายวุฒิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมได้มีการหารือแนวทางการเพิ่มอัตราการใช้สิทธิพิเศษทางภาษีจากความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลีใต้ เช่น การเร่งเปิดเสรีสินค้าอ่อนไหว การทบทวนภาษีของการค้าต่างตอบแทน และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์เพิ่มเติมจากความตกลงฯ ที่เสนอโดยไทย คือ การจัดงานแสดงสินค้าอาเซียน-เกาหลีใต้ เพื่อให้ภาคธุรกิจของทั้งอาเซียนและเกาหลีใต้ ได้มีโอกาสหารือแลกเปลี่ยนทางการค้าซึ่งกันและกัน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลงฯ มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอลงกรณ์ พลบุตร ให้ไว้คือหลังจากเจรจาทำความตกลงฯแล้ว ต้องส่งเสริมให้ภาคธุรกิจเข้ามาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ไทยยังได้ผลักดันให้ประเทศสมาชิกอาเซียนและเกาหลีใต้ สนับสนุนโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจ 3 โครงการ คือ 1) โครงการความร่วมมือในการสร้างเครือข่ายนักธุรกิจหญิงเจ้าของกิจการขนาดกลางและขนาดเล็กของอาเซียน 2) โครงการอบรมผู้บริหารธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กของอาเซียน และ 3) โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมการต่อเรือเพื่อก้าวทันกับโลกการค้า เทคโนโลยี และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในการประกอบธุรกิจต่อเรือและพาณิชยนาวี ซึ่งไทยจะได้ประโยชน์จากการเรียนรู้ธุรกิจเกาหลี ที่มีขีดความสามารถด้านการต่อและซ่อมเรือสูงในระดับโลก โดยโครงการดังกล่าว จะใช้งบประมาณสนับสนุนจากกองทุนอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ภายในปี 2554 ทั้งนี้ ไทยมั่นใจว่าโครงการที่เสนอจะเป็นประโยชน์และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับนักธุรกิจไทยได้อย่างแน่นอน
“เกาหลีใต้เป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาดสูง โดยสามารถใช้วัฒนธรรมและภาพยนต์เป็นสื่อในการขายสินค้า บริการ และขยายตลาดธุรกิจท่องเที่ยวที่สร้างความนิยมได้อย่างกว้างขวาง จากสถิติพบว่าในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา การค้าระหว่างประเทศของไทยกับเกาหลีใต้มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราสูง ทั้งด้านการนำเข้าและส่งออกโดยมีอัตราการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 70 และ 40 ตามลำดับ คาดว่าสิ้นปี 2553 มูลค่าการค้ารวมระหว่างประเทศไทยกับเกาหลีใต้ จะมียอดรวมเกินกว่าหนึ่งหมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งในอนาคตจะเป็นโอกาสดีที่ธุรกิจไทยจะแสวงหาลู่ทางการค้าและการลงทุนในเกาหลีใต้ได้ จึงขอให้ผู้ประกอบการไทยเร่งพัฒนาศักยภาพทางด้านการผลิตสินค้าและการตลาด ให้ทัดเทียมประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งศึกษาข้อมูลเพื่อใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลีให้ได้อย่างเต็มที่” นายวุฒิชัย กล่าว
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630