ผลการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Council) ครั้งที่ 4 วันที่ 25 สิงหาคม 2553 ณ ประเทศเวียดนาม

ข่าวทั่วไป Friday September 3, 2010 15:36 —กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ

รองนายกรัฐมนตรี (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี) เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Council) ครั้งที่ 4 เปิดเผยว่า ที่ประชุมรับทราบสถานะการประเมินผลตาม AEC Scorecard ซึ่งเป็นกลไกในการติดตามประเมินผลการปฏิบัติตามพันธกรณีของประเทศสมาชิก โดยมีการวัดผลทุก 2 ปี ครั้งแรกระหว่าง 1 มกราคม 2551- 31 ธันวาคม 2552 ซึ่งอาเซียนในภาพรวม ทำได้ ร้อยละ 78.2 ของแผนงานที่ครบกำหนด ในส่วนของไทย จากการวัดผลล่าสุดถึงเดือนกรกฎาคม 2552 สามารถดำเนินการได้เพิ่มขึ้น 15 มาตรการ เช่น

1. การให้สัตยาบันความตกลงการค้าสินค้าอาเซียน (ATIGA)

2. การดำเนินการ National Single Window (ไทยเปิดให้บริการ NSW ระยะที่ 1 เมื่อเดือนกรกฎาคม 2551 เชื่อมโยงระบบระหว่างกรมศุลกากรกับภาครัฐ 4 หน่วยงาน คือ กรมการค้าต่างประเทศ กรมโรงงานอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และกรมปศุสัตว์)

3. การให้สัตยาบันความตกลงพหุภาคีอาเซียนว่าด้วยการเปิดเสรีขนส่งสินค้าทางอากาศ ความตกลงพหุภาคีอาเซียนว่าด้วยบริการเดินอากาศและพิธีสารแนบท้าย เป็นต้น สำหรับมาตรการที่ไทยยังไม่สามารถดำเนินการได้ เช่น การเปิดเสรีภาคบริการ เป็นเรื่องที่ประเทศสมาชิกอื่นยังทำไม่ได้เช่นกัน นอกจากนี้ พิธีสารภายใต้ความตกลงการอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าผ่านแดน บางเรื่องยังต้องหารือในรายละเอียดกับประเทศสมาชิกอื่น

ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการจัดทำแผนแม่บทเรื่องการเชื่อมโยงกันในอาเซียน (ASEAN Connectivity) มี 4 ด้านหลัก คือ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และการพัฒนา โดยแผนแม่บทฯ ประกอบด้วย (1) การเชื่อมโยงทางกายภาพ (ขนส่ง ICT พลังงาน) (2) การเชื่อมโยงองค์กร (การเปิดเสรีและอำนวยความสะดวกทางการค้า การลงทุน, MRA, ขนส่ง, CAPACITY BUILDING) (3) การเชื่อมโยงประชาชน (ท่องเที่ยว การศึกษาและวัฒนธรรม) โดยไทยให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงด้านกายภาพโดยเฉพาะการขนส่งเป็นหลัก และการอำนวยความสะดวกทางการค้าเพื่อช่วยลดต้นทุนทางธุรกรรมให้ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ (1) ASEAN SINGLE WINDOW (2) การนำระบบการรับรองถิ่นกำเนินสินค้าด้วยตนเอง (SELF CERTIFICATION) มาใช้ และ(3) การจัดตั้งคลังข้อมูลทางการค้าของอาเซียน (ASEAN TRADE REPOSITORY) แต่ต้องคำนึงถึงระดับความพร้อมที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศอาเซียนและให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างศักยภาพ (CAPACITY BUILDING) ด้วย

ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นพ้องถึงความสำคัญเรื่องการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ AEC ให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในภาคส่วนต่างๆโดยเฉพาะภาคธุรกิจเพื่อใช้ประโยชน์จาก AEC ได้อย่างเต็มที่ โดยมีแผนงานทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ ในส่วนของไทยจะให้ความสำคัญกับกลุ่ม SME เป็นพิเศษ

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 44/100 ถ.นนทบุรี1 ต. บางกระสอ อ. เมือง จ. นนทบุรี 11000

โทรศัพท์ (66) 2507-7444 แฟกซ์ (66) 2547-5630

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ