จากการที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดแถลงปิดคดีด้วยวาจา ในคดียุบพรรคประชาธิปัตย์กรณีเงินอุดหนุน 29 ล้านบาท ในวันที่ 29 พฤศจิกายน นี้ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) จึงได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนจากทั่วทุกภาคของประเทศ พบว่า ประชาชนร้อยละ 30.3 ไม่แน่ใจว่าทิศทางการเมืองของไทยต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรหากพรรคประชาธิปัตย์ถูกยุบ ส่วนร้อยละ 25.0 เชื่อว่าจะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง โดยจะมีผลทำให้การบริหารบ้านเมืองหยุดชะงักเพราะต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ เกิดการแย่งชิงอำนาจในการบริหารประเทศ แต่ขณะเดียวกันก็จะช่วยลดภาพความเป็น 2 มาตรฐานลง
สำหรับรัฐบาลใหม่ที่ประชาชนอยากได้หากมีการยุบพรรคประชาธิปัตย์ และนายกฯ อภิสิทธิ์ถูกเว้นวรรคทางการเมือง พบว่า ร้อยละ 45.4 ต้องการรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งใหม่ทั้งชุด ขณะที่ร้อยละ 43.7 ต้องการรัฐบาลที่มาจาก ส.ส. ชุดเดิมในปัจจุบันรวมกับ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งซ่อมแทน ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกตัดสิทธิ์ และร้อยละ 10.9 ต้องการให้มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติหรือรัฐบาลเฉพาะกิจมาบริหารประเทศจนครบเทอม
บุคคลที่ประชาชนต้องการให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หากมีการยุบพรรคประชาธิปัตย์ และนายกฯ อภิสิทธิ์ ถูกเว้นวรรคทางการเมือง พบว่า อันดับแรกคือนายอานันท์ ปันยารชุน ร้อยละ 12.0 รองลงมาคือนายชวน หลีกภัย ร้อยละ 11.4 และนายกรณ์ จาติกวณิช ร้อยละ 8.0 ตามลำดับ
ส่วนความเห็นต่อประเด็นที่ว่า ถ้านายกฯ อภิสิทธิ์ จะตัดสินใจยุบสภา ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเรื่องการยุบพรรคประชาธิปัตย์นั้น ประชาชนร้อยละ 56.0 ไม่เห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 44.0 เห็นด้วย
ดังรายละเอียดต่อไปนี้
- ดีขึ้น ร้อยละ 20.4 - เหมือนเดิม ร้อยละ 25.0 - แย่ลง ร้อยละ 24.3 - ไม่แน่ใจ ไม่ชัดเจน ร้อยละ 30.3 2. ผลกระทบที่มีต่อการเมืองไทยถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ คือ
- ทำให้การบริหารบ้านเมืองหยุดชะงักเพราะต้องมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ร้อยละ 24.1
- ทำให้เกิดการแย่งชิงอำนาจในการบริหารประเทศ ร้อยละ 21.5 - ลดภาพความเป็น 2 มาตรฐานลง ร้อยละ 18.4 - เกิดการต่อรองทางการเมืองเพิ่มขึ้น ร้อยละ 12.8 - ความขัดแย้งทางการเมืองลดลง ร้อยละ 12.7 - เกิดการสลับขั้วทางการเมือง ร้อยละ 8.7 - อื่นๆ อาทิ เหมือนเดิม และไม่ออกความเห็น ร้อยละ 1.8 3. รัฐบาลใหม่ที่ประชาชนต้องการได้ หากมีการยุบพรรคประชาธิปัตย์ และนายกฯ อภิสิทธิ์ถูกเว้นวรรคทางการเมือง คือ - รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งใหม่ทั้งชุด ร้อยละ 45.4
- รัฐบาลที่มาจาก ส.ส.ชุดเดิมในปัจจุบันรวมกับ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งซ่อมแทน ส.ส.
ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกตัดสิทธิ์ ร้อยละ 43.7
โดยต้องการให้เป็น
- รัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์เดิมเป็นแกนนำและมีพรรคร่วมรัฐบาลชุดเดิม ร้อยละ 15.8
- รัฐบาลที่มีพรรคประชาธิปัตย์เดิมเป็นแกนนำแต่เปลี่ยนพรรคร่วมรัฐบาลใหม่ ร้อยละ 12.6
- รัฐบาลที่มีพรรคร่วมรัฐบาลชุดเดิมแต่เปลี่ยนพรรคแกนนำใหม่ ร้อยละ 8.4 - เปลี่ยนขั้วรัฐบาลใหม่โดยให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ร้อยละ 6.9 - จัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติหรือรัฐบาลเฉพาะกิจมาบริหารประเทศจนครบเทอม ร้อยละ 10.9 4. บุคคลที่ประชาชนต้องการให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ หากมีการยุบพรรคประชาธิปัตย์ และนายกฯ อภิสิทธิ์ ถูกเว้นวรรคทางการเมือง คือ - บุคคลภายนอกที่ไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง ร้อยละ 40.1
(บุคคลที่ต้องการ 3 อันดับแรก ได้แก่ (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)
นายอานันท์ ปันยารชุน ร้อยละ 12.0 ร.ต.อ. ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ร้อยละ 1.9 นายวิกรม กรมดิษฐ์ ร้อยละ 1.5 - บุคคลในพรรคอื่นที่ไม่ใช่พรรคพรรคประชาธิปัตย์เดิม ร้อยละ 30.4
(บุคคลที่ต้องการ 3 อันดับแรก ได้แก่ (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)
ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ร้อยละ 3.5 พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ร้อยละ 3.0 พล.อ สนธิ บุญยรัตกลิน ร้อยละ 1.5 - บุคคลในพรรคประชาธิปัตย์เดิม ร้อยละ 29.5
(บุคคลที่ต้องการ 3 อันดับแรกได้แก่ (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)
นายชวน หลีกภัย ร้อยละ 11.4 นายกรณ์ จาติกวณิช ร้อยละ 8.0 นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ร้อยละ 4.8 5. ความคิดเห็นต่อประเด็นที่ว่า ถ้านายกฯ อภิสิทธิ์ จะตัดสินใจยุบสภา ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเรื่องการยุบพรรคประชาธิปัตย์ พบว่า - เห็นด้วย ร้อยละ 44.0 - ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 56.0
รายละเอียดในการสำรวจ
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ ในทุกภาคของประเทศ โดยการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) และใช้วิธีเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์แบบพบตัว ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,203 คน เป็นเพศชายร้อยละ 51.4 และเพศหญิงร้อยละ 48.5
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน +/- 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิด (Open Form) จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 18 - 22 พฤศจิกายน 2553 วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 24 พฤศจิกายน 2553
ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ เพศ ชาย 619 51.5 หญิง 584 48.5 รวม 1,203 100.0 อายุ 18 ปี - 25 ปี 295 24.5 26 ปี — 35 ปี 337 28.0 36 ปี — 45 ปี 298 24.8 46 ปีขึ้นไป 273 22.7 รวม 1,203 100.0 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 571 47.5 ปริญญาตรี 549 45.6 สูงกว่าปริญญาตรี 83 6.9 รวม 1,203 100.0 อาชีพ ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ 161 13.4 พนักงานบริษัทเอกชน 390 32.4 ค้าขาย / ประกอบอาชีพส่วนตัว 310 25.7 รับจ้างทั่วไป 127 10.6 พ่อบ้าน / แม่บ้าน / เกษียณอายุ 69 5.8 อื่นๆ เช่น นิสิตนักศึกษา อาชีพอิสระ ว่างงาน 146 12.1 รวม 1,203 100.0
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--