ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาสถานการณ์บ้านเมืองของไทยตกอยู่ในสภาพสับสนวุ่นวาย อันเนื่องมาจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มต่างๆ ที่เกิด
ขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะนำไปสู่ความแตกแยกรุนแรง ส่งผลให้สังคมไทยเกิดความวิตกกังวลมากยิ่งขึ้นทุกขณะ สถานการณ์เช่นนี้สื่อหนังสือพิมพ์
ในฐานะช่องทางหลักที่ทรงอิทธิพลต่อความคิดและท่าทีของผู้คนในวงกว้าง ย่อมถูกจับตามองทั้งในเรื่องของความมีเสรีภาพ และการทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์
สุจริตบนพื้นฐานของจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพและการยึดมั่นในผลประโยชน์ของประเทศชาติ ในโอกาสที่สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ครบรอบการก่อตั้ง
10 ปี จึงได้ร่วมกับศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จัดทำโครงการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “เสรีภาพและความรับผิดชอบของ
สื่อหนังสือพิมพ์ท่ามกลางวิกฤตประเทศ” ขึ้น โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์สุนิสา ประวิชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เป็นผู้รับผิดชอบ
โครงการ การสำรวจดังกล่าวเก็บข้อมูลจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปที่ระบุว่าอ่านหนังสือพิมพ์รายวันระดับชาติอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน จำนวน
2,060 คน จาก 30 จังหวัด ทั่วทุกภาคของประเทศ เมื่อวันที่ 5-13 มิถุนายน 2550 สรุปผลได้ดังนี้
1. วัตถุประสงค์หลักในการอ่านหนังสือพิมพ์รายวัน
- เพื่อทราบเรื่องราวความเป็นไปในสังคม.......................................ร้อยละ 33.7
- เพื่อให้เข้าใจถึงที่มาที่ไปและเบื้องหลังของเรื่องราวสำคัญที่เกิดขึ้น....................ร้อยละ 24.5
- เพื่อให้มีข้อมูลไว้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนอื่น......................................ร้อยละ 15.7
- เพื่อความบันเทิง........................................................ร้อยละ 14.1
- เพื่อให้มีข้อมูลไว้ใช้ประกอบการตัดสินใจเรื่องต่างๆ...............................ร้อยละ 12.0
2. วัตถุประสงค์ในการอ่านหนังสือพิมพ์ เปรียบเทียบระหว่างก่อนและหลังประเทศประสบปัญหาวิกฤต
- วัตถุประสงค์ในการอ่านหนังสือพิมพ์ยังเหมือนเดิม.................................ร้อยละ 89.2
- วัตถุประสงค์ในการอ่านหนังสือพิมพ์เปลี่ยนไป....................................ร้อยละ 10.8
3. ความพึงพอใจต่อเนื้อหาสาระที่นำเสนอในสื่อหนังสือพิมพ์รายวันระดับชาติในช่วงที่ประเทศชาติเผชิญวิกฤตด้านการเมืองการปกครอง
มีคะแนนเฉลี่ย 6.10 จากคะแนนเต็ม 10.00 โดยมีคะแนนความพึงพอใจในแต่ละด้าน ดังนี้
ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจที่ได้(เต็ม 10.00)
ด้านความรวดเร็วทันเหตุการณ์ 6.60
ด้านความต่อเนื่องของการนำเสนอความคืบหน้า 6.38
ด้านความชัดเจนเข้าใจง่าย 6.16
ด้านความครบถ้วนสมบูรณ์ของเรื่องราว 5.88
ด้านความเป็นกลางไม่เอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใด 5.51
ด้านความถูกต้องเที่ยงตรงเชื่อถือได้ 5.41
ความพึงพอใจต่อเนื้อหาสาระเฉลี่ยรวม 6.10
4. ความพึงพอใจต่อการทำหน้าที่ของสื่อหนังสือพิมพ์รายวันระดับชาติในช่วงที่ประเทศชาติเผชิญวิกฤต
มีคะแนนเฉลี่ย 5.99 จากคะแนนเต็ม 10.00 โดยมีคะแนนความพึงพอใจในแต่ละด้าน ดังนี้
ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจที่ได้(เต็ม 10.00)
การติดตามข่าวสาร เหตุการณ์มานำเสนอให้ประชาชนได้รับทราบ 6.74
การให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องที่จำเป็นต่อการแก้ปัญหาของประเทศ 6.12
การแสดงความเห็น ตีความ และเชื่อมโยงให้ประชาชนเข้าใจถึงที่มาที่ไปของเรื่องราวที่เกิดขึ้น 6.02
การปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติโดยส่วนรวม 5.54
การกระตุ้น ชี้นำให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างถูกต้องเหมาะสม 5.53
การตรวจสอบรัฐบาลและผู้มีอำนาจในบ้านเมือง 5.16
ความพึงพอใจต่อการทำหน้าที่ของสื่อหนังสือพิมพ์เฉลี่ยรวม 5.99
5. ความคิดเห็นต่อสิทธิเสรีภาพของสื่อหนังสือพิมพ์ไทยในยุคปัจจุบัน
- เห็นว่าสื่อหนังสือพิมพ์ในยุคปัจจุบันมีเสรีภาพน้อยเกินไป.........................................ร้อยละ 40.4
- เห็นว่าสื่อหนังสือพิมพ์ในยุคปัจจุบันมีเสรีภาพมากเกินไป.........................................ร้อยละ 34.4
- เห็นว่าสื่อหนังสือพิมพ์ในยุคปัจจุบันมีเสรีภาพในระดับที่เหมาะสมแล้ว................................ร้อยละ 25.2
6. ความคิดเห็นต่อสิทธิเสรีภาพของสื่อหนังสือพิมพ์ในยุครัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เปรียบเทียบกับยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พบว่า
- เห็นว่าสื่อหนังสือพิมพ์ยุครัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ มีเสรีภาพน้อยกว่ายุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ...............ร้อยละ 30.1
- เห็นว่าสื่อหนังสือพิมพ์ในยุครัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ มีเสรีภาพมากกว่ายุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ.............ร้อยละ 42.5
- เห็นว่าสื่อหนังสือพิมพ์ในยุครัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ มีเสรีภาพเท่าๆกับยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ.............ร้อยละ 27.4
7. ความคิดเห็นต่อแนวคิดเรื่องเสรีภาพของสื่อหนังสือพิมพ์กับความเที่ยงตรงในการนำเสนอข่าวสาร และประโยชน์ที่สังคมโดยส่วนรวมจะได้รับ
7.1 ถ้าสื่อหนังสือพิมพ์มีเสรีภาพมากขึ้น การนำเสนอข่าวสารจะเที่ยงตรงตามความเป็นจริงมากขึ้น
- เห็นด้วยกับคำกล่าวดังกล่าว..................................................ร้อยละ 83.6
- ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวดังกล่าว................................................ร้อยละ 16.4
7.2 ถ้าสื่อหนังสือพิมพ์มีเสรีภาพมากขึ้น จะทำให้ประชาชนและสังคมส่วนรวมได้รับประโยชน์มากขึ้น
- เห็นด้วยกับคำกล่าวดังกล่าว..................................................ร้อยละ 86.3
- ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวดังกล่าว................................................ร้อยละ 13.7
8. ความคิดเห็นต่อจรรยาบรรณและความรับผิดชอบของสื่อหนังสือพิมพ์ในปัจจุบัน
- เห็นว่าสื่อหนังสือพิมพ์ในปัจจุบันมีจรรยาบรรณและความรับผิดชอบดีพอแล้ว...........................ร้อยละ 50.3
- เห็นว่าสื่อหนังสือพิมพ์ในปัจจุบันยังมีจรรยาบรรณและความรับผิดชอบไม่ดีพอ..........................ร้อยละ 49.7
โดยเห็นว่าสิ่งที่สื่อหนังสือพิมพ์ควรปรับปรุง คือ เรื่องการนำเสนอข่าวเกินจริง ขาดการตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำเสนอ การใส่ความ
คิดเห็นส่วนตัวลงไปในข่าว การเสนอข่าวไม่เป็นกลาง และการนำเสนอภาพข่าวที่โหดร้ายรุนแรง เป็นต้น
9. ความเห็นต่อกลไกที่เหมาะสมในการควบคุมดูแลเรื่องจรรยาบรรณของสื่อหนังสือพิมพ์
- ให้สื่อควบคุมกันเอง.................................................................ร้อยละ 68.0
- ให้รัฐบาลเป็นผู้ควบคุมสื่อ.............................................................ร้อยละ 32.0
10. การรู้จักและรับรู้ต่อบทบาทการดำเนินงานของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
- ไม่รู้จักเลย.......................................................................ร้อยละ 51.0
- เคยได้ยินชื่อแต่ไม่รู้ว่าทำอะไร.........................................................ร้อยละ 45.2
- รู้จัก............................................................................ร้อยละ 3.8
โดยในกลุ่มผู้ที่ตอบว่ารู้จัก จำแนกเป็น
- สามารถระบุบทบาทหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง................ร้อยละ 2.4
- ไม่สามารถระบุบทบาทหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง..............ร้อยละ 1.4
ระเบียบวิธีในการสำรวจ
การสำรวจใช้วิธีสุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปตามสัดส่วนของประชากรในแต่ละภาค โดยเลือกเก็บข้อมูลเฉพาะผู้ที่ระบุว่าอ่าน
หนังสือพิมพ์รายวันระดับชาติอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน ใน 30 จังหวัดจากทุกภาคของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี
สมุทรปราการ กาญจนบุรี ราชบุรี สระบุรี ลพบุรี ชลบุรี พะเยา เชียงใหม่ น่าน เชียงราย พิษณุโลก สุโขทัย ขอนแก่น ชัยภูมิ สุรินทร์ อุบลราชธานี
ศรีษะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ สกลนคร อุดรธานี หนองคาย ร้อยเอ็ด สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และนราธิวาส จำนวน 2,060 คน เป็นเพศชายร้อย
ละ 49.8 เพศหญิงร้อยละ 50.2 เก็บข้อมูลเมื่อวันที่ 5-13 มิถุนายน 2550 โดยใช้แบบสอบถามสัมภาษณ์ในขั้นต้น จากนั้นสุ่มเลือกบางส่วนมาสัมภาษณ์
เชิงลึกเพิ่มเติมในบางประเด็น
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างใช้ความคลาดเคลื่อน ฑ 5% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล
การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถามสัมภาษณ์ความคิดเห็นของประชากรเป้าหมายจำนวน 2,060 คน
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 5-13 มิถุนายน 2550
วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ : 28 มิถุนายน 2550
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ
เพศ :
ชาย 1025 49.8
หญิง 1035 50.2
อายุ
18-25 ปี 618 30.0
26-35 ปี 647 31.4
36-45 ปี 504 24.5
46 ปีขึ้นไป 291 14.1
การศึกษา
ต่ำกว่าปริญญาตรี 1163 56.5
ปริญญาตรี 780 37.9
สูงกว่าปริญญาตรี 117 5.6
อาชีพ
ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ 422 20.5
ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว 378 18.3
รับจ้างทั่วไป 248 12.0
พนักงานลูกจ้างบริษัทเอกชน 337 16.4
พ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ 123 6.0
เกษตรกร ประมง 77 3.7
นิสิต นักศึกษา 396 19.2
อื่นๆ อาทิ อาชีพอิสระ ว่างงาน ฯลฯ 79 3.9
ที่อยู่อาศัย
กรุงเทพฯ และปริมณฑล 451 21.9
ต่างจังหวัดในเขตอำเภอเมือง 926 45.0
ต่างจังหวัดนอกเขตอำเภอเมือง 683 33.1
ความถี่ในการอ่านหนังสือพิมพ์รายวันระดับชาติ
อ่านทุกวัน 619 30.0
อ่านสัปดาห์ละ 4-6 วัน 450 21.8
อ่านสัปดาห์ละ 1-3 วัน 991 48.1
ประเภทของเนื้อหาในหนังสือพิมพ์รายวันที่สนใจอ่านมากที่สุด
การเมือง 544 26.4
บันเทิง 456 22.1
อาชญากรรม 306 14.9
กีฬา 239 11.6
ความรู้ วิทยาการ 198 9.6
สังคม 186 9.0
เศรษฐกิจ การลงทุน 83 4.0
อื่นๆ อาทิ ข่าวการรับสมัครงาน โฆษณา ฯลฯ 48 2.4
รวม 2,060 100
ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โทร. 02-350-3500 ต่อ 1776
E-mail: research@bu.ac.th Website: http://research.bu.ac.th
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--
-พห-
ขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะนำไปสู่ความแตกแยกรุนแรง ส่งผลให้สังคมไทยเกิดความวิตกกังวลมากยิ่งขึ้นทุกขณะ สถานการณ์เช่นนี้สื่อหนังสือพิมพ์
ในฐานะช่องทางหลักที่ทรงอิทธิพลต่อความคิดและท่าทีของผู้คนในวงกว้าง ย่อมถูกจับตามองทั้งในเรื่องของความมีเสรีภาพ และการทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์
สุจริตบนพื้นฐานของจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพและการยึดมั่นในผลประโยชน์ของประเทศชาติ ในโอกาสที่สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ครบรอบการก่อตั้ง
10 ปี จึงได้ร่วมกับศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จัดทำโครงการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “เสรีภาพและความรับผิดชอบของ
สื่อหนังสือพิมพ์ท่ามกลางวิกฤตประเทศ” ขึ้น โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์สุนิสา ประวิชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เป็นผู้รับผิดชอบ
โครงการ การสำรวจดังกล่าวเก็บข้อมูลจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปที่ระบุว่าอ่านหนังสือพิมพ์รายวันระดับชาติอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน จำนวน
2,060 คน จาก 30 จังหวัด ทั่วทุกภาคของประเทศ เมื่อวันที่ 5-13 มิถุนายน 2550 สรุปผลได้ดังนี้
1. วัตถุประสงค์หลักในการอ่านหนังสือพิมพ์รายวัน
- เพื่อทราบเรื่องราวความเป็นไปในสังคม.......................................ร้อยละ 33.7
- เพื่อให้เข้าใจถึงที่มาที่ไปและเบื้องหลังของเรื่องราวสำคัญที่เกิดขึ้น....................ร้อยละ 24.5
- เพื่อให้มีข้อมูลไว้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนอื่น......................................ร้อยละ 15.7
- เพื่อความบันเทิง........................................................ร้อยละ 14.1
- เพื่อให้มีข้อมูลไว้ใช้ประกอบการตัดสินใจเรื่องต่างๆ...............................ร้อยละ 12.0
2. วัตถุประสงค์ในการอ่านหนังสือพิมพ์ เปรียบเทียบระหว่างก่อนและหลังประเทศประสบปัญหาวิกฤต
- วัตถุประสงค์ในการอ่านหนังสือพิมพ์ยังเหมือนเดิม.................................ร้อยละ 89.2
- วัตถุประสงค์ในการอ่านหนังสือพิมพ์เปลี่ยนไป....................................ร้อยละ 10.8
3. ความพึงพอใจต่อเนื้อหาสาระที่นำเสนอในสื่อหนังสือพิมพ์รายวันระดับชาติในช่วงที่ประเทศชาติเผชิญวิกฤตด้านการเมืองการปกครอง
มีคะแนนเฉลี่ย 6.10 จากคะแนนเต็ม 10.00 โดยมีคะแนนความพึงพอใจในแต่ละด้าน ดังนี้
ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจที่ได้(เต็ม 10.00)
ด้านความรวดเร็วทันเหตุการณ์ 6.60
ด้านความต่อเนื่องของการนำเสนอความคืบหน้า 6.38
ด้านความชัดเจนเข้าใจง่าย 6.16
ด้านความครบถ้วนสมบูรณ์ของเรื่องราว 5.88
ด้านความเป็นกลางไม่เอนเอียงเข้าข้างฝ่ายใด 5.51
ด้านความถูกต้องเที่ยงตรงเชื่อถือได้ 5.41
ความพึงพอใจต่อเนื้อหาสาระเฉลี่ยรวม 6.10
4. ความพึงพอใจต่อการทำหน้าที่ของสื่อหนังสือพิมพ์รายวันระดับชาติในช่วงที่ประเทศชาติเผชิญวิกฤต
มีคะแนนเฉลี่ย 5.99 จากคะแนนเต็ม 10.00 โดยมีคะแนนความพึงพอใจในแต่ละด้าน ดังนี้
ค่าเฉลี่ยความพึงพอใจที่ได้(เต็ม 10.00)
การติดตามข่าวสาร เหตุการณ์มานำเสนอให้ประชาชนได้รับทราบ 6.74
การให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องที่จำเป็นต่อการแก้ปัญหาของประเทศ 6.12
การแสดงความเห็น ตีความ และเชื่อมโยงให้ประชาชนเข้าใจถึงที่มาที่ไปของเรื่องราวที่เกิดขึ้น 6.02
การปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติโดยส่วนรวม 5.54
การกระตุ้น ชี้นำให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างถูกต้องเหมาะสม 5.53
การตรวจสอบรัฐบาลและผู้มีอำนาจในบ้านเมือง 5.16
ความพึงพอใจต่อการทำหน้าที่ของสื่อหนังสือพิมพ์เฉลี่ยรวม 5.99
5. ความคิดเห็นต่อสิทธิเสรีภาพของสื่อหนังสือพิมพ์ไทยในยุคปัจจุบัน
- เห็นว่าสื่อหนังสือพิมพ์ในยุคปัจจุบันมีเสรีภาพน้อยเกินไป.........................................ร้อยละ 40.4
- เห็นว่าสื่อหนังสือพิมพ์ในยุคปัจจุบันมีเสรีภาพมากเกินไป.........................................ร้อยละ 34.4
- เห็นว่าสื่อหนังสือพิมพ์ในยุคปัจจุบันมีเสรีภาพในระดับที่เหมาะสมแล้ว................................ร้อยละ 25.2
6. ความคิดเห็นต่อสิทธิเสรีภาพของสื่อหนังสือพิมพ์ในยุครัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เปรียบเทียบกับยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พบว่า
- เห็นว่าสื่อหนังสือพิมพ์ยุครัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ มีเสรีภาพน้อยกว่ายุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ...............ร้อยละ 30.1
- เห็นว่าสื่อหนังสือพิมพ์ในยุครัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ มีเสรีภาพมากกว่ายุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ.............ร้อยละ 42.5
- เห็นว่าสื่อหนังสือพิมพ์ในยุครัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ มีเสรีภาพเท่าๆกับยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ.............ร้อยละ 27.4
7. ความคิดเห็นต่อแนวคิดเรื่องเสรีภาพของสื่อหนังสือพิมพ์กับความเที่ยงตรงในการนำเสนอข่าวสาร และประโยชน์ที่สังคมโดยส่วนรวมจะได้รับ
7.1 ถ้าสื่อหนังสือพิมพ์มีเสรีภาพมากขึ้น การนำเสนอข่าวสารจะเที่ยงตรงตามความเป็นจริงมากขึ้น
- เห็นด้วยกับคำกล่าวดังกล่าว..................................................ร้อยละ 83.6
- ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวดังกล่าว................................................ร้อยละ 16.4
7.2 ถ้าสื่อหนังสือพิมพ์มีเสรีภาพมากขึ้น จะทำให้ประชาชนและสังคมส่วนรวมได้รับประโยชน์มากขึ้น
- เห็นด้วยกับคำกล่าวดังกล่าว..................................................ร้อยละ 86.3
- ไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวดังกล่าว................................................ร้อยละ 13.7
8. ความคิดเห็นต่อจรรยาบรรณและความรับผิดชอบของสื่อหนังสือพิมพ์ในปัจจุบัน
- เห็นว่าสื่อหนังสือพิมพ์ในปัจจุบันมีจรรยาบรรณและความรับผิดชอบดีพอแล้ว...........................ร้อยละ 50.3
- เห็นว่าสื่อหนังสือพิมพ์ในปัจจุบันยังมีจรรยาบรรณและความรับผิดชอบไม่ดีพอ..........................ร้อยละ 49.7
โดยเห็นว่าสิ่งที่สื่อหนังสือพิมพ์ควรปรับปรุง คือ เรื่องการนำเสนอข่าวเกินจริง ขาดการตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำเสนอ การใส่ความ
คิดเห็นส่วนตัวลงไปในข่าว การเสนอข่าวไม่เป็นกลาง และการนำเสนอภาพข่าวที่โหดร้ายรุนแรง เป็นต้น
9. ความเห็นต่อกลไกที่เหมาะสมในการควบคุมดูแลเรื่องจรรยาบรรณของสื่อหนังสือพิมพ์
- ให้สื่อควบคุมกันเอง.................................................................ร้อยละ 68.0
- ให้รัฐบาลเป็นผู้ควบคุมสื่อ.............................................................ร้อยละ 32.0
10. การรู้จักและรับรู้ต่อบทบาทการดำเนินงานของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
- ไม่รู้จักเลย.......................................................................ร้อยละ 51.0
- เคยได้ยินชื่อแต่ไม่รู้ว่าทำอะไร.........................................................ร้อยละ 45.2
- รู้จัก............................................................................ร้อยละ 3.8
โดยในกลุ่มผู้ที่ตอบว่ารู้จัก จำแนกเป็น
- สามารถระบุบทบาทหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง................ร้อยละ 2.4
- ไม่สามารถระบุบทบาทหน้าที่ได้อย่างถูกต้อง..............ร้อยละ 1.4
ระเบียบวิธีในการสำรวจ
การสำรวจใช้วิธีสุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปตามสัดส่วนของประชากรในแต่ละภาค โดยเลือกเก็บข้อมูลเฉพาะผู้ที่ระบุว่าอ่าน
หนังสือพิมพ์รายวันระดับชาติอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน ใน 30 จังหวัดจากทุกภาคของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี
สมุทรปราการ กาญจนบุรี ราชบุรี สระบุรี ลพบุรี ชลบุรี พะเยา เชียงใหม่ น่าน เชียงราย พิษณุโลก สุโขทัย ขอนแก่น ชัยภูมิ สุรินทร์ อุบลราชธานี
ศรีษะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ สกลนคร อุดรธานี หนองคาย ร้อยเอ็ด สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต และนราธิวาส จำนวน 2,060 คน เป็นเพศชายร้อย
ละ 49.8 เพศหญิงร้อยละ 50.2 เก็บข้อมูลเมื่อวันที่ 5-13 มิถุนายน 2550 โดยใช้แบบสอบถามสัมภาษณ์ในขั้นต้น จากนั้นสุ่มเลือกบางส่วนมาสัมภาษณ์
เชิงลึกเพิ่มเติมในบางประเด็น
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างใช้ความคลาดเคลื่อน ฑ 5% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล
การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถามสัมภาษณ์ความคิดเห็นของประชากรเป้าหมายจำนวน 2,060 คน
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 5-13 มิถุนายน 2550
วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ : 28 มิถุนายน 2550
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ
เพศ :
ชาย 1025 49.8
หญิง 1035 50.2
อายุ
18-25 ปี 618 30.0
26-35 ปี 647 31.4
36-45 ปี 504 24.5
46 ปีขึ้นไป 291 14.1
การศึกษา
ต่ำกว่าปริญญาตรี 1163 56.5
ปริญญาตรี 780 37.9
สูงกว่าปริญญาตรี 117 5.6
อาชีพ
ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ 422 20.5
ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว 378 18.3
รับจ้างทั่วไป 248 12.0
พนักงานลูกจ้างบริษัทเอกชน 337 16.4
พ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ 123 6.0
เกษตรกร ประมง 77 3.7
นิสิต นักศึกษา 396 19.2
อื่นๆ อาทิ อาชีพอิสระ ว่างงาน ฯลฯ 79 3.9
ที่อยู่อาศัย
กรุงเทพฯ และปริมณฑล 451 21.9
ต่างจังหวัดในเขตอำเภอเมือง 926 45.0
ต่างจังหวัดนอกเขตอำเภอเมือง 683 33.1
ความถี่ในการอ่านหนังสือพิมพ์รายวันระดับชาติ
อ่านทุกวัน 619 30.0
อ่านสัปดาห์ละ 4-6 วัน 450 21.8
อ่านสัปดาห์ละ 1-3 วัน 991 48.1
ประเภทของเนื้อหาในหนังสือพิมพ์รายวันที่สนใจอ่านมากที่สุด
การเมือง 544 26.4
บันเทิง 456 22.1
อาชญากรรม 306 14.9
กีฬา 239 11.6
ความรู้ วิทยาการ 198 9.6
สังคม 186 9.0
เศรษฐกิจ การลงทุน 83 4.0
อื่นๆ อาทิ ข่าวการรับสมัครงาน โฆษณา ฯลฯ 48 2.4
รวม 2,060 100
ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โทร. 02-350-3500 ต่อ 1776
E-mail: research@bu.ac.th Website: http://research.bu.ac.th
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--
-พห-