ผู้ใช้แรงงาน 91.1% ชี้ค่าจ้างขั้นต่ำปัจจุบันไม่พอดำรงชีพ ขอเพิ่มขึ้นเป็น 290 บาทต่อวัน
ด้วยวันที่ 1 พฤษภาคม นี้เป็นวันแรงงานแห่งชาติ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ(กรุงเทพโพลล์) จึงได้สำรวจความคิดเห็นของผู้ใช้แรง งานภายใต้หัวข้อ “ผู้ใช้แรงงาน กับสิ่งที่ร้องขอในวันแรงงานแห่งชาติ” โดยเก็บข้อมูลจากผู้ใช้แรงงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 1,073 คน พบว่า
ผู้ใช้แรงงานส่วนใหญ่ร้อยละ 91.1 ระบุว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในปัจจุบันไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ โดยค่าจ้างขั้นต่ำที่เพียงพอต่อการ ดำรงชีพเฉลี่ยควรอยู่ที่ 290 บาทต่อวัน
เมื่อสอบถามความเห็นเกี่ยวกับนโยบายค่าแรงขั้นต่ำที่ 2 พรรคใหญ่หาเสียงอยู่ในขณะนี้ พบว่า ในส่วนนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำร้อยละ 25 ภายใน 2 ปีของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ผู้ใช้แรงงานร้อยละ 57.9 ยังคงมองว่าการปรับค่าจ้างขั้นต่ำดังกล่าวยังคงไม่เพียงพอต่อการดำรง ชีพอยู่ดี และร้อยละ 63.7 ก็ยังไม่เชื่อว่านโยบายดังกล่าวจะทำได้จริง ในส่วนนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวันของพรรคเพื่อไทย ผู้ ใช้แรงงานร้อยละ 88.2 เห็นว่าค่าจ้างขั้นต่ำดังกล่าวเพียงพอต่อค่าครองชีพ และร้อยละ 54.0 เชื่อว่านโยบายดังกล่าวจะทำได้จริง เมื่อให้ผู้ ใช้แรงงานเปรียบเทียบทั้ง 2 นโยบายพบว่า ผู้ใช้แรงงานร้อยละ 84.5 ชอบนโยบายของพรรคเพื่อไทยมากกว่า
สำหรับแนวคิดการจัดทำ "มาตรฐานฝีมือแรงงาน" ที่กำลังจะเกิดขึ้น ผู้ใช้แรงงานร้อยละ 53.3 เชื่อว่าจะช่วยยกระดับอัตราค่าจ้าง ขั้นต่ำให้อยู่ในระดับที่ควรจะเป็นได้ ซึ่งการจัดทำมาตรฐานฝีมือแรงงานดังกล่าวผู้ใช้แรงงานร้อยละ 82.2 เชื่อว่าจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงาน ของแรงงานโดยรวมเพิ่มขึ้น
ส่วนสิ่งที่ผู้ใช้แรงงานต้องการฝากบอกไปยังนายจ้าง/เจ้าของกิจการ มากที่สุดเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ คือ ต้องการให้ขึ้นค่า แรง โบนัส เบี้ยขยัน รวมถึงดูแลค่าจ้างให้เหมาะสมกับค่าครองชีพ (บางคนได้รับค่าจ้างต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ)และจ่ายค่าจ้างให้สอดคล้องกับงานที่ทำ อยู่จริง (ร้อยละ 58.4)
ด้านสิ่งที่ต้องการร้องขอจากรัฐบาลให้เข้ามาดูแล พัฒนา และปรับปรุงแก้ไขมากที่สุด ได้แก่ เรื่องค่าแรง/ค่าจ้าง (ร้อยละ 45.1) รองลงมาต้องการให้ภาครัฐเข้ามาดูแลเรื่องสวัสดิการ(ร้อยละ 25.4) และเรื่องคุณภาพชีวิต (ร้อยละ 16.4)
ดังรายละเอียดต่อไปนี้
เพียงพอ ร้อยละ 8.9 ไม่เพียงพอ ร้อยละ 91.1
โดยคิดว่าค่าจ้างขั้นต่ำเฉลี่ยควรอยู่ที่ 290 บาทต่อวันจึงจะเพียงพอต่อการดำรงชีพ
นโยบาย ความเพียงพอต่อการดำรงชีพ การทำได้จริงของนโยบาย ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 25% ภายใน 2 ปี เพียงพอต่อการดำรงชีพ ร้อยละ 42.1 เชื่อว่าจะทำได้จริง ร้อยละ 36.3 (พรรคประชาธิปัตย์) ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ร้อยละ 57.9 ไม่เชื่อว่าจะทำได้จริง ร้อยละ 63.7 ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน เพียงพอต่อการดำรงชีพ ร้อยละ 88.2 เชื่อว่าจะทำได้จริง ร้อยละ 54.0 (พรรคเพื่อไทย) ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ร้อยละ 11.8 ไม่เชื่อว่าจะทำได้จริง ร้อยละ 46.0 3. ความชอบในนโยบายค่าแรงขั้นต่ำของ 2 พรรคใหญ่ ชอบนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 25% ภายใน 2 ปี ของพรรคประชาธิปัตย์ มากกว่า ร้อยละ 15.5 ชอบนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวัน ของพรรคเพื่อไทย มากกว่า ร้อยละ 84.5 4. การจัดทำ "มาตรฐานฝีมือแรงงาน" ในอนาคตอันใกล้นี้จะช่วยยกระดับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำให้อยู่ในระดับที่ควรจะเป็นได้หรือไม่ เชื่อว่าสามารถช่วยได้ ร้อยละ 53.3 เชื่อว่าไม่สามารถช่วยได้ ร้อยละ 7.9 ไม่ทราบ/ไม่แน่ใจ/ตอบไม่ได้ ร้อยละ 38.8 5. การจัดทำ "มาตรฐานฝีมือแรงงาน" จะช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของแรงงานโดยรวม เพิ่มขึ้นได้หรือไม่ เชื่อว่าจะเพิ่มขึ้น ร้อยละ 82.2 เชื่อว่าจะเหมือนเดิม ร้อยละ 16.3 เชื่อว่าจะลดลง ร้อยละ 1.5 6. สิ่งที่ผู้ใช้แรงงานต้องการฝากบอกไปยังนายจ้าง/เจ้าของกิจการมากที่สุด เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)
1. ขอขึ้นค่าแรง/ขอโบนัส/ขอเบี้ยขยัน/ดูแลค่าจ้างให้เหมาะสมกับค่าครองชีพ
(บางคนได้รับค่าจ้างต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ)/จ่ายค่าจ้างให้สอดคล้องกับงานที่ทำอยู่จริง ร้อยละ 58.4
2. ขอสวัสดิการที่เป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ค่ารักษาพยาบาล
รวมถึงเงินกู้สวัสดิการต่างๆ ร้อยละ 20.6
3. ขอให้เอาใจใส่ลูกน้อง/ดูแลกันให้ดีกว่านี้/เอาใจเขามาใส่ใจเรา/รับฟังปัญหาของลูกน้อง/
ให้ความเท่าเทียมและเป็นธรรมกับลูกน้อง ร้อยละ 9.5
4. ขอให้ช่วยดูแลคุณภาพชีวิตของลูกจ้าง คือ ได้สิทธิหยุดวันหยุดในวันนักขัตฤกษ์ ไม่ควรทำงาน
เกินวันละ 9 ชั่วโมงโดยไม่ได้รับ OT และควรมีกิจกรรมท่องเที่ยวหรืองานเลี้ยงสังสรรค์บ้าง ร้อยละ 6.9
5. อื่นๆ เช่น การพัฒนาฝีมือแรงงานและระบบงาน/ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับลูกจ้าง
ความปลอดภัยในการทำงาน เป็นต้น ร้อยละ 4.6 7. สิ่งที่ผู้ใช้แรงงานต้องการให้รัฐบาลเข้ามาดูแล/พัฒนา/ปรับปรุงแก้ไขมากที่สุด ค่าแรง/ค่าจ้าง ร้อยละ 45.1 สวัสดิการ ร้อยละ 25.4 การดูแลคุณภาพชีวิต ร้อยละ 16.4 ความปลอดภัยในการทำงาน ร้อยละ 6.9 การพัฒนาฝีมือแรงงาน ร้อยละ 2.7 อื่นๆ (ระบุ) ให้นายจ้างปฎิบัติตามกฏหมายแรงงาน ร้อยละ 3.5
รายละเอียดในการสำรวจ
1. เพื่อศึกษาความเพียงพอของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในปัจจุบันว่าเพียงพอต่อค่าครองชีพหรือไม่ 2. เพื่อศึกษาความคิดเห็นต่อนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำของสองพรรคใหญ่ 3. เพื่อสำรวจสิ่งที่ผู้ใช้แรงงานร้องขอต่อนายจ้างและรัฐบาล ระเบียบวิธีการสำรวจ
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างกับประชาชนผู้ใช้แรงงานอายุ 18 ปีขึ้น ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) โดยการสุ่มพื้นที่เก็บข้อมูลในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยใช้วิธีเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์แบบพบตัวได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น จำนวน 1,073 คน เป็นชายร้อยละ 52.0 และหญิงร้อยละ 48.0
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน +/- 4% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว (Face-to-face Interview) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุคำตอบเองโดยอิสระ (Open Form) และได้นำ แบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 22 - 24 เมษายน 2554 วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 28 เมษายน 2554
ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ เพศ ชาย 558 52.0 หญิง 515 48.0 รวม 1,073 100.0 อายุ 18 ปี — 25 ปี 306 28.5 26 ปี — 35 ปี 309 28.8 36 ปี — 45 ปี 250 23.3 46 ปีขึ้นไป 208 19.4 รวม 1,073 100.0 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 1,000 93.2 ปริญญาตรี 72 6.7 สูงกว่าปริญญาตรี 1 0.1 รวม 1,073 100.0 อาชีพ (ผู้ใช้แรงงาน) โรงงานอุตสาหกรรม/กรรมกรก่อสร้าง 119 11.1 รปภ./นักการภารโรง/คนขับรถ 175 16.3 แม่บ้าน/คนสวน 142 13.2 คนส่งเอกสาร/รับจ้างทั่วไป 133 12.4 พนักงานบริการ/หมอนวดแผนโบราณ 172 16.0 พนักงานขาย/พนักงานคิดเงิน 197 18.4 ช่างไฟฟ้า/ช่างซ่อม 82 7.6 อื่นๆ เช่น พี่เลี้ยงเด็ก/ซักรีด/พ่อครัว 53 5.0 รวม 1,073 100.0 รายได้ (บาทต่อวัน) ต่ำกว่า 215 บาท 135 12.5 215 บาท (ค่าจ้างขั้นต่ำ) 167 15.6 216 — 299 บาท 383 35.7 300 บาทขึ้นไป 388 36.2 รวม 1,073 100.0
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--