ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 3,323 คน โดยเก็บข้อมูลเมื่อวันที่ 2 - 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา พบว่า ในการเลือกตั้ง ส.ส ระบบบัญชีรายชื่อ คนกรุงเทพฯ ระบุว่าจะเลือกพรรคเพื่อ ไทย ร้อยละ 33.6 (เพิ่มขึ้นจากผลการสำรวจครั้งก่อน เมื่อวันที่ 20 — 22 พ.ค. ร้อยละ 7.8) จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 17.1 (เพิ่ม ขึ้นร้อยละ 2.4) และจะเลือกพรรครักประเทศไทย ร้อยละ 3.2 (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.2) อย่างไรก็ตามมีถึงร้อยละ 44.1 ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะ เลือกพรรคใด
สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส. ในระบบแบ่งเขตพบว่า คนกรุงเทพฯ ระบุว่าจะเลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 33.8 (เพิ่มขึ้นจากผล การสำรวจครั้งก่อน เมื่อวันที่ 20 — 22 พ.ค. ร้อยละ 7.5) จะเลือกผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 17.6 (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.4) และ จะเลือกผู้สมัครของพรรครักษ์สันติ ร้อยละ 1.3 (เท่ากับผลสำรวจครั้งก่อน) อย่างไรก็ตามมีถึงร้อยละ 46.4 ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกผู้สมัครของ พรรคใด โดยเกณฑ์ที่คนกรุงเทพฯ ใช้ในการเลือก ส.ส. ระบบแบ่งเขตคือ เลือกจากคุณสมบัติและผลงานในอดีตของผู้สมัคร (ร้อยละ 49.4) รองลง มาคือ เลือกจากนโยบายที่ใช้หาเสียง (ร้อยละ 31.6) และเลือกจากพรรคการเมืองที่สังกัด (ร้อยละ 19.0)
ทั้งนี้เมื่อแยกพิจารณาเป็นรายเขตพบว่า พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่ 21 เขต ได้แก่ เขต 3 เขต 4 เขต 5 เขต 7 เขต 8 เขต 10 เขต 11 เขต 12 เขต 13 เขต 14 เขต 16 เขต 17 เขต 18 เขต 20 เขต 23 เขต 24 เขต 26 เขต 27 เขต 29 เขต 32 และเขต 33 ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนนำใน 6 เขต ได้แก่ เขต 1 เขต 2 เขต 15 เขต 19 เขต 22 และเขต 30 ส่วนอีก 6 เขตทั้ง 2 พรรคมีคะแนนสูสีกันได้แก่ เขต 6 เขต 9 เขต 21 เขต 25 เขต 28 และเขต 31
เมื่อสอบถามว่าอยากได้ใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปมากที่สุดพบว่าอยากได้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร้อยละ 42.6 (เพิ่มขึ้นร้อย ละ 15.7) รองลงมาคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร้อยละ 23.6 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.2) ร.ต.อ. ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ร้อยละ 3.9 (เพิ่มขึ้นร้อย ละ 1.0) และ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ร้อยละ 2.4 (ลดลงร้อยละ 1.2) ขณะที่อีกร้อยละ 27.5 ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกใครดี
สำหรับสิ่งที่คนกรุงเทพไม่อยากเห็นมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้พบว่า อันดับแรกได้แก่ การซื้อสิทธิ์ขายเสียง (ร้อยละ 23.2) รองลงมา คือ การก่อกวน ข่มขู่ ทำร้ายผู้สมัครฝ่ายตรงข้าม (ร้อยละ 20.5) และการหาเสียงด้วยวิธีใส่ร้ายป้ายสี (ร้อยละ 20.1)
ทั้งนี้เมื่อสอบถามถึงความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งในการควบคุมดูแลการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพและบริสุทธิ์ยุติธรรมพบว่า ร้อยละ 66.9 ไม่ค่อยเชื่อมั่นถึงไม่เชื่อมั่นเลย (เพิ่มขึ้นจากผลการสำรวจเมื่อวันที่ 20 — 22 พ.ค. ร้อยละ 0.8) ขณะที่ร้อยละ 33.1 เชื่อมั่นค่อน ข้างมากถึงเชื่อมั่นมาก
โปรดพิจารณารายละเอียดใน รายละเอียดต่อไปนี้
ตั้งใจว่าจะไป ร้อยละ 94.0 - โดยจะเลือกลงคะแนน ร้อยละ 89.3 - โดยจะเลือกช่องไม่ลงคะแนน (Vote No) ร้อยละ 4.7 ตั้งใจว่าจะไม่ไป ร้อยละ 2.7 โดยสาเหตุที่คิดว่าจะไม่ไปเลือกตั้ง เพราะ - เบื่อหน่ายการเมือง ร้อยละ 1.1 - ทำงาน ติดธุระ ไปต่างจังหวัด ร้อยละ 0.9 - ไม่เคยไปเลือกอยู่แล้ว ร้อยละ 0.4 - เลือกไปก็ไม่เห็นทำประโยชน์ให้เลย ร้อยละ 0.3 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 3.3 2. คะแนนนิยมที่มีต่อพรรคการเมืองในการเลือก ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่อ (3 อันดับแรก) (ถามเฉพาะผู้ที่ระบุว่าจะไปเลือกตั้ง) สำรวจครั้งที่ 1 วันที่ 20—22 พ.ค.54 สำรวจครั้งที่ 2 วันที่ 2-9 มิ.ย.54 เพิ่มขึ้น/ลดลง (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ) จะเลือกพรรคเพื่อไทย 25.8 33.6 +7.8 จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ 14.7 17.1 +2.4 จะเลือกพรรครักประเทศไทย 2.0 3.2 +1.2 ยังไม่ตัดสินใจ 52.0 44.1 -7.9
โดยเกณฑ์ที่ใช้เลือกผู้สมัคร ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ ในการสำรวจครั้งที่ 2 (วันที่ 2 - 9 มิ.ย. 54) พบว่า
เลือกจากคุณสมบัติและผลงานของผู้มีรายชื่อในระบบบัญชีรายชื่อของพรรค ร้อยละ 44.9 เลือกจากนโยบายที่พรรคใช้หาเสียง ร้อยละ 39.5 เลือกจากชื่อเสียงของพรรค ร้อยละ 15.6 3. คะแนนนิยมที่มีต่อพรรคการเมืองในการเลือก ส.ส. ในระบบแบ่งเขต (3 อันดับแรก) (ถามเฉพาะผู้ที่ระบุว่าจะไปเลือกตั้ง) สำรวจครั้งที่ 1 วันที่ 20—22 พ.ค. 54 สำรวจครั้งที่ 2 วันที่ 2 9 มิ.ย.54 เพิ่มขึ้น/ลดลง (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ) จะเลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย 26.3 33.8 +7.5 จะเลือกผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ 15.2 17.6 +2.4 จะเลือกผู้สมัครของพรรครักษ์สันติ 1.3 1.3 - ยังไม่ตัดสินใจ 51.9 46.4 -5.5
โดยเกณฑ์ที่ใช้เลือกผู้สมัคร ส.ส. ระบบแบ่งเขต ในการสำรวจครั้งที่ 2 (วันที่ 2 - 9 มิ.ย. 54) พบว่า
เฉลี่ยรวม(ร้อยละ) พิจารณาเฉพาะผู้ที่เลือก พิจารณาเฉพาะผู้ที่เลือกพรรค พรรคเพื่อไทย(ร้อยละ) ประชาธิปัตย์(ร้อยละ) เลือกจากคุณสมบัติและผลงานในอดีตของผู้สมัคร 49.4 55.4 46.7 เลือกจากนโยบายที่ใช้หาเสียง 31.6 28.8 26.2 เลือกจากพรรคการเมืองที่สังกัด 19.0 15.8 27.1 รวม 100.0 100.0 100.0 เมื่อแยกพิจารณาแบบรายเขตพบว่า พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำ 21 เขต ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนนำ 6 เขต ส่วนอีก 6 เขตมีคะแนนสูสีกัน ดังนี้ เขตเลือกตั้งที่ พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำ พรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนนำ คะแนนสูสีกัน 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 6 / 7 / 8 / 9 / 10 / 11 / 12 / 13 / 14 / 15 / 16 / 17 / 18 / 19 / 20 / 21 / 22 / 23 / 24 / 25 / 26 / 27 / 28 / 29 / 30 / 31 / 32 / 33 / 4. คนกรุงเทพฯ อยากได้ใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปมากที่สุด (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)
สำรวจครั้งที่ 1 วันที่ 20—22 พ.ค.54 สำรวจครั้งที่ 2วันที่ 2-9 มิ.ย. 54 เพิ่มขึ้น / ลดลง
(ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 26.9 42.6 +15.7 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 17.4 23.6 +6.2 ร.ต.อ. ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ 2.9 3.9 +1.0 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ 3.6 2.4 -1.2 ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกใคร 49.2 27.5 -21.7 5. สิ่งที่ไม่อยากเห็นมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ คือ การซื้อสิทธิ์ขายเสียง ร้อยละ 23.2 การก่อกวน ข่มขู่ ทำร้ายผู้สมัครฝ่ายตรงข้าม ร้อยละ 20.5 การหาเสียงด้วยวิธีใส่ร้ายป้ายสี ร้อยละ 20.1 การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อต่างๆ ร้อยละ 19.7 การพัง/ทำลายป้ายหาเสียงของคู่แข่ง ร้อยละ 16.5 6. ความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งในการควบคุมดูแลการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพและบริสุทธิ์ยุติธรรม พบว่า สำรวจครั้งที่ 1 (วันที่ 20 — 22 พ.ค. 54) สำรวจครั้งที่ 2 (วันที่ 2 - 9 มิ.ย. 54) ไม่ค่อยเชื่อมั่นถึงไม่เชื่อมั่นเลย ร้อยละ 66 ไม่ค่อยเชื่อมั่นถึงไม่เชื่อมั่นเลย ร้อยละ 67 (โดยแบ่งเป็น ไม่ค่อยเชื่อมั่นร้อยละ 48.3 และไม่เชื่อมั่นเลยร้อยละ 17.8 ) (โดยแบ่งเป็น ไม่ค่อยเชื่อมั่นร้อยละ 51.5 และไม่เชื่อมั่นเลยร้อยละ 15.4 ) เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงเชื่อมั่นมาก ร้อยละ 34 เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงเชื่อมั่นมาก ร้อยละ 33 (โดยแบ่งเป็น เชื่อมั่นค่อนข้างมาก (โดยแบ่งเป็น เชื่อมั่นค่อนข้างมาก ร้อยละ 24.3 และเชื่อมั่นมากร้อยละ 9.6) ร้อยละ 23.0 และเชื่อมั่นมากร้อยละ 10.1)
รายละเอียดในการสำรวจ
เพื่อทราบข้อมูลและความคิดเห็นของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ในประเด็นต่อไปนี้
1. ความตั้งใจที่จะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง 2. คะแนนนิยมที่มีต่อพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่อและเกณฑ์ที่ใช้ในการเลือก 3. คะแนนนิยมที่มีต่อพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง ส.ส. ในระบบแบ่งเขต และเกณฑ์ที่ใช้ในการเลือก 4. คนที่คิดว่าเหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปมากที่สุด 5. สิ่งที่ไม่อยากเห็นมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ 6. ความเชื่อมั่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งในการควบคุมดูแลการเลือกตั้งให้มีประสิทธิภาพและบริสุทธิ์ยุติธรรม ระเบียบวิธีการสำรวจ
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปจากทุกสาขาอาชีพ ที่มีทะเบียนบ้านอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต ด้วยวิธี การสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) โดยการสุ่มถนน จากนั้นจึงสุ่มประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์อย่างเป็นระบบ และใช้ วิธีเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์แบบพบตัว ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 3,323 คน เป็นเพศชายร้อยละ 48.5 และเพศหญิงร้อยละ 51.5
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 2% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว (Face-to-face Interview) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและ ประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 2 - 9 มิถุนายน 2554 วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 12 มิถุนายน 2554
ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน (คน) ร้อยละ เพศ
ชาย 1,613 48.5 หญิง 1,710 51.5 รวม 3,323 100.00 อายุ 18 ปี — 25 ปี 737 22.2 26 ปี — 35 ปี 789 23.7 36 ปี — 45 ปี 844 25.4 46 ปีขึ้นไป 953 28.7 รวม 3,323 100.0 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 2,215 66.6 ปริญญาตรี 917 27.6 สูงกว่าปริญญาตรี 106 3.2 ไม่ระบุระดับการศึกษา 85 2.6 รวม 3,323 100.0 อาชีพ ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ 381 11.5 พนักงาน / ลูกจ้างบริษัทเอกชน 660 19.9 ค้าขาย / ประกอบอาชีพส่วนตัว 953 28.6 รับจ้างทั่วไป 492 14.8 พ่อบ้าน / แม่บ้าน / เกษียณอายุ 402 12.1 อื่นๆ อาทิ อาชีพอิสระ ว่างงาน นักศึกษา 435 13.1 รวม 3,323 100.0
จำนวน (คน) ร้อยละ
รายได้ต่อเดือน
น้อยกว่า 5,000 บาท 520 15.7 5,001 — 10,000 บาท 998 30.0 10,001 — 20,000 บาท 1,033 31.0 20,001 — 30,000 บาท 414 12.5 30,001 — 40,000 บาท 179 5.4 40,001 — 50,000 บาท 85 2.6 มากกว่า 50,000 บาท 94 2.8 รวม 3,323 100.0
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--