นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์เศรษฐกิจไทยจะทรุดในอีก 6 เดือนข้างหน้าจากดีมานด์ต่างประเทศหด
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ(กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์ วิจัยเศรษฐกิจระดับชั้นนำของประเทศ 30 แห่ง จำนวน 63 คน เรื่อง “ดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจไทย 3 และ 6 เดือนข้างหน้า ” โดยเก็บข้อมูล ระหว่างวันที่ 26-30 ก.ย. ที่ผ่านมา พบว่า
ดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในอีก 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ 47.46 ซึ่งเป็นระดับที่ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจในครั้งก่อนหน้าที่ค่า ดัชนีอยู่ที่ 62.11 อีกทั้งค่าดัชนียังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนมุมมองนักเศรษฐศาสตร์ที่มีต่อเศรษฐกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้าว่าจะ แย่ลงเมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบัน เช่นเดียวกับ ดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้า ที่อยู่ในระดับ 45.14 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่า ดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยจะทรุดอย่างต่อเนื่องในอีก 6 เดือนข้างหน้า
เมื่อพิจารณาในแต่ละปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่า 4 ใน 5 ปัจจัย ค่าดัชนีมีการปรับตัวลดลงและอยู่ในระดับที่ ต่ำกว่า 50 ค่อนข้างมากประกอบด้วย การบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน การส่งออกสินค้า และการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ มี เพียงปัจจัยการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ เท่านั้น ที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปัจจุบัน ส่วนการคาดการณ์ในอีก 6 เดือนข้างหน้า นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าปัจจัยภายในประเทศจะปรับตัวดีขึ้น(ประกอบด้วย การบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน และการ ใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ) ขณะที่ปัจจัยภายนอกประเทศจะแย่ลงไปอีก (ประกอบด้วย การส่งออกสินค้า และ การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ)
ส่วนดัชนีสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยังคงอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งเห็นได้จากค่าดัชนีที่อยู่ในระดับ 53.92 (ค่าดัชนีสูงกว่า 50) แต่เป็นการแข็งแกร่งที่ลดลงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนหน้าที่ค่าดัชนีอยู่ที่ 56.94 (เดือนกรกฎาคม 54) เมื่อพิจารณาในแต่ละ ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พบว่า การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ การส่งออกสินค้า และการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ยังคงอยู่ในสถานะที่แข็ง แกร่ง ขณะที่ปัจจัยการบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชน อยู่ในสถานะที่อ่อนแอ
(โปรดพิจารณารายละเอียดของผลสำรวจดังต่อไปนี้)
ดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจ
ในอีก 3 เดือนข้างหน้าเปรียบเทียบกับปัจจุบัน
ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ก.ค. 53 ต.ค. 53 ม.ค. 54 เม.ย. 54 ก.ค.54 ต.ค. 54 เปลี่ยนแปลง 1) การบริโภคภาคเอกชน 79.29 64.19 53.61 50.71 66.07 45.08 20.99 2) การลงทุนภาคเอกชน 71.01 67.81 62.20 55.15 57.41 42.24 15.17 3) การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ 65.22 55.48 63.58 59.29 70.69 71.19 0.50 4) การส่งออกสินค้า 63.57 28.38 47.56 48.57 49.12 31.36 17.76 5) การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ 81.88 67.36 63.58 39.44 67.24 47.41 19.83 ดัชนีรวม 72.19 56.64 58.11 50.63 62.11 47.46 14.65 ตารางที่ 2 ดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้า
ดัชนีคาดการณ์เศรษฐกิจในอีก 6 เดือนข้างหน้าเปรียบเทียบกับปัจจุบัน
ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ต.ค. 54 1) การบริโภคภาคเอกชน 48.25 2) การลงทุนภาคเอกชน 44.07 3) การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ 70.00 4) การส่งออกสินค้า 25.44 5) การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ 37.96 ดัชนีรวม 45.14 ตารางที่ 3 ดัชนีสถานะของปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน
ดัชนีสถานะทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ก.ค. 53 ต.ค. 53 ม.ค. 54 เม.ย. 54 ก.ค. 54 ต.ค. 54 เปลี่ยนแปลง 1) การบริโภคภาคเอกชน 39.13 50.00 56.02 50.00 52.46 46.77 -5.69 2) การลงทุนภาคเอกชน 24.26 45.21 49.39 45.59 50.82 48.36 -2.46 3) การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ 58.09 56.16 58.02 55.71 52.59 54.03 1.44 4) การส่งออกสินค้า 76.09 69.59 65.24 69.29 69.17 66.39 -2.78 5) การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ 13.24 46.53 53.09 53.52 59.68 54.03 -5.65 ดัชนีรวม 42.16 53.50 56.35 54.82 56.94 53.92 -3.02
หมายเหตุ: ค่าดัชนีจะมีค่าอยู่ระหว่าง 0-100 โดย
ค่าดัชนีเท่ากับ 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ในสถานะปกติ (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ เดิม/ไม่เปลี่ยนแปลง (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า)
ค่าดัชนีสูงกว่า 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ในสถานะแข็งแกร่ง (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ ดีขึ้น (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า)
ค่าดัชนีต่ำกว่า 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ในสถานะอ่อนแอ (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ แย่ลง (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า)
หมายเหตุ: รายงานผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ฉบับนี้ เป็นการสำรวจความเห็นส่วนตัวของ นักเศรษฐศาสตร์ซึ่งมิได้สื่อถึงแนวนโยบายขององค์กรที่นักเศรษฐศาสตร์สังกัดอยู่แต่อย่างใด
รายละเอียดในการสำรวจ
1. เพื่อสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะทางเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันและทิศทางในอนาคตอีก 3 เดือนข้างหน้า
2. เพื่อสะท้อนข้อเสนอแนะประเด็นเศรษฐกิจของนักเศรษฐศาสตร์ไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่สำเร็จการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในสาขาเศรษฐศาสตร์ (กรณีสำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ เฉพาะปริญญาตรี หรือปริญญาโท หรือปริญญาเอก อย่างใดอย่างหนึ่ง จะต้องมีประสบการณ์ในการทำงานด้านวิเคราะห์/วิจัย/หรืองานที่เกี่ยวข้องที่ต้อง ใช้ความรู้ความสามารถด้านเศรษฐศาสตร์อย่างน้อย 5 ปี) ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์ วิจัยเศรษฐกิจระดับชั้นนำของประเทศ จำนวน 30 แห่ง ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนัก งานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) มูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่ง ประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารนครหลวงไทย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทหารไทย บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ บริษัทหลักทรัพย์เอเชีพลัส บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคิน บริษัทหลักทรัพย์ภัทร บริษัททริสเรตติ้ง คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ สำนักวิชาการจัดการมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สำนักวิชาเศรษฐศาสตร์และนโยบาย สาธารณะมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ และอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์และนักวิจัยประจำศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
รวบรวมข้อมูลโดยการส่งแบบสอบถามออนไลน์ไปยังนักเศรษฐศาสตร์ในหน่วยงานที่กำหนดภายในระยะเวลาที่กำหนด
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 26-30 กันยายน 2554 วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 3 ตุลาคม 2554
ข้อมูลรายละเอียดของกลุ่มตัวอย่าง
จำนวน ร้อยละ ประเภทของหน่วยงานที่กลุ่มตัวอย่างทำงานอยู่ หน่วยงานภาครัฐ 25 39.7 หน่วยงานภาคเอกชน 24 38.1 สถาบันการศึกษา 14 22.2 รวม 63 100.0 เพศ ชาย 33 52.4 หญิง 30 47.6 รวม 63 100.0 อายุ 26 ปี — 35 ปี 26 41.3 36 ปี — 45 ปี 16 25.4 46 ปีขึ้นไป 21 33.3 รวม 63 100.0 การศึกษา ปริญญาตรี 4 6.3 ปริญญาโท 46 73.1 ปริญญาเอก 13 20.6 รวม 63 100.0 ประสบการณ์ทำงานรวม 1-5 ปี 12 19.0 6-10 ปี 19 30.2 11-15 ปี 7 11.1 16-20 ปี 7 11.1 ตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป 18 28.6 รวม 63 100.0
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--