วัตถุประสงค์ของการสำรวจ
การสำรวจครั้งนี้ เพื่อต้องการทราบความคิดเห็นของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร ในประเด็น
- ผลงานของรัฐบาลที่คนกรุงเทพพอใจและไม่พอใจมากที่สุด
- ความเห็นเกี่ยวกับมาตรการของรัฐบาลเกี่ยวกับการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน
- มาตรการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชันกับคะแนนนิยมที่มีต่อพรรคไทยรักไทย
- ต้นเหตุของปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน
- ความเห็นเกี่ยวกับการมีรัฐบาลพรรคเดียว
ระเบียบวิธีการสำรวจ
การสุ่มตัวอย่าง
การสำรวจ ใช้วิธีสุ่มตัวอย่างประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่อาศัยอยู่ในเขตปกครองของกรุงเทพฯ ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) กล่าวคือ
ขั้นที่ 1 เขตการปกครองของกรุงเทพมหานคร จำนวน 50 เขต ดังนี้บึงกุ่ม สะพานสูง คลองสาน ดุสิต ตลิ่งชัน ทุ่งครุ บางแค ภาษีเจริญ จอมทอง ดอนเมือง ดินแดง ทวีวัฒนา บางขุนเทียน บางกะปิ สวนหลวง สัมพันธวงศ์ บางกอกน้อย บางบอน บางกอกใหญ่ บางรัก คลองสามวา คันนายาว จตุจักร มีนบุรี สายไหม ธนบุรี บางนา พระนคร บางคอแหลม ป้อมปราบฯ ปทุมวัน พญาไท สาทร ยานนาวา ราชเทวี วัฒนา ราษฎร์บูรณะ พระโขนง ประเวศ บางเขน หลักสี่ ห้วยขวาง ลาดกระบัง ลาดพร้าว วังทองหลาง หนองแขม หนองจอก คลองเตย บางซื่อ บางพลัด
ขั้นที่ 2 จากแต่ละเขตที่สุ่มได้ สุ่มถนน ซอย และที่อยู่อาศัย
ขั้นที่ 3 สุ่มประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์ ได้ตัวอย่างทั้งสิ้นจำนวน 2,006 คน
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างใช้ความคลาดเคลื่อน +3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล
การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถาม และสัมภาษณ์ความคิดเห็นของประชากรเป้าหมายที่สุ่มได้ ในเรื่อง" ปราบคอร์รัปชั่นเรียกคะแนนนิยมได้แค่ไหน "
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 3 สิงหาคม 2547
วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ : 6 สิงหาคม 2547
ผลการสำรวจ
การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้วิธีการสำรวจภาคสนาม จากประชากรในกรุงเทพมหานคร ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 2,006 คน
เป็นชาย ร้อยละ 49.3
เป็นหญิง ร้อยละ 50.7
ช่วงอายุของกลุ่มตัวอย่าง คือ อายุระหว่าง 18-25 ปี ร้อยละ 28.7
อายุระหว่าง 26-35 ปี ร้อยละ 30.5
อายุระหว่าง 36-45 ปี ร้อยละ 25.0
และ อายุ 45 ปีขึ้นไป ร้อยละ 15.9
ระดับการศึกษาของกลุ่มตัวอย่าง ประถมศึกษา ร้อยละ 8.9
มัธยมศึกษา ร้อยละ 18.7
ระดับปวช. ร้อยละ 12.2
ระดับปวส./อนุปริญญาตรี ร้อยละ 12.4
ระดับปริญญาตรี ร้อยละ 41.9
และสูงกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 5.9
กลุ่มตัวอย่างประกอบอาชีพ รับราชการ ร้อยละ 9.1
รัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 9.6
พนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 19.0
เจ้าของกิจการ ร้อยละ 9.8
รับจ้างทั่วไป ร้อยละ 12.6
ค้าขาย ร้อยละ 13.4 นักศึกษา ร้อยละ 17.2
พ่อบ้าน/แม่บ้าน ร้อยละ 8.1
และอื่น ๆ อีกร้อยละ 1.2
การสำรวจครั้งนี้ พบว่า 5 อันดับแรกของผลงานรัฐบาลที่ประชาชนพอใจมากที่สุด คือ
การปราบยาเสพติด ร้อยละ 29.1
รองลงมา คือ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค (ร้อยละ 10.6)
โครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (ร้อยละ 6.0)
การแก้ปัญหาความยากจน (ร้อยละ 5.3)
และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ (ร้อยละ 5.0)
ส่วนผลงานของรัฐบาลที่ประชาชนไม่พอใจมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ
การแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ (ร้อยละ 9.8)
รองลงมา คือ ปัญหาคอร์รัปชัน (ร้อยละ 7.6)
น้ำมันราคาแพง (ร้อยละ 7.6)
ปัญหาการจราจร (ร้อยละ 5.1)
และ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค (ร้อยละ 4.5)
เมื่อสรุปผลงานของรัฐบาลในภาพรวมแล้ว ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 58.1) ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 12.9 พอใจมาก ขณะที่ร้อยละ 24.7 ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 3.6 ไม่พอใจมาก และร้อยละ 0.6 ไม่มีความเห็นเกี่ยวกับการที่รัฐบาลออกมาประกาศว่าจะใช้มาตรการปราบทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจัง โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่
3 ตุลาคม 2547 ร้อยละ 36.7 ไม่แน่ใจว่ามาตรการดังกล่าวจะได้ผลหรือไม่ ขณะที่ร้อยละ 28.6 มั่นใจว่ามาตรการนี้จะไม่ได้ผล เพราะ มีการเล่นพรรคเล่นพวก และเป็นกลุ่มของผู้อิทธิพล มีอำนาจในบ้านเมือง มีเพียงร้อยละ 19.6 ที่เชื่อว่ามาตรการนี้จะได้ผล ถ้ารัฐบาลเอาจริงเหมือนการปราบยาเสพติด และอีกร้อยละ 15.1 ไม่มีความเห็น เมื่อเชื่อมโยงมาตรการดังกล่าวเข้ากับคะแนนนิยมของพรรคไทยรักไทย ร้อยละ 48.0 คิดว่ามาตรการนี้ไม่มีผลต่อ
คะแนนนิยมของพรรคไทยรักไทย ในขณะที่ร้อยละ 35.2 คิดว่า จะส่งผลให้คะแนนนิยมของพรรคไทยรักไทยเพิ่มขึ้น และอีกร้อยละ 16.7 คิดว่าจะทำให้คะแนนนิยมลดลง
สำหรับต้นเหตุของปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน กลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 56.5 คิดว่า นักการเมืองคือต้นเหตุของปัญหารองลงมา คือ ข้าราชการประจำ (ร้อยละ 26.9) พ่อค้า/นักธุรกิจ (ร้อยละ 13.4) และอื่น ๆ อีกร้อยละ 3.2เมื่อสอบถามถึงการจัดตั้งรัฐบาลในสมัยหน้า ร้อยละ 58.2 ไม่ต้องการให้รัฐบาลสมัยหน้ามาจากพรรคการเมืองเดียวเพราะจะเป็นเผด็จการทางอำนาจ และทำให้ปัญหาการคอร์รัปชันเพิ่มขึ้น โดยต้องการให้มีพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้เกิดความคิดหลากหลาย และคานอำนาจกัน ในขณะที่ร้อยละ 41.8 ต้องการให้รัฐบาลมาจากพรรคการเมืองเดียว เพราะจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ คล่องตัว ประสานงานง่าย และแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้รวดเร็ว
ในส่วนของพรรคทางเลือก กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 59.7 ต้องการให้มีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป แต่อีกร้อยละ 40.3 ไม่ต้องการพรรคการเมืองใหม่เพิ่มเติม
ตารางแสดงการประมวลผลข้อมูล
ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ
เพศ :
ชาย 988 49.3
หญิง 1018 50.7
อายุ :
18 - 25 ปี 575 28.7
26 - 35 ปี 612 30.5
36 - 45 ปี 501 25.0
45 ปีขึ้นไป 318 15.9
การศึกษา:
ประถมศึกษา 178 8.9
มัธยมศึกษา 375 18.7
ปวช. 244 12.2
ปวส./อนุปริญญา 249 12.4
ปริญญาตรี 841 41.9
สูงกว่าปริญญาตรี 119 5.9
อาชีพ :
รับราชการ 182 9.1
รัฐวิสาหกิจ 193 9.6
พนักงานบริษัทเอกชน 381 19.0
เจ้าของกิจการ 197 9.8
รับจ้างทั่วไป 252 12.6
ค้าขาย 268 13.4
นักศึกษา 345 17.2
พ่อบ้าน/แม่บ้าน 162 8.1
อื่น ๆ 26 1.2
ตารางที่ 1 ที่ผ่านมาท่านพอใจผลงานของรัฐบาลในเรื่องใดมากที่สุด
จำนวน ร้อยละ
การปราบปรามยาเสพติด 596 29.7
โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค 212 10.6
โครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ 120 6.0
การแก้ปัญหาความยากจน 106 5.3
การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 101 5.0
อื่น ๆ 871 43.4
ตารางที่ 2 ท่านไม่พอใจผลงานของรัฐบาลในเรื่องใดมากที่สุด
จำนวน ร้อยละ
สถานการณ์ชายแดนภาคใต้ 197 9.8
การคอร์รัปชั่น 153 7.6
น้ำมันราคาแพง 153 7.6
ปัญหาการจราจร 102 5. 1
โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค 90 4.5
อื่น ๆ 1311 65.4
ตารางที่ 3 ในภาพรวมท่านพอใจผลงานที่ผ่านมาของรัฐบาลมากน้อยเพียงใด
จำนวน ร้อยละ
พอใจ 259 12.9
ค่อนข้างพอใจ 1165 58.1
ไม่ค่อยพอใจ 496 24.7
ไม่พอใจมาก 76 3.6
ไม่มีความเห็น 13 0.6
ตารางที่ 4 มาตรการของรัฐบาลเกี่ยวกับการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่นที่จะประกาศใช้วันที่ 3 ต.ค. 2547
ท่านคิดว่าจะได้ผลหรือไม่ เพียงใด
จำนวน ร้อยละ
ได้ผล 394 19.6
ไม่ได้ผล 574 28.6
ไม่แน่ใจ 737 36.7
ไม่มีความเห็น 301 15.1
ตารางที่ 5 การออกมาตรการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น มีผลต่อคะแนนนิยมที่ท่านมีต่อพรรคไทยรักไทย
หรือไม่ อย่างไร
จำนวน ร้อยละ
คะแนนนิยมเพิ่มขึ้น 707 35.2
คะแนนนิยมลดลง 336 16.7
ไม่มีผลต่อคะแนนนิยม 963 48.0
ตารางที่ 6 ท่านคิดว่าต้นเหตุของปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นมาจากคนกลุ่มใดมากที่สุด
จำนวน ร้อยละ
นักการเมือง 1134 56.5
ข้าราชการประจำ 539 26.9
พ่อค้า/นักธุรกิจ 269 13.4
อื่น ๆ 64 3.2
ตารางที่ 7 ท่านต้องการให้รัฐบาลสมัยหน้ามาจากพรรคเดียวหรือไม่
จำนวน ร้อยละ
ต้องการ 838 41.8
ไม่ต้องการ 1168 58.2
ตารางที่ 8 ท่านต้องการให้มีพรรคการเมืองใหม่เพื่อเป็นทางเลือกในการเลือกตั้งครั้งต่อไป หรือไม่
จำนวน ร้อยละ
ต้องการ 998 59.7
ไม่ต้องการ 674 40.3
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--
-พห-
การสำรวจครั้งนี้ เพื่อต้องการทราบความคิดเห็นของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร ในประเด็น
- ผลงานของรัฐบาลที่คนกรุงเทพพอใจและไม่พอใจมากที่สุด
- ความเห็นเกี่ยวกับมาตรการของรัฐบาลเกี่ยวกับการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน
- มาตรการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชันกับคะแนนนิยมที่มีต่อพรรคไทยรักไทย
- ต้นเหตุของปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน
- ความเห็นเกี่ยวกับการมีรัฐบาลพรรคเดียว
ระเบียบวิธีการสำรวจ
การสุ่มตัวอย่าง
การสำรวจ ใช้วิธีสุ่มตัวอย่างประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่อาศัยอยู่ในเขตปกครองของกรุงเทพฯ ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) กล่าวคือ
ขั้นที่ 1 เขตการปกครองของกรุงเทพมหานคร จำนวน 50 เขต ดังนี้บึงกุ่ม สะพานสูง คลองสาน ดุสิต ตลิ่งชัน ทุ่งครุ บางแค ภาษีเจริญ จอมทอง ดอนเมือง ดินแดง ทวีวัฒนา บางขุนเทียน บางกะปิ สวนหลวง สัมพันธวงศ์ บางกอกน้อย บางบอน บางกอกใหญ่ บางรัก คลองสามวา คันนายาว จตุจักร มีนบุรี สายไหม ธนบุรี บางนา พระนคร บางคอแหลม ป้อมปราบฯ ปทุมวัน พญาไท สาทร ยานนาวา ราชเทวี วัฒนา ราษฎร์บูรณะ พระโขนง ประเวศ บางเขน หลักสี่ ห้วยขวาง ลาดกระบัง ลาดพร้าว วังทองหลาง หนองแขม หนองจอก คลองเตย บางซื่อ บางพลัด
ขั้นที่ 2 จากแต่ละเขตที่สุ่มได้ สุ่มถนน ซอย และที่อยู่อาศัย
ขั้นที่ 3 สุ่มประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์ ได้ตัวอย่างทั้งสิ้นจำนวน 2,006 คน
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างใช้ความคลาดเคลื่อน +3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล
การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถาม และสัมภาษณ์ความคิดเห็นของประชากรเป้าหมายที่สุ่มได้ ในเรื่อง" ปราบคอร์รัปชั่นเรียกคะแนนนิยมได้แค่ไหน "
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 3 สิงหาคม 2547
วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ : 6 สิงหาคม 2547
ผลการสำรวจ
การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้วิธีการสำรวจภาคสนาม จากประชากรในกรุงเทพมหานคร ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 2,006 คน
เป็นชาย ร้อยละ 49.3
เป็นหญิง ร้อยละ 50.7
ช่วงอายุของกลุ่มตัวอย่าง คือ อายุระหว่าง 18-25 ปี ร้อยละ 28.7
อายุระหว่าง 26-35 ปี ร้อยละ 30.5
อายุระหว่าง 36-45 ปี ร้อยละ 25.0
และ อายุ 45 ปีขึ้นไป ร้อยละ 15.9
ระดับการศึกษาของกลุ่มตัวอย่าง ประถมศึกษา ร้อยละ 8.9
มัธยมศึกษา ร้อยละ 18.7
ระดับปวช. ร้อยละ 12.2
ระดับปวส./อนุปริญญาตรี ร้อยละ 12.4
ระดับปริญญาตรี ร้อยละ 41.9
และสูงกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 5.9
กลุ่มตัวอย่างประกอบอาชีพ รับราชการ ร้อยละ 9.1
รัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 9.6
พนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 19.0
เจ้าของกิจการ ร้อยละ 9.8
รับจ้างทั่วไป ร้อยละ 12.6
ค้าขาย ร้อยละ 13.4 นักศึกษา ร้อยละ 17.2
พ่อบ้าน/แม่บ้าน ร้อยละ 8.1
และอื่น ๆ อีกร้อยละ 1.2
การสำรวจครั้งนี้ พบว่า 5 อันดับแรกของผลงานรัฐบาลที่ประชาชนพอใจมากที่สุด คือ
การปราบยาเสพติด ร้อยละ 29.1
รองลงมา คือ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค (ร้อยละ 10.6)
โครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (ร้อยละ 6.0)
การแก้ปัญหาความยากจน (ร้อยละ 5.3)
และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ (ร้อยละ 5.0)
ส่วนผลงานของรัฐบาลที่ประชาชนไม่พอใจมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ
การแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนภาคใต้ (ร้อยละ 9.8)
รองลงมา คือ ปัญหาคอร์รัปชัน (ร้อยละ 7.6)
น้ำมันราคาแพง (ร้อยละ 7.6)
ปัญหาการจราจร (ร้อยละ 5.1)
และ โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค (ร้อยละ 4.5)
เมื่อสรุปผลงานของรัฐบาลในภาพรวมแล้ว ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 58.1) ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 12.9 พอใจมาก ขณะที่ร้อยละ 24.7 ไม่ค่อยพอใจ ร้อยละ 3.6 ไม่พอใจมาก และร้อยละ 0.6 ไม่มีความเห็นเกี่ยวกับการที่รัฐบาลออกมาประกาศว่าจะใช้มาตรการปราบทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจัง โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่
3 ตุลาคม 2547 ร้อยละ 36.7 ไม่แน่ใจว่ามาตรการดังกล่าวจะได้ผลหรือไม่ ขณะที่ร้อยละ 28.6 มั่นใจว่ามาตรการนี้จะไม่ได้ผล เพราะ มีการเล่นพรรคเล่นพวก และเป็นกลุ่มของผู้อิทธิพล มีอำนาจในบ้านเมือง มีเพียงร้อยละ 19.6 ที่เชื่อว่ามาตรการนี้จะได้ผล ถ้ารัฐบาลเอาจริงเหมือนการปราบยาเสพติด และอีกร้อยละ 15.1 ไม่มีความเห็น เมื่อเชื่อมโยงมาตรการดังกล่าวเข้ากับคะแนนนิยมของพรรคไทยรักไทย ร้อยละ 48.0 คิดว่ามาตรการนี้ไม่มีผลต่อ
คะแนนนิยมของพรรคไทยรักไทย ในขณะที่ร้อยละ 35.2 คิดว่า จะส่งผลให้คะแนนนิยมของพรรคไทยรักไทยเพิ่มขึ้น และอีกร้อยละ 16.7 คิดว่าจะทำให้คะแนนนิยมลดลง
สำหรับต้นเหตุของปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน กลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 56.5 คิดว่า นักการเมืองคือต้นเหตุของปัญหารองลงมา คือ ข้าราชการประจำ (ร้อยละ 26.9) พ่อค้า/นักธุรกิจ (ร้อยละ 13.4) และอื่น ๆ อีกร้อยละ 3.2เมื่อสอบถามถึงการจัดตั้งรัฐบาลในสมัยหน้า ร้อยละ 58.2 ไม่ต้องการให้รัฐบาลสมัยหน้ามาจากพรรคการเมืองเดียวเพราะจะเป็นเผด็จการทางอำนาจ และทำให้ปัญหาการคอร์รัปชันเพิ่มขึ้น โดยต้องการให้มีพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อให้เกิดความคิดหลากหลาย และคานอำนาจกัน ในขณะที่ร้อยละ 41.8 ต้องการให้รัฐบาลมาจากพรรคการเมืองเดียว เพราะจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ คล่องตัว ประสานงานง่าย และแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้รวดเร็ว
ในส่วนของพรรคทางเลือก กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 59.7 ต้องการให้มีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป แต่อีกร้อยละ 40.3 ไม่ต้องการพรรคการเมืองใหม่เพิ่มเติม
ตารางแสดงการประมวลผลข้อมูล
ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ
เพศ :
ชาย 988 49.3
หญิง 1018 50.7
อายุ :
18 - 25 ปี 575 28.7
26 - 35 ปี 612 30.5
36 - 45 ปี 501 25.0
45 ปีขึ้นไป 318 15.9
การศึกษา:
ประถมศึกษา 178 8.9
มัธยมศึกษา 375 18.7
ปวช. 244 12.2
ปวส./อนุปริญญา 249 12.4
ปริญญาตรี 841 41.9
สูงกว่าปริญญาตรี 119 5.9
อาชีพ :
รับราชการ 182 9.1
รัฐวิสาหกิจ 193 9.6
พนักงานบริษัทเอกชน 381 19.0
เจ้าของกิจการ 197 9.8
รับจ้างทั่วไป 252 12.6
ค้าขาย 268 13.4
นักศึกษา 345 17.2
พ่อบ้าน/แม่บ้าน 162 8.1
อื่น ๆ 26 1.2
ตารางที่ 1 ที่ผ่านมาท่านพอใจผลงานของรัฐบาลในเรื่องใดมากที่สุด
จำนวน ร้อยละ
การปราบปรามยาเสพติด 596 29.7
โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค 212 10.6
โครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ 120 6.0
การแก้ปัญหาความยากจน 106 5.3
การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ 101 5.0
อื่น ๆ 871 43.4
ตารางที่ 2 ท่านไม่พอใจผลงานของรัฐบาลในเรื่องใดมากที่สุด
จำนวน ร้อยละ
สถานการณ์ชายแดนภาคใต้ 197 9.8
การคอร์รัปชั่น 153 7.6
น้ำมันราคาแพง 153 7.6
ปัญหาการจราจร 102 5. 1
โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค 90 4.5
อื่น ๆ 1311 65.4
ตารางที่ 3 ในภาพรวมท่านพอใจผลงานที่ผ่านมาของรัฐบาลมากน้อยเพียงใด
จำนวน ร้อยละ
พอใจ 259 12.9
ค่อนข้างพอใจ 1165 58.1
ไม่ค่อยพอใจ 496 24.7
ไม่พอใจมาก 76 3.6
ไม่มีความเห็น 13 0.6
ตารางที่ 4 มาตรการของรัฐบาลเกี่ยวกับการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่นที่จะประกาศใช้วันที่ 3 ต.ค. 2547
ท่านคิดว่าจะได้ผลหรือไม่ เพียงใด
จำนวน ร้อยละ
ได้ผล 394 19.6
ไม่ได้ผล 574 28.6
ไม่แน่ใจ 737 36.7
ไม่มีความเห็น 301 15.1
ตารางที่ 5 การออกมาตรการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น มีผลต่อคะแนนนิยมที่ท่านมีต่อพรรคไทยรักไทย
หรือไม่ อย่างไร
จำนวน ร้อยละ
คะแนนนิยมเพิ่มขึ้น 707 35.2
คะแนนนิยมลดลง 336 16.7
ไม่มีผลต่อคะแนนนิยม 963 48.0
ตารางที่ 6 ท่านคิดว่าต้นเหตุของปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นมาจากคนกลุ่มใดมากที่สุด
จำนวน ร้อยละ
นักการเมือง 1134 56.5
ข้าราชการประจำ 539 26.9
พ่อค้า/นักธุรกิจ 269 13.4
อื่น ๆ 64 3.2
ตารางที่ 7 ท่านต้องการให้รัฐบาลสมัยหน้ามาจากพรรคเดียวหรือไม่
จำนวน ร้อยละ
ต้องการ 838 41.8
ไม่ต้องการ 1168 58.2
ตารางที่ 8 ท่านต้องการให้มีพรรคการเมืองใหม่เพื่อเป็นทางเลือกในการเลือกตั้งครั้งต่อไป หรือไม่
จำนวน ร้อยละ
ต้องการ 998 59.7
ไม่ต้องการ 674 40.3
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--
-พห-