กรุงเทพโพลล์: การตื่นตัวของเยาวชนในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) 2558

ข่าวผลสำรวจ Thursday September 20, 2012 09:38 —กรุงเทพโพลล์

เนื่องในวันที่ 20 กันยายน เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ(กรุงเทพโพลล์) ได้สำรวจความคิดเห็นเยาวชนอายุ 15-24 ปี ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 1,166 คน เรื่อง “การตื่นตัวของเยาวชนในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) 2558” พบว่า เยาวชนร้อยละ 66.0 ระบุว่า ตัวเองยังมีความรู้เกี่ยวกับประชาคมอาเซียนไม่เพียงพอ สำหรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ขณะที่ร้อยละ 14.2 ระบุว่ามีความรู้เพียงพอแล้ว

ทั้งนี้เมื่อให้ประเมินศักยภาพของประเทศไทยในเวลานี้ว่าอยู่ในระดับใดของประเทศในกลุ่มอาเซียน เยาวชนร้อยละ 67.2 ระบุว่าอยู่ในระดับกลางๆ ขณะที่ร้อยละ 18.8 ระบุว่า อยู่ในระดับท้ายๆ และมีเพียงร้อยละ 14.6 ที่ระบุว่าอยู่ในระดับต้นๆ สำหรับประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่เยาวชนเห็นว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวและน่าจับตามองที่สุดสำหรับประเทศไทยคือ ประเทศสิงคโปร์ (ร้อยละ38.5) ประเทศเวียดนาม (ร้อยละ 21.9) และประเทศมาเลเซีย (ร้อยละ11.3) ตามลำดับ

ส่วนความเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเองและเยาวชนคนไทยคนอื่นๆ ว่าจะสามารถแข่งขันหรือสู้กับเยาชนของประเทศสมาชิกในกลุ่มอาเซียนได้หรือไม่พบว่า เยาวชนร้อยละ 49.0 ระบุว่า เชื่อมั่นว่าสู้ได้ ขณะที่ร้อยละ 13.6 เชื่อว่าสู้ไม่ได้แน่นอน และร้อยละ 37.4 ระบุว่าไม่แน่ใจว่าจะสู้ได้

เมื่อถามว่าสถาบันการศึกษามีการส่งเสริมหรือให้ความรู้เกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน อย่างไรบ้าง ร้อยละ 30.8 บอกว่า มีการสอดแทรกเรื่องราว AEC ในการเรียนการสอน ร้อยละ 26.1 บอกว่ามีการเพิ่มและเน้นการเรียนวิชาภาษาอังกฤษมากขึ้น และร้อยละ 22.9 บอกว่ามีการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับ AEC เช่น จัดนิทรรศการ แข่งขันตอบปัญหา ฯลฯ

ทั้งนี้เยาวชนร้อยละ 74.8 เชื่อว่าการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะได้ผลดีมากกว่าผลเสีย ขณะที่ร้อยละ 25.2 เชื่อว่าจะได้รับผลเสียมากกว่าผลดี ส่วนเรื่องที่เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนคือ ความขัดแย้งทางการเมือง(ร้อยละ 29.6) รองลงมาคือ การขาดทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทย (ร้อยละ 26.7) และการทุจริตคอร์รัปชั่น (ร้อยละ 18.8)

สำหรับเรื่องที่เยาวชนอยากให้ภาครัฐสนับสนุน/ส่งเสริมมากที่สุดเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน คือ การสอนและติวภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการสื่อสาร (ร้อยละ 58.7) รองลงมาคือ ปรับปรุงการเรียนการสอนให้มีคุณภาพและให้โอกาสทางการศึกษาสำหรับเยาวชน (ร้อยละ 18.1) และให้ความรู้และการเตรียมตัวเรื่องการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ร้อยละ 12.2)

ดังรายละเอียดในตารางต่อไปนี้

1. ความคิดเห็นของเยาวชนต่อความรู้ของตัวเองเกี่ยวกับประชาคมอาเซียนว่ามีเพียงพอสำหรับการเข้าสู่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ปี 2558 หรือไม่
          - มีเพียงพอแล้ว             ร้อยละ 14.2
          - ยังไม่เพียงพอ             ร้อยละ 66.0
          - ไม่แน่ใจ                 ร้อยละ 19.8

2. ศักยภาพของประเทศไทยในความคิดของเยาวชนว่าในเวลานี้อยู่ในระดับใดเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในกลุ่มอาเซียน
          - อยู่ในระดับต้นๆ            ร้อยละ 14.6
          - อยู่ในระดับกลางๆ          ร้อยละ 67.2
          - อยู่ในระดับท้ายๆ           ร้อยละ 18.8

3. ประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ที่เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวและน่าจับตามองที่สุดสำหรับ
ประเทศไทย ในสายตาของเยาวชน คือ
          - ประเทศสิงคโปร์           ร้อยละ 38.5
          - ประเทศเวียดนาม          ร้อยละ 21.9
          - ประเทศมาเลเซีย          ร้อยละ 11.3
          - ประเทศพม่า              ร้อยละ 5.8
          - ประเทศลาว              ร้อยละ 5.5
          - ประเทศฟิลิปปินส์           ร้อยละ 4.4
          - ประเทศอินโดนีเซีย         ร้อยละ 4.2
          - ประเทศบรูไน             ร้อยละ 3.9
          - ประเทศกัมพูชา            ร้อยละ 2.2
          - ไม่มี                    ร้อยละ 2.3

4. ความเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเองและเยาวชนคนไทยคนอื่นๆ ว่าจะสามารถแข่งขันหรือสู้กับเยาวชน
ของประเทศสมาชิกในกลุ่มอาเซียนได้ หรือไม่
          - เชื่อมั่นว่าสู้ได้             ร้อยละ 49.0
          - เชื่อว่าสู้ไม่ได้แน่นอน        ร้อยละ 13.6
          - ไม่แน่ใจว่าจะสู้ได้          ร้อยละ 37.4

5. การส่งเสริมหรือให้ความรู้เกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ของสถาบันการศึกษา พบว่า
          - มีสอดแทรกเรื่องราวAECในการเรียนการสอน                                  ร้อยละ 30.8
          - เพิ่ม/เน้นการเรียนวิชาภาษาอังกฤษมากขึ้น                                    ร้อยละ 26.1
          - จัดกิจกรรมเกี่ยวกับAEC เช่น จัดนิทรรศการ แข่งขันตอบปัญหา ฯลฯ                  ร้อยละ 22.9
          - สอนภาษาของประเทศในกลุ่มอาเซียน                                        ร้อยละ 14.8
          - ไม่มีการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของ AEC เลย                              ร้อยละ 5.4

6. ความคิดเห็นเยาวชนต่อการได้รับผลดีหรือผลเสีย จากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ใน
ปี 2558 ว่าอะไรจะมากกว่ากัน
          - ได้รับผลดีมากกว่า            ร้อยละ 74.8

(โดยให้เหตุผลว่า จะได้เปิดกว้างทางการศึกษา ทำให้สนใจเรียนรู้ภาษามากขึ้น ทำให้เกิดการตื่นตัวและพัฒนาตัวเองมากขึ้น ได้โอกาสทำงานต่างประเทศ และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน ฯลฯ)

          - ได้รับผลเสียมากกว่า          ร้อยละ 25.2

(โดยให้เหตุผลว่า คนไทยอาจจะหางานทำได้ยากขึ้น ถูกเอาเปรียบ คนไทยไม่เก่งภาษาอังกฤษ ฯลฯ)

7. เรื่องที่เป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน คือ
          - ความขัดแย้งทางการเมือง                                 ร้อยละ 29.6
          - การขาดทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทย                    ร้อยละ 26.7
          - การทุจริตคอร์รัปชั่น                                      ร้อยละ 18.8
          - ความรู้และการศึกษาของคนไทยที่ยังอยู่ในระดับต่ำ                ร้อยละ 9.0
          - คนไทยไม่มีความสามัคคี                                   ร้อยละ 8.5
          - คนไทยไม่มีความตื่นตัวในเรื่องของ AEC                       ร้อยละ 3.5
          - ขาดความเอาใจใส่และให้ความรู้จากภาครัฐเรื่อง AEC            ร้อยละ 2.6
          - ปัญหาภัยธรรมชาติ                                       ร้อยละ 1.3

8. เรื่องที่เยาวชนต้องการให้ภาครัฐสนับสนุน/ส่งเสริมมากที่สุดเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) 5 อันดับแรก คือ (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)
          - การสอนและติวภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการสื่อสาร                                            ร้อยละ 58.7
          - ปรับปรุงการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ และการให้โอกาสทางการศึกษาสำหรับเยาวชน                 ร้อยละ 18.1
          - ให้ความรู้และการเตรียมตัวเรื่องการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน                            ร้อยละ 12.2
  • การสอนภาษาและวัฒนธรรมของประเทศสมาชิก และให้มีการส่งนักเรียนแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศสมาชิก ร้อยละ 5.3
          - ให้มีการพัฒนาความรู้ความสามารถฝีมือแรงงานและให้สำรองงานสำหรับคนไทยไว้ก่อน                 ร้อยละ 1.1

รายละเอียดในการสำรวจ วัตถุประสงค์ในการสำรวจ

เพื่อสอบถามความคิดเห็นของเยาวชนในกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ในเรื่องของความรู้ที่ได้รับ ความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศและของเยาวชนไทยเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศสมาชิก รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนเยาวชนเรื่องต่างๆจากภาครัฐ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทั้งนี้เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นเยาวชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ และเป็นแนวทางในการพัฒนาต่อไป

ระเบียบวิธีการสำรวจ

การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากเยาวชนอายุ 15 - 24 ปี ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร โดยสุ่มประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์อย่างเป็นระบบ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,166 คน เป็นเพศชายร้อยละ 49.6 และเพศหญิงร้อยละ 50.4

ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)

ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

วิธีการรวบรวมข้อมูล

ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว (Face-to-face Interview) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) ในส่วนของ และคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุคำตอบเองโดยอิสระ (Open Form) และได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล            : 13 — 17 กันยายน 2555

วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ                : 20 กันยายน 2555

ข้อมูลประชากรศาสตร์ของกลุ่มตัวอย่าง

                                จำนวน          ร้อยละ
เพศ
            ชาย                   578          49.6
            หญิง                   588          50.4
รวม                             1,166         100.0

อายุ
          15 — 17  ปี              350          30.0
          18 — 20  ปี              399          34.2
          21 — 24  ปี              417          35.8
รวม                             1,166         100.0

การศึกษาปัจจุบัน
          มัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช.    459          39.3
          ปวส./อนุปริญญา/ปริญญาตรี    625          53.6
          สูงกว่าปริญญาตรี             16           1.4
          จบการศึกษา                66           5.7
รวม                             1,166         100.0

สังกัดสถาบันการศึกษา
          รัฐบาล                   691          59.2
          เอกชน                   475          40.8
รวม                             1,166         100.0

--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ