ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 1,061 คน ในหัวข้อ “ประชาชนคิดอย่างไรต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล” พบว่า
ประชาชนร้อยละ 55.7 เห็นว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านที่นำมาอภิปรายฯ ในครั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลเด็ดโดนใจ ขณะที่ร้อยละ 44.3 เห็นว่ามีข้อมูลเด็ดโดนใจ ทั้งนี้ประชาชนร้อยละ 41.8 คิดว่าข้อมูลของฝ่ายค้านที่นำมาอภิปรายฯ นั้นยังไม่ค่อยน่าเชื่อถือ ขณะที่ร้อยละ 40.7 ระบุว่ามีความน่าเชื่อถือค่อนข้างมาก
สำหรับความเห็นต่อการตอบข้อซักถามของ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอีก 3 ท่าน ที่ถูกอภิปรายฯ ในครั้งนี้ว่าสามารถชี้แจงได้ชัดเจน/ตรงประเด็นหรือไม่ มีดังนี้
ชี้แจงไม่ชัดเจน/ไม่ตรงประเด็น ชี้แจงได้ชัดเจน/ตรงประเด็น - น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร้อยละ 41.1 ร้อยละ 37.7 - ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 43.0 ร้อยละ 34.8 - พล.อ.อ. สุกำพล สุวรรณฑัต รมว.กระทรวงกลาโหม ร้อยละ 39.3 ร้อยละ 26.5 - พล.ต.ท ชัจจ์ กุลดิลก รมช. กระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 41.7 ร้อยละ 22.0
นอกจากนี้ประชาชนร้อยละ 44.5 ยังมีความเห็นว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีควรจะตอบหรือชี้แจง และรับฟังการอภิปรายฯ ด้วยตนเองให้มากกว่านี้ ขณะที่ร้อยละ 39.2 เห็นว่าตอบหรือชี้แจงและรับฟังการอภิปรายฯ ได้ดีอยู่แล้ว
ทั้งนี้ประชาชนได้ให้คะแนนการทำหน้าที่ของฝ่ายต่างๆ ในการอภิปรายฯ ครั้งนี้ โดยประชาชนให้คะแนนการทำหน้าที่ของฝ่ายประธานสภามากที่สุดคือได้ 6.14 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน รองลงมาคือการตอบและชี้แจงของฝ่ายรัฐบาลได้ 6.07 คะแนน และการอภิปรายของฝ่ายค้านได้ 5.67 คะแนน ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าฝ่ายค้านจะมีปัญหาด้านความน่าเชื่อถือของข้อมูลและยังไม่มีข้อมูลเด็ดโดนใจที่เพียงพอ ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลก็มีปัญหาที่ไม่สามารถชี้แจงได้ชัดเจนและตรงประเด็น
ส่วนประโยชน์ที่ประชาชนและสังคมจะได้รับจากการอภิปรายฯ ในครั้งนี้ ร้อยละ 42.6 ระบุว่าได้รับประโยชน์ปานกลาง ร้อยละ 35.5 ระบุว่าได้รับประโยชน์มาก และร้อยละ 9.8 ได้รับประโยชน์มากที่สุด
รายละเอียดต่อไปนี้
- ติดตามชมเป็นช่วงๆ เฉพาะประเด็นที่น่าสนใจ ร้อยละ 52.2 - ติดตามจากข่าวที่สื่อต่างๆ นำมาเสนอ ร้อยละ 40.7 - ติดตามชมตลอดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร้อยละ 7.1 2. เมื่อถามว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปรายนั้นมีข้อมูลเด็ดโดนใจหรือไม่ พบว่า - ไม่มีข้อมูลเด็ดโดนใจ ร้อยละ 55.7 - มีข้อมูลเด็ดโดนใจ ร้อยละ 44.3 3. ความเห็นต่อความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปรายฯ ซักฟอกรัฐบาลในครั้งนี้ - น่าเชื่อถือมาก ร้อยละ 8.2 - น่าเชื่อถือค่อนข้างมาก ร้อยละ 40.7 - ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ ร้อยละ 41.8 - ไม่น่าเชื่อถือเลย ร้อยละ 9.3 4.ความเห็นต่อการตอบข้อซักถามจากฝ่ายค้าน ของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีก 3 ท่านว่าชัดเจนตรง ประเด็นหรือไม่ รายชื่อ ชี้เจงไม่ชัดเจน/ ชี้แจงได้ชัดเจน/ ไม่ตอบ
ไม่ตรงประเด็น(ร้อยละ) ตรงประเด็น(ร้อยละ) (ร้อยละ)
- น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี 41.1 37.7 21.2
- ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่
ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 43.0 34.8 22.2 - พล.อ.อ สุกำพล สุวรรณฑัต รมว.กระทรวงกลาโหม 39.3 26.5 34.2 - พล.ต.ท ชัจจ์ กุลดิลก รมช. กระทรวงมหาดไทย 41.7 22.0 36.3 5. เมื่อถามว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญและทำหน้าที่ตอบข้อซักถามของฝ่ายค้าน ในการอภิปรายฯ ครั้งนี้ได้ดีเพียงใด พบว่า - เห็นว่าควรจะตอบชี้แจงและรับฟังการอภิปรายฯ ด้วยตนเองให้มากกว่านี้ ร้อยละ 44.5 - เห็นว่าตอบชี้แจงและรับฟังการอภิปรายฯ ได้ดีอยู่แล้ว ร้อยละ 39.2 - ไม่ตอบ ร้อยละ 16.3 6. ประชาชนให้คะแนนการทำหน้าที่ของฝ่ายต่างๆ ในการอภิปรายฯ ครั้งนี้ คือ
เต็ม 10 คะแนน
- การทำหน้าที่ของฝ่ายประธานสภา คะแนนที่ได้ 6.14 - การตอบและชี้แจงของฝ่ายรัฐบาล คะแนนที่ได้ 6.07 - การอภิปรายของฝ่ายค้าน คะแนนที่ได้ 5.67 7. เมื่อถามว่าข้อมูลที่ได้จากการอภิปรายฯ ครั้งนี้ เป็นประโยชน์ต่อประชาชนส่วนรวมมากน้อยเพียงใด - ได้ประโยชน์มากที่สุด ร้อยละ 9.8 - ได้ประโยชน์มาก ร้อยละ 35.5 - ได้ประโยชน์ปานกลาง ร้อยละ 42.6 - ได้ประโยชน์น้อย ร้อยละ 8.9 - ได้ประโยชน์น้อยที่สุด ร้อยละ 3.2
รายละเอียดในการสำรวจ
เพื่อสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เกี่ยวกับความคิดเห็นที่มีต่อการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของฝ่ายค้าน ที่มีขึ้นในวันที่ 25-27 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ในประเด็นต่างๆ อาทิ การติดตามชมการอภิปรายฯ ความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่นำมาอภิปรายจากทางฝ่ายค้านการชี้แจงและตอบข้อซักถามของฝ่ายรัฐบาล ตลอดจนการให้คะแนนการทำหน้าที่ของฝ่ายต่างๆ ในสภาฯ รวมถึงบทบาทหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการอภิปรายดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ และนำไปใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาประเทศต่อไป
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) โดยสุ่มจังหวัดซึ่งเป็นตัวแทนแต่ละภาค ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น นนทบุรี นครราชสีมา นครศรีธรรมราช ปทุมธานี พะเยา และสมุทรปราการ จากนั้นจึงสุ่มประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์อย่างเป็นระบบ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,061 คน เป็นเพศชายร้อยละ 51.1 และเพศหญิงร้อยละ 48.9
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน +/- 4% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว (Face-to-face Interview) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 26 — 27 พฤศจิกายน 2555 วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 29 พฤศจิกายน 2555
ข้อมูลประชากรศาสตร์ของกลุ่มตัวอย่าง
จำนวน (คน) ร้อยละ เพศ
ชาย 542 51.1 หญิง 519 48.9 รวม 1,061 100.0 อายุ 18 - 25 ปี 255 24.0 26 - 35 ปี 297 28.0 36 - 45 ปี 248 23.4 46 ปีขึ้นไป 261 24.6 รวม 1,061 100.0 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 611 57.6 ปริญญาตรี 396 37.3 สูงกว่าปริญญาตรี 54 5.1 รวม 1,061 100.0 อาชีพ ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ 132 12.4 พนักงาน / ลูกจ้าง บริษัทเอกชน 272 25.6 ค้าขาย / ประกอบอาชีพส่วนตัว 315 29.7 รับจ้างทั่วไป 134 12.7 พ่อบ้าน แม่บ้าน เกษียณอายุ 46 4.3 นักศึกษา 110 10.4 อื่นๆ อาทิ อาชีพอิสระ ว่างงาน เป็นต้น 52 4.9 รวม 1,061 100.0
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--