หลังจากที่รัฐบาลได้มีการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบี อาร์ เอ็น มาแล้ว 2 ครั้ง พี่น้องชายแดนภาคใต้ ร้อยละ 61.0 เห็นว่าเหตุการณ์ความไม่สงบมีความรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ร้อยละ 36.3 เห็นว่ามีความรุนแรงเหมือนกับก่อนการเจรจา และมีเพียงร้อยละ 2.7 เท่านั้นที่เห็นว่ามีความรุนแรงลดลง
ทั้งนี้ในการเจรจาพูดคุยสันติภาพทั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา พี่น้องชายแดนใต้ร้อยละ 78.9 เห็นว่ากลุ่ม บี อาร์ เอ็น มีความได้เปรียบในการเจรจามากว่า ขณะที่ ร้อยละ 21.1 เห็นว่า รัฐบาลได้เปรียบมากกว่า เมื่อถามถึงความจริงจังในการแก้ปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาล พี่น้องชายแดนใต้ส่วนใหญ่ร้อยละ 61.6 ระบุว่า รัฐบาลไม่จริงจังในการแก้ปัญหา ขณะที่ร้อยละ 38.4 ระบุว่า รัฐบาลมีความจริงจัง
สำหรับความรู้สึกต่อการที่รัฐบาลส่งตัวแทนมาพูดคุยสันติภาพกับกลุ่ม บี อาร์ เอ็น พบว่า พี่น้องชายแดนใต้ร้อยละ ร้อยละ 72.6 รู้สึกกลัวและกังวลว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น มีเพียงร้อยละ 27.4 ที่รู้สึกอุ่นใจและเห็นสัญญาณความสงบที่ใกล้จะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตามพี่น้องชายแดนใต้ร้อยละ 54.4 ยังคงสนับสนุนให้มีการพูดคุยสันติภาพระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่ม บี อาร์ เอ็น ต่อไป ขณะที่ร้อยละ 45.6 เห็นว่าควรยุติการพูดคุย เจรจาได้แล้ว
- มีความรุนแรงเหมือนกับก่อนการเจรจา ร้อยละ 36.3 - มีความรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ร้อยละ 61.0 - มีความรุนแรงลดลง ร้อยละ 2.7 2. ความเห็นเกี่ยวกับความได้เปรียบ เสียเปรียบ จากการเจรจามาแล้ว 2 ครั้ง - รัฐบาลได้เปรียบมากกว่า ร้อยละ 21.1 - กลุ่ม บี อาร์ เอ็น ได้เปรียบมากกว่า ร้อยละ 78.9 3. ความจริงจังในการแก้ปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาล - จริงจัง ร้อยละ 38.4 - ไม่จริงจัง ร้อยละ 61.6 5. ความรู้สึกของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อการที่รัฐบาลส่งตัวแทนมาพูดคุยสันติภาพ กับกลุ่ม บี อาร์ เอ็น
- รู้สึกอุ่นใจและเห็นสัญญาณความสงบที่ใกล้จะเกิดขึ้น ร้อยละ 27.4
- รู้สึกกลัวและกังวลว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น ร้อยละ 72.6
- สนับสนุนให้มีการเจรจาต่อไป ร้อยละ 54.4 - พอ / ยุติการพูดคุย เจรจาได้แล้ว ร้อยละ 45.6
รายละเอียดในการสำรวจ
เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เกี่ยวกับการพูดคุยสันติภาพระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มบี อาร์ เอ็น ความรุนแรงของเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้หลังผ่านการพูดคุยมาแล้ว 2 ครั้ง ความจริงจังในการแก้ปัญหาของรัฐบาล ตลอดจนการสนับสนุนให้มีการพูดคุยสันติภาพต่อไป ทั้งนี้เพื่อให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ต่อไป
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปจากทุกสาขาอาชีพ ที่อาศัยอยู่ในจังหวัดชายแดนภาตใต้ ได้แก่ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา ด้วยวิธีการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 409 คน เป็นเพศชายร้อยละ 49.6 และเพศหญิงร้อยละ 50.4
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 5% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์แบบสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน โดยเป็นข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 6 -7 มิถุนายน 2556 วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 9 มิถุนายน 2556
ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ เพศ
ชาย 203 49.6 หญิง 206 50.4 รวม 409 100 อายุ 18 - 25 ปี 39 9.5 26 - 35 ปี 64 15.6 36 - 45 ปี 66 16.1 46 ปีขึ้นไป 240 58.8 รวม 409 100 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 263 64.3 ปริญญาตรี 128 31.3 สูงกว่าปริญญาตรี 18 4.4 รวม 409 100 อาชีพ ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ 58 14.2 พนักงาน / ลูกจ้าง บริษัทเอกชน 22 5.4 ค้าขาย / ประกอบอาชีพส่วนตัว 142 34.7 รับจ้างทั่วไป 40 9.8 พ่อบ้าน แม่บ้าน เกษียณอายุ 98 24 นักศึกษา 20 4.9 เกษตรกร 20 4.9 อื่นๆ อาทิ อาชีพอิสระ ว่างงาน เป็นต้น 9 2.1 รวม 409 100 ศาสนา พุทธ 319 78.1 อิสลาม 86 20.9 อื่นๆ อาทิ คริสต์ ฮินดู เป็นต้น 4 1 รวม 409 100
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--