ความเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของ ส.ว. ในประเด็น “ให้ ส.ว. มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด 200 คน โดยไม่จำเป็น ต้องมีส.ว. สรรหาอีกต่อไป” ประชาชนร้อยละ 59.2 ระบุว่าเห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 21.0 ระบุว่าไม่เห็นด้วย ที่เหลือร้อยละ 19.8 ระบุว่าไม่แน่ใจ
ส่วนประเด็น “ยกเลิกข้อความว่า คุณสมบัติของผู้สมัครเป็น ส.ว. ห้ามเป็น บุพการี คู่สมรส หรือบุตร ของผู้ดำรงตำแหน่ง ส.ส. หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ประชาชน ร้อยละ 46.2 ระบุว่าเห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 38.0 ระบุว่าไม่เห็นด้วย ที่เหลือร้อยละ 15.8 ระบุว่าไม่แน่ใจ
สำหรับประเด็น “ยกเลิกเงื่อนไขที่ผู้ลงสมัคร ส.ว.ต้อง พ้นจาก การเป็นสมาชิกพรรค การเมือง หรือ ส.ส. 5 ปีเสียก่อน” ประชาชนร้อยละ 55.2 ระบุว่าเห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 30.1 ระบุว่าไม่เห็นด้วย ส่วนอีกร้อยละ 14.7 ระบุว่าไม่แน่ใจ
ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 35.5 ไม่แน่ใจว่าการแก้รัฐธรรมนูญดังกล่าวจะนำไปสู่การรวบอำนาจรัฐสภาหรือไม่ ซึ่งเป็นสัดส่วนพอๆ กับประชาชนร้อยละ 34.7 ที่เห็นว่าน่าจะเป็นการนำไปสู่การรวบอำนาจรัฐสภาจริงตามที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกต ขณะที่ร้อยละ 29.8 ระบุว่าไม่จริงฝ่ายค้านคิดมากไป
สุดท้ายเมื่อถามว่า การแก้รัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว. ดังกล่าวมีผลดีหรือผลเสียกับประเทศไทยมากกว่ากัน ประชาชนระบุว่ามีผลดีและผลเสียพอๆ กัน (ร้อยละ 36.8) รองลงมาคือมีผลดีมากกว่าผลเสีย (ร้อยละ 25.4) และมีผลเสียมากกว่าผลดี (ร้อยละ 19.1)
ดังรายละเอียดในตารางต่อไปนี้
1. ความเห็นเกี่ยวกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาของ ส.ว. ในประเด็นต่อไปนี้
ประเด็น เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ไม่แน่ใจ
(ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ) - ให้ ส.ว. มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด 200 คน คิดตามจำนวนประชากร
(ประชากร 3 แสนต่อ ส.ว. 1 คน) โดยไม่จำเป็น ต้องมีส.ว.สรรหาอีกต่อไป 59.2 21.0 19.8 - ยกเลิกข้อความว่า “คุณสมบัติของผู้สมัครเป็น ส.ว. ห้ามเป็น บุพการี คู่สมรส หรือบุตร ของผู้ดำรงตำแหน่ง ส.ส. หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง 46.2 38.0 15.8 - ยกเลิกเงื่อนไขที่ผู้ลงสมัคร ส.ว.ต้อง พ้นจาก การเป็นสมาชิกพรรค การเมือง หรือ ส.ส.5 ปีเสียก่อน 55.2 30.1 14.7 2. ความเห็นที่มีต่อการตั้งข้อสังเกตของฝ่ายค้านว่า การแก้รัฐธรรมนูญ เรื่องที่มาของส.ว. ว่า เป็นการหวัง “รวบอำนาจรัฐสภา” - ไม่แน่ใจ ร้อยละ 35.5 - เป็นจริงตามที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกต ร้อยละ 34.7 - ไม่จริงฝ่ายค้านคิดมากไป ร้อยละ 29.8 3. ความเห็นเกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาของ ส.ว. ดังกล่าวมีผลดีหรือผลเสียกับประเทศไทยมากกว่ากัน - มีผลดีและผลเสียพอๆกัน ร้อยละ 36.8 - มีผลดีมากกว่าผลเสีย ร้อยละ 25.4 - มีผลเสียมากกว่าผลดี ร้อยละ 19.1 - ไม่แน่ใจ ร้อยละ 18.7
รายละเอียดในการสำรวจ
เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับการแก้รัฐธรรมนูญในประเด็นที่มาของส.ว. ในด้านต่างๆ เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ และนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 429 คน เป็นเพศชายร้อยละ 55.0 และเพศหญิงร้อยละ 45.0
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 5% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน โดยเป็นข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 21 สิงหาคม 2556 วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 22 สิงหาคม 2556
ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ เพศ
ชาย 236 55 หญิง 193 45 รวม 429 100 อายุ 18 ปี - 25 ปี 50 11.7 26 ปี — 35 ปี 106 24.7 36 ปี — 45 ปี 120 28 46 ปีขึ้นไป 153 35.6 รวม 429 100 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 278 64.9 ปริญญาตรี 133 30.9 สูงกว่าปริญญาตรี 18 4.2 รวม 429 100 อาชีพ ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ 58 13.6 พนักงานบริษัทเอกชน 87 20.3 ค้าขาย / ประกอบอาชีพส่วนตัว 81 19 เจ้าของธุรกิจ 17 4 รับจ้างทั่วไป 56 13.1 พ่อบ้าน / แม่บ้าน / เกษียณอายุ 50 11.7 นักศึกษา 18 4.2 อื่นๆ เช่น อาชีพอิสระ เกษตรกร ว่างงาน ฯลฯ 62 14.1 รวม 429 100
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--