ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนครอบคลุม 75 จังหวัดจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 631 คน ในหัวข้อ “ประเทศไทยกับการปฏิรูป” พบว่า
ประชาชนร้อยละ 79.3 เห็นว่าในเวลานี้ประเทศไทยจำเป็นจะต้องมีการปฏิรูปด้านต่างๆ ขณะที่ร้อยละ 20.7 เห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องปฏิรูป เมื่อถามต่อว่าหากจำเป็นต้องปฏิรูป การปฏิรูปต้องเริ่มต้นอย่างจริงจังในด้านใดก่อน ร้อยละ 41.0 เห็นว่าควรปฏิรูปด้านการเมือง/การปกครองก่อน รองลงมาร้อยละ 22.8 เห็นว่าควรปฏิรูปด้านเศรษฐกิจ และร้อยละ 20.6 เห็นว่าควรปฏิรูปด้านกฎหมาย
สำหรับเรื่องที่ประชาชนอยากให้มีการปฏิรูปมากที่สุดคือ เรื่องความศักดิ์สิทธิ์เด็ดขาดของกฎหมาย (ร้อยละ 75.4 ) รองลงมาเป็นเรื่องการซื้อเสียงเลือกตั้ง(ร้อยละ 67.4) และเรื่องคดีคอร์รัปชั่นต้องไม่มีอายุความ (ร้อยละ 67.0) ส่วนประเด็นการปฏิรูปวงการตำรวจมีประชาชนร้อยละ 32.0 ที่ต้องการให้มีการปฏิรูป เช่นเดียวกับประเด็นผู้ว่าราชการจังหวัดต้องมาจากการเลือกตั้งที่ประชาชนร้อยละ 31.9 ที่ต้องการให้มีการปฏิรูป
สุดท้ายเมื่อถามว่า ภาคส่วนใดคือกลไกสำคัญในการกำหนดความสำเร็จของการปฏิรูป ร้อยละ 39.6 บอกว่า ภาคประชาชน รองลงมาร้อยละ 24.1 คือ ผู้นำประเทศ และร้อยละ 17.6 คือ ภาคนักการเมือง ขณะที่ กองทัพ ภาคนักวิชาการ และภาคธุรกิจมีประชาชนเพียงร้อยละ 7.0 ร้อยละ 6.0 และร้อยละ 3.0 ตามลำดับที่เห็นว่าจะเป็นกลไกสำคัญในการกำหนดความสำเร็จของการปฏิรูป
รายละเอียดดังต่อไปนี้
ร้อยละ 79.3 เห็นว่า “จำเป็นต้องปฏิรูป” ร้อยละ 20.7 เห็นว่า “ไม่จำเป็นต้องปฏิรูป” 2. หากต้องปฏิรูป การปฏิรูปต้องเริ่มต้นอย่างจริงจังในด้านใดมากที่สุดก่อน ร้อยละ 41.0 การเมือง/การปกครอง ร้อยละ 22.8 เศรษฐกิจ ร้อยละ 20.6 กฎหมาย ร้อยละ 13.5 สังคม ร้อยละ 2.1 อื่นๆ คือ การศึกษา ศีลธรรม จิตสำนึก 3. หากต้องปฏิรูป อยากให้มีการปฏิรูปเรื่องใดมากที่สุด 3 ลำดับแรก ร้อยละ 75.4 ความศักดิ์สิทธิ์เด็ดขาดของกฎหมาย ร้อยละ 67.4 การซื้อเสียงเลือกตั้ง ร้อยละ 67.0 คดีคอร์รัปชั่นต้องไม่มีอายุความ ร้อยละ 32.0 ปฏิรูปวงการตำรวจ ร้อยละ 31.9 ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องมาจากการเลือกตั้ง ร้อยละ 16.6 ปฏิรูปสื่อมวลชน ร้อยละ 2.9 อื่นๆ เช่น วินัยของคนไทย ความคิด การศึกษา คุณธรรม 4. ภาคส่วนใดคือกลไกสำคัญที่สุดในการกำหนดความสำเร็จของการปฏิรูป ร้อยละ 39.6 ภาคประชาชน ร้อยละ 24.1 ผู้นำประเทศ ร้อยละ 17.6 ภาคนักการเมือง ร้อยละ 7.0 กองทัพ ร้อยละ 6.0 ภาคนักวิชาการ ร้อยละ 3.0 ภาคธุรกิจ ร้อยละ 2.7 อื่นๆ ข้าราชการ ทุกภาคส่วน
รายละเอียดในการสำรวจ
เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนว่าในเวลานี้ประเทศไทยควรต้องปฏิรูปหรือไม่ และถ้าหากจะมีการปฏิรูป ควรจะปฏิรูปเรื่องอะไรบ้าง และใครคือผู้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดความสำเร็จของการปฏิรูป
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ โดยการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple random sampling) และใช้วิธีเก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 631 คน เป็นเพศชายร้อยละ 49.8 และเพศหญิงร้อยละ 50.2
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 4% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ด้วยแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 12 - 14 ธันวาคม 2556
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 15 ธันวาคม 2556
ข้อมูลประชากรศาสตร์ของกลุ่มตัวอย่าง
จำนวน (คน) ร้อยละ เพศ
ชาย 314 49.8 หญิง 317 50.2 รวม 631 100 อายุ 18 – 25 ปี 75 11.9 26 – 35 ปี 139 22 36 – 45 ปี 158 25 46 – 55 ปี 170 26.9 56 ปีขึ้นไป 89 14.2 รวม 631 100 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 407 64.5 ปริญญาตรี 173 27.4 สูงกว่าปริญญาตรี 51 8.1 รวม 631 100 อาชีพ ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ 84 13.3 พนักงาน / ลูกจ้าง บริษัทเอกชน 121 19.2 ค้าขาย / ประกอบอาชีพส่วนตัว 157 24.9 รับจ้างทั่วไป 94 14.9 พ่อบ้าน แม่บ้าน เกษียณอายุ 59 9.4 นักศึกษา 31 4.9 เกษตรกร 78 12.4 อื่นๆ อาทิ อาชีพอิสระ ว่างงาน เป็นต้น 7 1 รวม 631 100
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--