ปัญหาการเมืองทำคะแนนนิยม น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายอภิสิทธิ์ ลดลง 50.7% เห็นว่าควรมี นายกฯ คนกลาง ก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 1,068 คน ในหัวข้อ “คะแนนนิยมเป็นอย่างไร หลังศาลรัฐธรรมนูญตัดสินเลือกตั้ง วันที่ 2 ก.พ. เป็นโมฆะ” พบว่า
คะแนนนิยมนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ที่ร้อยละ 24.8 ลดลงจากผลสำรวจเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 ร้อยละ 1.9 (จากเดิมร้อยละ 26.7) เช่นเดียวกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีคะแนนนิยมอยู่ที่ ร้อยละ 18.7 โดยลดลงจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา ร้อยละ 16.1 (จากเดิมร้อยละ 34.8)
ด้านคะแนนนิยมพรรคการเมือง พบว่าพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนิยมเท่ากับร้อยละ 27.0 ลดลงจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมาร้อยละ 1.2 (จากเดิม ร้อยละ 28.2 ) ส่วนพรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนนิยมร้อยละ 20.3 ลดลงจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา ร้อยละ 16.9 (จากเดิมร้อยละ 37.2)
ส่วนความเห็นต่อข้อคำถาม “สถานการณ์ ณ วันนี้ ควรมีนายกรัฐมนตรีคนกลาง เพื่อดำเนินการปฏิรูปการเมือง ก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่หรือไม่” ประชาชนร้อยละ 50.7 เห็นว่าควรมี และร้อยละ 29.2 เห็นว่าไม่ควรมี ที่เหลือร้อยละ 20.1 ไม่แน่ใจ
สำหรับบุคคลที่น่าเคารพนับถือในสังคมที่อยากให้มาเป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งมากที่สุด อันดับ 1 คือ นายอานันท์ ปันยารชุน รองลงมาคือ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์
รายละเอียดดังต่อไปนี้
สำรวจเมื่อ สำรวจเมื่อ สำรวจเมื่อ สำรวจเมื่อ พ.ย. 55 มิ.ย. 56 พ.ย.-56 มี.ค.-57 (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 51.2 40.4 26.7 24.8 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 33.1 31.7 34.8 18.7 คนอื่น/ไม่แน่ใจ/ไม่รู้ 15.7 27.9 38.5 56.5 2. ความเห็นต่อข้อคำถาม “หากวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง ท่านจะเลือกพรรคการเมืองใด” จะเลือกพรรค... สำรวจเมื่อ สำรวจเมื่อ สำรวจเมื่อ สำรวจเมื่อ พ.ย. 55 มิ.ย.-56 พ.ย.-56 มี.ค.-57 (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ) พรรคเพื่อไทย 48.8 41 28.2 27 พรรคประชาธิปัตย์ 34.8 32.4 37.2 20.3 พรรคชาติไทยพัฒนา 0.8 0.8 0.8 2.9 พรรคภูมิใจไทย 1 0.6 0.7 0.7 พรรคพลังชล 0.4 0.6 0.6 0.6 พรรครักประเทศไทย 1.6 0.6 1.2 1.3 พรรคอื่นๆ 0.4 0.6 2.3 2.9 ไม่แน่ใจ/ไม่รู้ 12.2 23.4 29 44.3 3. ความเห็นต่อข้อคำถาม “สถานการณ์ ณ วันนี้ ควรมีนายกรัฐมนตรีคนกลาง เพื่อดำเนินการปฏิรูปการเมือง ก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่หรือไม่” เห็นว่าควร ร้อยละ 50.7 เห็นว่าไม่ควร ร้อยละ 29.2 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 20.1 4. บุคคลที่น่าเคารพนับถือในสังคมที่อยากให้มาเป็นคนกลางในการเจรจาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งมากที่สุด (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง) นายอานันท์ ปันยารชุน ร้อยละ 6.4 พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ร้อยละ 4.1 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 1.4
คนอื่นๆ อาทิ นายบรรหาร ศิลปอาชา พล.อ ชวลิต ยงใจยุทธ
ศ.ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน และ นายพลากร สุวรรณรัฐ เป็นต้น ร้อยละ 5.3 ไม่รู้จะให้ใครเป็นคนกลางดี ร้อยละ 40.5 ไม่มีคนที่เหมาะสม ร้อยละ 28.3 ไม่ออกความเห็น ร้อยละ 14.0
รายละเอียดในการสำรวจ
1. เพื่อสะท้อนความนิยมของประชาชนในตัวรักษาการนายกรัฐมนตรีและอดีตผู้นำฝ่ายค้าน
2. เพื่อสะท้อนความนิยมของประชาชนในพรรคการเมืองต่างๆ
3. เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนต่อการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง เพื่อปฏิรูปการเมืองก่อนการเลือกตั้ง
4. เพื่อต้องการให้ประชาชนเสนอบุคคลที่อยากให้มาเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ โดยการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple random sampling) และใช้วิธีเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,068 คน เป็นเพศชายร้อยละ 50.4 และเพศหญิงร้อยละ 49.6
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 4% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ด้วยแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และข้อคำถามปลายเปิด (Open End) จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 24 – 26 มีนาคม 2557
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 27 มีนาคม 2557
ข้อมูลประชากรศาสตร์ของกลุ่มตัวอย่าง
จำนวน (คน) ร้อยละ เพศ
ชาย 538 50.4 หญิง 530 49.6 รวม 1,068 100 อายุ 18 – 25 ปี 88 8.2 26 – 35 ปี 178 16.7 36 – 45 ปี 287 26.9 46 – 55 ปี 267 25 56 ปีขึ้นไป 248 23.2 รวม 1,068 100 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 726 67.9 ปริญญาตรี 271 25.4 สูงกว่าปริญญาตรี 71 6.7 รวม 1,068 100 อาชีพ ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ 118 11 พนักงาน / ลูกจ้าง บริษัทเอกชน 173 16.2 ค้าขาย / ประกอบอาชีพส่วนตัว 245 22.9 รับจ้างทั่วไป 189 17.7 พ่อบ้าน แม่บ้าน เกษียณอายุ 147 13.8 นักศึกษา 32 3 เกษตรกร 140 13.1 อื่นๆ อาทิ อาชีพอิสระ ว่างงาน เป็นต้น 24 2.3 รวม 1,068 100
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--