ครบ 3 เดือน ประชาชนพอใจการทำงานรัฐบาล เฉลี่ย 6.52 คะแนน จากเดิม 6.90พอใจการทำงาน พล.อ. ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี เฉลี่ย 7.43 คะแนน จากเดิม 7.76 แต่ส่วนใหญ่ 53.8 % เห็นว่ามีผลงานดีกว่าที่คาดหวังเอาไว้และขอของขวัญปีใหม่ ช่วยทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น
เนื่องด้วยในเดือนธันวาคมนี้ รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะบริหารประเทศครบ 3 เดือน กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จึงได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “ประเมินผลงาน 3 เดือน รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,158 คน จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ พบว่า
ประชาชนให้คะแนนความพึงพอใจในการบริหารงานของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เฉลี่ย 6.52 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ซึ่งลดลงจากการทำงานครบ 3 เดือน คสช. 0.38 คะแนน โดยได้คะแนนมากที่สุดในด้านความมั่นคงของประเทศ 7.30 คะแนน และได้คะแนนน้อยที่สุดในด้านเศรษฐกิจ 5.89 คะแนน
สำหรับความพึงพอใจในการปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาได้เฉลี่ย 7.43 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ซึ่งลดลง 0.33 คะแนน จากการทำงานครบ 3 เดือน ในช่วงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)บริหารประเทศ โดยด้านที่ได้คะแนนมากที่สุดคือ ความเด็ดขาดกล้าตัดสินใจ 8.04 คะแนน และด้านที่ได้คะแนนน้อยที่สุดคือ ความสามารถสร้างสรรค์ผลงานหรือโครงการใหม่ๆ 6.41 คะแนน
เมื่อให้เปรียบเทียบผลงานในช่วง 3 เดือน ที่ผ่านมา กับความคาดหวังเมื่อทราบว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ประชาชนร้อยละ 53.8 ระบุว่าผลงานดีกว่าที่คาดหวังไว้ รองลงมาร้อยละ 25.1 ระบุว่า ผลงานพอๆ กับที่คาดหวังไว้ และมีเพียงร้อยละ 7.5 เท่านั้น ที่ระบุว่าผลงานแย่กว่าที่คาดหวังไว้ ที่เหลือร้อยละ 13.6 ระบุว่ายังไม่ได้คาดหวังไว้
สำหรับคำถามที่ว่า “หากวันนี้ ท่านมีสิทธิออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี ท่านจะออกเสียงสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่” พบว่า ประชาชน ร้อยละ 75.0 จะออกเสียงสนับสนุน ซึ่งลดลงร้อยละ 5.5 เมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ร้อยละ 12.6 จะไม่ออกเสียงสนับสนุน ที่เหลือร้อยละ 12.4 งดออกเสียง
ส่วนสิ่งที่อยากได้จากรัฐบาลเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ปีนี้ อันดับ1 คือ ช่วยทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น จะได้สร้างงาน สร้างรายได้ (ร้อยละ 20.5) อันดับ 2 คือ ช่วยทำให้ผลผลิตทางการเกษตร เช่น ข้าว ยางพารา มีราคาสูงขึ้น (ร้อยละ 18.9) อันดับ 3 คือ ช่วยทำให้ราคาสินค้าต่างๆ และค่าครองชีพถูกลง (ร้อยละ 16.0)
โปรดพิจารณารายละเอียดดังต่อไปนี้
1. คะแนนความพึงพอใจ ที่มีต่อการบริหารประเทศของรัฐบาล ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ได้คะแนนเฉลี่ย 6.52 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน
ด้านที่ทำการประเมินความพึงพอใจ คะแนนความพึงพอใจ (เต็ม10 คะแนน) ครบ 3 เดือน ครบ 3 เดือน เพิ่มขึ้น / ลดลง คสช. (ส.ค.57) รัฐบาล (ธ.ค.57) ด้านความมั่นคงของประเทศ 7.69 7.3 -0.39 ด้านการบริหารจัดการและการบังคับใช้กฎหมาย 7.44 6.96 -0.48 ด้านสังคมและคุณภาพชีวิต 7 6.42 -0.58 ด้านการต่างประเทศ 6 6.01 0.01 ด้านเศรษฐกิจ 6.34 5.89 -0.45 คะแนนเฉลี่ย 6.9 6.52 -0.38 หมายเหตุ การสุ่มตัวอย่างในการสำรวจแต่ละครั้งใช้หลักเกณฑ์เดียวกัน ด้วยข้อคำถามแบบเดียวกัน แต่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างกลุ่มเดียวกัน 2. คะแนนความพึงพอใจการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรี ของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้คะแนนเฉลี่ย 7.43 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ด้านที่ทำการประเมินความพึงพอใจ คะแนนความพึงพอใจ (เต็ม10 คะแนน) ครบ 3 เดือน ครบ 3 เดือน เพิ่มขึ้น/ลดลง หัวหน้า คสช. นายกรัฐมนตรี (ส.ค.57) (ธ.ค. 57) ความเด็ดขาด กล้าตัดสินใจ 8.39 8.04 -0.35 ความซื่อสัตย์สุจริต 7.76 7.69 -0.07 การรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ 7.84 7.61 -0.23 ความขยันทุ่มเทในการทำงานเพื่อแก้ปัญหาของประเทศ 8.12 7.55 -0.57 ความสามารถในการบริหารจัดการตามอำนาจหน้าที่ ที่มี 7.67 7.27 -0.4 ความสามารถสร้างสรรค์ผลงานหรือโครงการใหม่ๆ 6.79 6.41 -0.38 คะแนนเฉลี่ย 7.76 7.43 -0.33 3. เปรียบเทียบผลงานในช่วง 3 เดือน ที่ผ่านมา กับความคาดหวังเมื่อทราบว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ดีกว่าที่คาดหวังไว้ ร้อยละ 53.8 พอๆ กับที่คาดหวังไว้ ร้อยละ 25.1 แย่กว่าที่คาดหวังไว้ ร้อยละ 7.5 ไม่ได้คาดหวังไว้ ร้อยละ 13.6 4.ความเห็นต่อข้อคำถามที่ว่า “หากวันนี้ ท่านมีสิทธิออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี ท่านจะออกเสียงสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่” ครบ 3 เดือน ครบ 3 เดือน เพิ่มขึ้น/ หัวหน้า คสช.(ส.ค.57) นายกรัฐมนตรี (ธ.ค. 57) ลดลง (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ) สนับสนุน 80.5 75 -5.5 ไม่สนับสนุน 8 12.6 4.6 งดออกเสียง 11.5 12.4 0.9 5. สิ่งที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ดำเนินการอย่างเร่งด่วน 5 อันดับแรก เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน คือ (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง) ช่วยทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น จะได้สร้างงาน สร้างรายได้ ร้อยละ 20.5 ช่วยทำให้ผลผลิตทางการเกษตร เช่น ข้าว ยางพารา มีราคาสูงขึ้น ร้อยละ 18.9 ช่วยทำให้ราคาสินค้าต่างๆ และค่าครองชีพถูกลง ร้อยละ 16.0 ช่วยปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชั่น อย่างเด็ดขาด ร้อยละ 8.6 ขอให้บริหารงานให้ดีที่สุด และสำเร็จทุกโครงการ ร้อยละ 5.9
รายละเอียดการสำรวจ
เพื่อวัดความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำหน้าที่ของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี ในการบริหารประเทศครบ 3 เดือน รวมถึงความคาดหวังต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี และของขวัญปีใหม่ที่อยากได้จากรัฐบาล เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบ Simple Random Sampling แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิดสามารถตอบได้โดยอิสระ (Open ended) และได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 1 – 3 ธันวาคม 2557
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 7 ธันวาคม 2557
ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ เพศ
ชาย 564 48.7 หญิง 594 51.3 รวม 1,158 100 อายุ 18 ปี - 30 ปี 183 15.8 31 ปี – 40 ปี 296 25.6 41 ปี – 50 ปี 320 27.6 51 ปี - 60 ปี 245 21.2 61 ปี ขึ้นไป 114 9.8 รวม 1,158 100 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 782 67.6 ปริญญาตรี 316 27.2 สูงกว่าปริญญาตรี 60 5.2 รวม 1,158 100 อาชีพ ลูกจ้างรัฐบาล 136 11.8 ลูกจ้างเอกชน 264 22.8 ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร 493 42.5 เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง 90 7.8 ทำงานให้ครอบครัว 1 0.1 พ่อบ้าน/ แม่บ้าน/ เกษียณอายุ 131 11.3 นักเรียน/ นักศึกษา 33 2.9 ว่างงาน/ รอฤดูกาล/ รวมกลุ่ม 10 0.8 รวม 1,158 100
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--