สสส. แผนงานฯ การอ่าน เผยผลสำรวจเทศกาลวาเลนไทน์
หนังสือที่คู่รักอยากมอบให้แก่กันมากที่สุด คือหนังสือสร้างวิธีคิดและเพิ่มกำลังใจ
เนื่องในเทศกาล “วันวาเลนไทน์” วันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ เครือข่ายเสียงประชาชน (We Voice) ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “มอบหนังสือ สื่อความรัก สื่อความสุขวันวาเลนไทน์” โดยเก็บข้อมูลจากนักเรียน นิสิต นักศึกษาในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลระหว่างวันที่ 6-9 กุมภาพันธ์ 2558 จำนวน 1,030 คน สรุปผลได้ดังนี้
ประเภทของหนังสือที่นักเรียน นิสิต นักศึกษา อยากมอบให้มากที่สุดในวันวาเลนท์ ได้แก่ หนังสือเสริมสร้างวิธีคิดและเพิ่มกำลังใจ (ร้อยละ 15.2) รองลงมาคือ หนังสือท่องเที่ยวและสุขภาพ (ร้อยละ 14.4) และหนังสือเกี่ยวกับการเรียน (ร้อยละ 13.4) ตามลำดับ
โดยข้อดีของการมอบหนังสือเป็นของขวัญคือ เป็นการส่งมอบความรู้ และให้ข้อคิดที่มีประโยชน์แก่ผู้รับ (ร้อยละ 47.8) หนังสือเป็นของขวัญที่มีคุณค่า สื่อถึงความรักความปรารถนาดี และความเคารพนับถือ (ร้อยละ 8.8) และหนังสืออยู่ได้นาน เก็บเป็นที่ระลึกได้ สามารถอ่านซ้ำ หรือส่งต่อให้ผู้อื่นได้ (ร้อยละ 8.4)
สำหรับบุคคลที่อยากมอบหนังสือให้มากที่สุดคือ แฟน/คนรัก (ร้อยละ 27.7) รองลงมาคือ พ่อแม่ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพ (ร้อยละ 25.6) เพื่อน (ร้อยละ 19.5) และเด็กยากจน/ผู้ด้อยโอกาส (ร้อยละ 17.3) ตามลำดับ โดยเหตุผลที่ต้องการมอบหนังสือในวันวาเลนไทน์ เนื่องจากเห็นว่าหนังสือมีประโยชน์ ให้ความรู้ ให้ข้อคิด แก่ผู้รับ (ร้อยละ 18.8) รองลงมาคือ เป็นของขวัญที่มีคุณค่าสื่อถึงความรัก ความปรารถนาดี (ร้อยละ 18.4) และช่วยให้ผู้ด้อยโอกาสได้ได้อ่านหนังสือ (ร้อยละ 9.1)
เมื่อถามว่าอยากให้ใครเป็นต้นแบบในการมอบของขวัญด้วยหนังสือ พบว่า อันดับแรกคือ ดารา นักร้อง นักแสดง (ร้อยละ 20.9) รองลงมาได้แก่ พ่อ แม่ (ร้อยละ 17.5) และ พล. อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี (ร้อยละ 14.7) ตามลำดับ
ทั้งนี้มีนักเรียน นิสิต นักศึกษาร้อยละ 16.8 สนใจจะมอบหนังสือให้คนรักและคนสนิทเนื่องในโอกาสวันวาเลนไทน์ปีนี้ โดยหนังสือเป็นของขวัญที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับ 5 รองจากดอกไม้/ดอกกุหลาบ (ร้อยละ 39.1) ช็อกโกแลต (ร้อยละ 32.7) การรับประทานอาหารร่วมกัน (29.4) และการมอบสิ่งของทำมือ (แฮนด์เมด) (ร้อยละ 27.2)
นอกจากนี้ นางสุดใจ พรหมเกิด ผู้จัดการแผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน กล่าวว่า แม้การมอบดอกกุหลาบยังคงครองอันดับแรกๆ ที่คนตั้งใจจะมอบให้กันในวันวาเลนไทน์ แต่การมอบหนังสือเป็นสื่อบอกรัก ก็เริ่มได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ เพราะหนังสือมีให้เลือกหลากหลายประเภทตามความต้องการ และยังมีคุณค่าที่ลึกซึ้งหลากหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมอบกำลังใจและความปรารถนาดีต่อกันตามผลสำรวจในครั้งนี้
ปัจจุบันมีหลายหน่วยงานที่ให้ความสำคัญอย่างจริงจัง เช่น เทศบาลเมืองบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ก็ออกมารณรงค์ให้คู่รักมอบหนังสือดีๆให้แก่กันในวันวาเลนไทน์ เป็นต้น และเพื่อขานรับในเรื่องนี้ ทางแผนงานฯ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณทิตย์ และองค์กรต่างๆ จะได้ร่วมกันจัดงาน "บอกรักด้วยหนังสือ" ครั้งที่ 4 รักจัดให้(อ่าน) ขึ้นในวันที่ 12 กุมภาพันธุ์ ที่จะถึงนี้ ภายในงานจะมีทั้งผู้ทรงคุณวุฒิและตัวแทนเยาวชนมาร่วมแลกเปลี่ยน และกิจกรรมรณรงค์บอกรักด้วยหนังสือที่เต็มไปด้วยสีสันของคนรุ่นใหม่ เชิญชวนมาร่วมงานค่ะ
ข้อมูลเพิ่มเติมงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน ติดต่อ 02-424-4616-17
ข้อมูลเพิ่มเติมด้านการสำรวจ ติดต่อ 02-350-3500 ต่อ 1527
แฟน/คนรัก พ่อ/แม่/ เด็ก เพื่อน พี่/ ครู/ อื่นๆ รวม
ผู้หลัก ยากจน น้อง/ อาจารย์ เช่น
ผู้ใหญ่ที่ /ผู้ด้อย ญาติๆ ทหาร
เคารพ โอกาส เจ้านาย
หนังสือเสริมสร้างวิธีคิด/เพิ่มกำลังใจ 13.7 13.3 15.4 19.4 20.4 10.8 12.5 15.2
หนังสือท่องเที่ยว/สุขภาพ 13.7 32.4 1.7 2.6 10.2 18.9 18.8 14.4
หนังสือเกี่ยวกับการเรียน 7.6 2.0 32.6 18.3 14.3 16.2 18.8 13.4
การ์ตูน 18.3 3.1 9.1 14.1 18.4 5.4 12.5 11.5
ศาสนา/หนังสือธรรมะ 5.4 29.3 4.0 4.2 4.1 13.5 - 11.2
วรรณกรรม/นวนิยาย 12.6 6.6 1.7 12.0 18.4 2.7 - 8.8
หนังสือภาพ/หนังสือนิทาน/หนังสือเด็ก 6.1 3.1 22.9 4.7 2.0 5.4 6.3 7.8
หนังสือศิลปะ/บันเทิง (เพลง/ดารา) 7.9 1.6 0.6 8.4 2.0 5.4 - 4.6
นิตยสาร/วารสาร 4.3 3.9 0.6 4.2 2.0 2.7 - 3.3
หนังสือความรู้เกี่ยวกับอาชีพ 3.6 1.6 6.3 2.6 6.1 - - 3.3
หนังสือประวัติศาสตร์ 1.4 3.1 2.9 3.7 2.0 16.2 - 3.1
หนังสืออื่นๆ เช่น จิตวิทยา อวกาศ ทำอาหาร 5.4 - 2.3 5.8 - 2.7 31.3 3.6
รวม 100.0 100.0 100.0 100.0 100.0 100.0 100.0 100.0
2. ข้อดีของการมอบหนังสือเป็นของขวัญ
ร้อยละ
เป็นการส่งมอบความรู้ และให้ข้อคิดที่มีประโยชน์แก่ผู้รับ 47.8 เป็นของขวัญที่มีคุณค่า สื่อถึงความรัก ความปรารถนาดี และความนับถือ 8.8 หนังสืออยู่ได้นาน เก็บเป็นที่ระลึกได้ สามารถอ่านซ้ำ หรือส่งต่อให้ผู้อื่นได้ 8.4 อยากช่วยส่งเสริมการอ่าน/สนับสนุนให้คนอ่านหนังสือให้มากขึ้น/สร้างนิสัยรักการอ่าน 7.3 หนังสือสร้างความสุขแก่ผู้อ่าน ให้ความสนุก สร้างแรงบันดาลใจ สร้างจินตนาการ ให้ความเพลิดเพลิน 6.5 หนังสือเป็นของขวัญที่ให้ได้ทุกเพศทุกวัย หาซื้อง่าย มีให้เลือกหลากหลาย ให้ได้ทุกโอกาส ไม่แพง หาซื้อง่าย 5.3 หนังสือใช้ฆ่าเวลาได้/ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 3.3 อยากแบ่งปันความรู้ด้วยการให้หนังสือ ไว้แลกเปลี่ยนกันอ่าน 2.4 เพื่อผู้ด้อยโอกาสได้อ่านหนังสือ เพื่อการบริจาค เพื่อทำบุญ ที่ไม่มีโอกาสซื้อเพราะแพง 2.4 หนังสือช่วยคลายเครียด ให้กำลังใจ คลายเหงา 2.2 ให้กับเด็ก/พัฒนาเด็ก/ให้ความรู้กับเด็ก 1.4 สิ่งจำเป็นในการเรียน ใช้ประกอบอาชีพ 0.8 ผู้รับเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เลยอยากมอบหนังสือให้ 0.6 ดี/ชอบ ไม่มีอะไรมาก 0.3 อยากให้ผู้รับได้อ่านหนังสือเล่มนี้ 0.3 ผู้ให้เป็นคนชอบอ่านเลยมอบหนังสือให้ด้วย 0.3 การให้หนังสือทำให้ดูดี เป็นเรื่องดี 0.2 มอบหนังสือธรรมะ/ผู้ให้ได้บุญไปด้วย 0.2 แค่อยากให้พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูก หลาน ญาติๆ เพื่อนฝูง คนรัก 0.2 ให้เป็นโอกาสพิเศษ 0.1 อื่นๆ เช่น แทนคำขอบคุณ ชอบให้หนังสือเป็นของฝาก แค่อยากซื้อให้ หนังสือสามารถอ่านได้เลย 1.0 รวม 100.0 3. คนที่รักและอยากมอบหนังสือเป็นของขวัญให้มากที่สุดในวันวาเลนไทน์ แฟน/คนรัก ร้อยละ 27.7 พ่อ/แม่/ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพ ร้อยละ 25.6 เพื่อน ร้อยละ 19.5 เด็กยากจน/ผู้ด้อยโอกาส ร้อยละ 17.3 พี่/น้อง/ญาติๆ ร้อยละ 4.8 ครู/อาจารย์ ร้อยละ 3.6 อื่นๆ เช่น ทหาร คนชรา เจ้านาย ผู้พิการทางสายตา ร้อยละ 1.6 4. เหตุผลที่ต้องการมอบหนังสือให้คนที่รักในวันวาเลนไทน์
ร้อยละ
มีประโยชน์ ให้ความรู้ ทำให้ฉลาด แก่ผู้รับ รวมถึงให้ข้อคิด 18.8 เป็นของขวัญที่มีคุณค่า สื่อถึงความปรารถนาดี สื่อถึงความรัก ความนับถือ 18.4 เพื่อผู้ด้อยโอกาสได้อ่านหนังสือ เพื่อการบริจาค เพื่อทำบุญ ที่ไม่มีโอกาสซื้อเพราะแพง 9.1 การให้หนังสือเป็นการส่งมอบความรู้ เพราะหนังสือเป็นแหล่งความรู้ และให้ความรู้ใหม่ๆ ทัศนคติที่ก้าวขึ้น พัฒนาความรู้ และนำไปใช้ประโยชน์ 5.6 ผู้รับเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เลยอยากมอบหนังสือให้ 5.6 อยากช่วยส่งเสริมการอ่าน/สนับสนุนให้คนอ่านหนังสือให้มากขึ้น/สร้างนิสัยรักการอ่าน 4.7 หนังสือสร้างความสุขแก่ผู้อ่าน ให้ความสนุก สร้างแรงบันดาลใจ สร้างจินตนาการ ให้ความเพลิดเพลิน 4.3 หนังสือเป็นของขวัญที่ให้ได้ทุกเพศทุกวัย หาซื้อง่าย มีให้เลือกหลากหลาย ให้ได้ทุกโอกาส ไม่แพง หาซื้อง่าย 4.3 หนังสือใช้ฆ่าเวลาได้/ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 4.0 หนังสืออยู่ได้นาน เก็บเป็นที่ระลึกได้ สามารถนำไปให้ต่อได้ อ่านทบทวน อ่านซ้ำได้ 4.0 หนังสือช่วยคลายเครียด ให้กำลังใจ คลายเหงา 3.4 ให้กับเด็ก/พัฒนาเด็ก/ให้ความรู้กับเด็ก 3.1 อยากมอบให้ผู้ใหญ่/ให้เจ้านาย 2.5 อยากให้ผู้รับได้อ่านหนังสือเล่มนี้ 2.4 อยากแบ่งปันความรู้ด้วยการให้หนังสือ ไว้แลกเปลี่ยนกันอ่าน 1.9 แค่อยากให้พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูก หลาน ญาติๆ เพื่อนฝูง คนรัก 1.6 ให้เป็นโอกาสพิเศษ 1.1 สิ่งจำเป็นในการเรียน ใช้ประกอบอาชีพ 1.1 ผู้ให้เป็นคนชอบอ่านเลยมอบหนังสือให้ด้วย 0.9 ดี/ชอบ ไม่มีอะไรมาก 0.9 มอบหนังสือธรรมะ/ผู้ให้ได้บุญไปด้วย 0.2 การให้หนังสือทำให้ดูดี เป็นเรื่องดี 0.1 อื่นๆ เช่น แทนคำขอบคุณ ชอบให้หนังสือเป็นของฝาก แค่อยากซื้อให้ หนังสือสามารถอ่านได้เลย 1.9 รวม 100.0 5. ใครควรเป็นต้นแบบในการมอบของขวัญด้วยหนังสือ
ร้อยละ
ดารา นักร้อง นักแสดง 20.9 พ่อ แม่ 17.5 นายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา 14.7 ครู อาจารย์ 8.1 เพื่อน รุ่นพี่ 6.9 บุคคลทั่วไป ใครก็ได้ 6.1 ตัวเอง 5.6 ผู้ใหญ่ บุคคลในครอบครัว 4.2 ผู้ใหญ่ที่เครารพรัก 3.6 คนดังในสังคม 2.8 นักการเมือง 1.3 หน่วยงานรัฐบาล 1.3 ดารา นักร้อง ต่างประเทศ 1.2 นักเรียน นักศึกษา วัยรุ่นทั่วไป 1.2 อื่นๆ เช่น คนรวย คนมีฐานะ นักเขียน 4.7 รวม 100.0 6. จะมอบอะไรให้กับคนรัก/คนสนิท ในวันวาเลนไทน์ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) มอบดอกไม้/ดอกกุหลาบ ร้อยละ 39.1 ช็อกโกแลต ร้อยละ 32.7 รับประทานอาหารร่วมกัน ร้อยละ 29.4 ของทำมือ(แฮนด์เมด) ร้อยละ 27.2 มอบหนังสือ ร้อยละ 16.8 การ์ด ร้อยละ 15.4 ตุ๊กตาสื่อรัก ร้อยละ 13.5 เครื่องประดับ ร้อยละ 11.3 อื่นๆ เช่น ต้นไม้ กระเป๋า เสื้อผ้า ร้อยละ 5.1 ไม่มอบให้ใครเลย ร้อยละ 2.2
ระเบียบวิธีวิจัย
1. เพื่อทราบความสนใจมอบหนังสือเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ และเหตุผลที่เลือกให้หนังสือเป็นของขวัญ
2. เพื่อทราบประเภทของหนังสือที่จะมอบเป็นของขวัญ และบุคคลที่จะมอบให้
3. เพื่อรณรงค์ส่งเสริมการอ่านเนื่องในโอกาสวันวาเลนไทน์
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และนิสิตนักศึกษา ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ขนาดตัวอย่างทั้งสิ้น 1,030 ตัวอย่าง ซึ่งจะให้ค่าความคลาดเคลื่อนประมาณ ? 4% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
การสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิหลายขั้น (Multi-Stage Stratified Sampling) โดยพื้นที่กรุงเทพมหานครจะสุ่มจากเขตที่แบ่งพื้นที่ไปตามเขตชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นใน ส่วนพื้นที่ปริมณฑลจะเก็บในพื้นที่ทั้งในเขตเทศบาลและนอกเขตเทศบาล
ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน โดยเป็นข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 6-9 กุมภาพันธ์ 2558
กำหนดวันเผยแพร่ผลสำรวจ : 12 กุมภาพันธ์ 2558
ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ เพศ
ชาย 465 45.1
หญิง 565 54.9
รวม 1,030 100
อายุ
ต่ำกว่า 18 ปี 420 40.7
19-21 ปี 384 37.3
22-24 ปี 154 14.9
มากกว่า 25 ปี 72 7
รวม 1,030 100
กำลังศึกษา
มัธยมศึกษาตอนปลาย 479 46.5
ปริญญาตรี 489 47.5
สูงกว่าปริญญาตรี 61 6
รวม 1,030 100
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--