ประชาชน 71.6% เห็นด้วยกับการคงกฎอัยการศึกจนวันเลือกตั้ง ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรม 56.8% ระบุนายกฯ จำเป็นต้องคุยปรองดองกับแกนนำ แต่ไม่จำเป็นต้องคุยกับ พ.ต.ท. ทักษิณ 52.6% คิดว่าการปฏิรูปเพื่อสร้างความปรองดองมาถูกทางแล้ว
กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “คนไทยคิดอย่างไรกับกฎหมายนิรโทษกรรมสู่ความปรองดอง” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,163 คน พบว่า ประชาชนร้อยละ 47.4 ไม่เห็นด้วยกับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมทางการเมือง ขณะที่ร้อยละ 40.4 เห็นด้วย (ในจำนวนนี้ร้อยละ 22.4 อยากให้นิรโทษกรรมทั้งประชาชนที่ร่วมชุมนุมและแกนนำการชุมนุม และร้อยละ 18.0 อยากให้นิรโทษกรรมเฉพาะประชาชนที่ร่วมชุมนุม)
เมื่อถามว่าการออกกฎหมายนิรโทษกรรมจะช่วยสร้างความปรองดองให้สังคมไทยเพียงใด ร้อยละ 47.9 เห็นว่าช่วยได้บ้าง ขณะที่ร้อยละ 27.6 เห็นว่า ไม่ช่วยเลย ส่วนร้อยละ 17.1 เห็นว่า ช่วยได้มาก
นอกจากนี้ เมื่อถามว่าการสร้างความปรองดอง จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นคนกลางในการพูดคุยกับ แกนนำพรรคการเมือง กปปส. นปช. ส่วนใหญ่ร้อยละ 56.8 เห็นว่าจำเป็น ขณะที่ร้อยละ 36.4 เห็นว่าไม่จำเป็น และร้อยละ 6.8 ไม่แน่ใจ และเมื่อถามต่อว่าจำเป็นหรือไม่ที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องพูดคุยกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เรื่องความปรองดอง ส่วนใหญ่ร้อยละ 58.6 เห็นว่าไม่จำเป็น ขณะที่ร้อยละ 32.6 เห็นว่าจำเป็น และ ร้อยละ 8.8 ไม่แน่ใจ
ด้านความเห็นต่อการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ผู้ชุมนุม จะเป็นแบบอย่างให้เกิดการชุมนุมประท้วงทางการเมืองอีกในอนาคตใช่หรือไม่” ส่วนใหญ่ร้อยละ 61.6 คิดว่าใช่ ขณะที่ร้อยละ 25.9 คิดว่าไม่ใช่ และร้อยละ 12.5 ไม่แน่ใจ
สำหรับความเห็นต่อข้อคำถามที่ว่า “แนวทางการปฏิรูปเพื่อสร้างความปรองดองของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นอย่างไร” ส่วนใหญ่ร้อยละ 52.6 คิดว่าเดินมาถูกทางแล้ว ขณะที่ร้อยละ 38.4 คิดว่ายังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน และร้อยละ 9.0 ไม่แน่ใจ
สุดท้ายเมื่อถามว่า “เห็นด้วยหรือไม่ กับการคงกฎอัยการศึก ไว้จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง” ส่วนใหญ่ร้อยละ 71.6 บอกว่า “เห็นด้วย” ขณะที่ร้อยละ 23.6 บอกว่า “ไม่เห็นด้วย” และร้อยละ 4.8 ไม่แน่ใจ
โดยมีรายละเอียดตามประเด็นข้อคำถาม ดังต่อไปนี้
เห็นด้วย ร้อยละ 40.4 โดย อยากให้นิรโทษเฉพาะประชาชนที่ร่วมชุมนุม ร้อยละ 18.0
อยากให้นิรโทษทั้งประชาชนที่ร่วมชุมนุมและแกนนำการชุมนุม ร้อยละ 22.4
ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 47.4 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 12.2 2. ข้อคำถาม “การออกกฎหมายนิรโทษกรรมจะช่วยสร้างความปรองดองให้สังคมไทยเพียงใด” ช่วยได้มาก ร้อยละ 17.1 ช่วยได้บ้าง ร้อยละ 47.9 ไม่ช่วยเลย ร้อยละ 27.6 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 7.4 3. ข้อคำถาม “การสร้างความปรองดอง จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นคนกลางในการพูดคุยกับ แกนนำพรรคการเมือง กปปส. นปช.” จำเป็น ร้อยละ 56.8 ไม่จำเป็น ร้อยละ 36.4 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 6.8 4. ข้อคำถาม “จำเป็นหรือไม่ที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องพูดคุยกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เรื่องความปรองดอง” จำเป็น ร้อยละ 32.6 ไม่จำเป็น ร้อยละ 58.6 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 8.8 5. ข้อคำถาม “หากมีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ผู้ชุมนุม จะเป็นแบบอย่างให้เกิดการชุมนุมประท้วงทางการเมืองอีกในอนาคตใช่หรือไม่” คิดว่าใช่ ร้อยละ 61.6 คิดว่าไม่ใช่ ร้อยละ 25.9 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 12.5 6. ข้อคำถาม “แนวทางการปฏิรูปเพื่อสร้างความปรองดองของรัฐบาลพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นอย่างไร” คิดว่าเดินมาถูกทางแล้ว ร้อยละ 52.6 คิดว่ายังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน ร้อยละ 38.4 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 9.0 7. ข้อคำถาม “เห็นด้วยหรือไม่ กับการคงกฎอัยการศึก ไว้จนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง” เห็นด้วย ร้อยละ 71.6 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 23.6 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 4.8
รายละเอียดการสำรวจ
- เพื่อสะท้อนความเห็นต่อการออกกฎหมายนิรโทษกรรม
- เพื่อสะท้อนความเห็นต่อความจำเป็นที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีต้องเป็นคนกลางเจรจากับ แกนนำพรรคการเมือง กปปส. นปช. และ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
- เพื่อสะท้อนความเห็นต่อแนวทางการปฏิรูปเพื่อสร้างความปรองดองของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบ Simple Random Sampling แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 17 - 18 กุมภาพันธ์ 2558 วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 19 กุมภาพันธ์ 2558
ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ เพศ
ชาย 601 52.9 หญิง 536 47.1 รวม 1,137 100 อายุ 18 ปี - 30 ปี 196 17.2 31 ปี – 40 ปี 257 22.6 41 ปี – 50 ปี 319 28.1 51 ปี - 60 ปี 238 20.9 61 ปี ขึ้นไป 127 11.2 รวม 1,137 100 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 767 67.5 ปริญญาตรี 291 25.6 สูงกว่าปริญญาตรี 79 6.9 รวม 1,137 100 อาชีพ ลูกจ้างรัฐบาล 143 12.6 ลูกจ้างเอกชน 251 22.1 ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร 494 43.4 เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง 58 5.1 ทำงานให้ครอบครัว 1 0.1 พ่อบ้าน/ แม่บ้าน/ เกษียณอายุ 149 13.1 นักเรียน/ นักศึกษา 28 2.5 ว่างงาน/ รอฤดูกาล/ รวมกลุ่ม 13 1.1 รวม 1,137 100
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--