กรุงเทพโพลล์: “ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า”

ข่าวผลสำรวจ Tuesday April 28, 2015 09:15 —กรุงเทพโพลล์

เศรษฐกิจไทยตกท้องช้าง นักเศรษฐศาสตร์เชื่อยังอยู่ใน “ภาวะถดถอย” ชี้เศรษฐกิจแม้ดีขึ้นแต่จะอยู่ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและเชื่องช้า โดยปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญคือการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ และ การใช้จ่าย การลงทุนภาครัฐ

กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 25 แห่ง จำนวน 63 คน เรื่อง “ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า” โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 1 – 21 เมษายน 2558 ที่ผ่านมา พบว่า

ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 24.03(เต็ม 100) ลดลงเล็กน้อยจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมาที่อยู่ในระดับ 24.51 ซึ่งการที่ดัชนีมีการปรับตัวลดลงและค่าดัชนีอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ค่อนข้างมากสะท้อนให้เห็นถึงสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันที่ยังอ่อนแอเป็นอย่างมาก เมื่อวิเคราะห์ลงไปในแต่ละปัจจัยขับเคลื่อนพบว่าปัจจัยที่ค่าดัชนีอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 ได้แก่ การบริโภคภาคเอกชน(ดัชนีเท่ากับ 6.45)

การส่งออกสินค้า(ดัชนีเท่ากับ 7.26) การลงทุนภาคเอกชน(ดัชนีเท่ากับ 9.68) ขณะที่การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐยังคงขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่ เห็นได้จากค่าดัชนีที่อยู่ในระดับ 38.71 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำและเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยจากการสำรวจครั้งก่อนที่ค่าดัชนีเท่ากับ 38.03 ขณะที่การท่องเที่ยวจากต่างประเทศเป็นปัจจัยเดียวที่ทำงานได้ดีโดยมีค่าดัชนีเท่ากับ 58.06 เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนและอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี 3 เดือน

ด้านความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยใน 3 เดือนข้างหน้า ค่าดัชนีอยู่ที่ 58.41 ลดลงจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา (ค่าดัชนีเท่ากับ 70.35) เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในระยะ 6 เดือนข้างหน้าที่ค่าดัชนีอยู่ที่ 72.99 ลดลงจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา(ค่าดัชนีเท่ากับ 80.99) ซึ่งการที่ค่าดัชนียังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 สะท้อนให้เห็นว่านักเศรษฐศาสตร์ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าจะยังคงปรับตัวดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แต่ความมั่นใจดังกล่าวมีระดับที่ลดลงอย่างต่อเนื่องจากการสำรวจ 3 ครั้งก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่า แม้เศรษฐกิจข้างหน้าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แต่การดีขึ้นดังกล่าวจะอยู่ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและเชื่องช้า

ด้านความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ในประเด็นวัฏจักรเศรษฐกิจว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงใดของวัฏจักร พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 52.4 เห็นว่าอยู่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย (Recession) รองลงมาร้อยละ 20.6 เห็นว่าอยู่ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery) และร้อยละ 14.3 เห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงตกต่ำ (Trough) มีเพียงร้อยละ1.6 ที่เห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงรุ่งเรือง (Peak) เมื่อแบ่งวัฏจักรออกเป็น 2 ฟาก คือ ฟากเศรษฐกิจขยายตัวจนถึงจุดสูงสุด(ร้อยละ 22.2) และ ฟากเศรษฐกิจถดถอยจนถึงจุดต่ำสุด(ร้อยละ 66.7) แล้วเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนหน้าในเดือนมกราคมที่ผ่านมาจะพบว่า เศรษฐกิจปัจจุบันอยู่ในภาวะถดถอยหรือชะลอตัวซึ่งแตกต่างจากการสำรวจครั้งก่อนหน้าที่มองว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงฟื้นตัว

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า

(1) เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยังอยู่ในสถานะที่อ่อนแอเป็นอย่างมาก

(2) แม้เศรษฐกิจข้างหน้าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แต่การดีขึ้นดังกล่าวจะอยู่ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและเชื่องช้า โดยปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ การท่องเที่ยวจากต่างประเทศและการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ

(3) นักเศรษฐศาสตร์มองเศรษฐกิจไทยยังอยู่ใน “ภาวะถดถอย”

(โปรดพิจารณารายละเอียดของผลสำรวจดังต่อไปนี้)

หมายเหตุ: รายงานผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ฉบับนี้  เป็นการสำรวจความเห็นส่วนตัวของ
         นักเศรษฐศาสตร์ซึ่งมิได้สื่อถึงแนวนโยบายขององค์กรที่นักเศรษฐศาสตร์สังกัดอยู่แต่อย่างใด

ตารางที่ 1 ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน

                                               2556                              2557                       2558
ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ                    เม.ย.     ก.ค.     ต.ค.     ม.ค.     เม.ย.      ก.ค.     ต.ค.      ม.ค.    เม.ย.
 1)  การบริโภคภาคเอกชน                 68.1     21.31    17.8     11.02     6.72     24.26     23.81    18.31     6.45
 2)  การลงทุนภาคเอกชน                  62.28    21.31    28.81    14.41     5.22     19.70     19.84    17.61     9.68
 3)  การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ          59.82    43.33    45.61    16.38     6.62     27.21     42.62    38.03    38.71
 4)  การส่งออกสินค้า                     19.49    13.11    13.56    15.25    23.88     19.12     12.70     7.75     7.26
 5)  การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ           73.73    72.95    79.17    32.20    21.32     25.37     29.37    40.85    58.06
               ดัชนีรวม                 56.68     34.4    36.99    17.85    12.75     23.13     25.67    24.51    24.03

หมายเหตุ:  ค่าดัชนีจะมีค่าอยู่ระหว่าง 0-100 โดย

ค่าดัชนีเท่ากับ 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ในสถานะปกติ (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ เดิม/ไม่เปลี่ยนแปลง (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเปรียบเทียบกับปัจจุบัน)

ค่าดัชนีสูงกว่า 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ในสถานะแข็งแกร่ง (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ ดีขึ้น (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเปรียบเทียบกับปัจจุบัน)

ค่าดัชนีต่ำกว่า 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ในสถานะอ่อนแอ (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ แย่ลง (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเปรียบเทียบกับปัจจุบัน)

ตารางที่ 2 ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3 เดือนข้างหน้า (เปรียบเทียบกับปัจจุบัน)

                                                  2556                            2557                      2558
ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ                       เม.ย.     ก.ค.     ต.ค.     ม.ค.    เม.ย.     ก.ค.     ต.ค.     ม.ค.    เม.ย.
 1)  การบริโภคภาคเอกชน                   50.00    30.83    45.00    35.96    42.31    79.85    70.63    69.01    53.33
 2)  การลงทุนภาคเอกชน                    51.82    31.90    51.69    28.18    37.12    84.62    73.02    66.90    54.03
 3)  การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ            67.59    49.14    64.66    25.00    31.62    82.84    89.52    81.69    74.19
 4)  การส่งออกสินค้า                       34.82    32.50    55.08    66.10    65.38    74.62    62.70    61.59    44.35
 5)  การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ             50.00    63.11    79.17    42.98    60.29    81.82    84.68    72.54    66.13
ดัชนีรวม                                  50.85     41.5    59.12    39.65    47.35    80.75    76.11    70.35    58.41

ตารางที่ 3  ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 6 เดือนข้างหน้า (เปรียบเทียบกับปัจจุบัน)

                                                  2556                            2557                      2558
ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ                      เม.ย.      ก.ค.     ต.ค.     ม.ค.    เม.ย.     ก.ค.     ต.ค.     ม.ค.    เม.ย.
 1)  การบริโภคภาคเอกชน                   50.00    50.00    61.21    53.70    64.84    90.30    86.21    81.62    72.50
 2)  การลงทุนภาคเอกชน                    62.04    45.54    70.18    50.93    53.97    92.31    87.29    81.62    75.00
 3)  การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ            81.13    60.71    79.09    40.74    48.48    93.75    95.16    86.96    84.68
 4)  การส่งออกสินค้า                       47.92    47.27    67.80    77.68    76.15    83.59    76.79    76.92    59.02
 5)  การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ             56.48    72.81    80.17    57.14    73.13    90.91    88.14    77.86    73.77
ดัชนีรวม                                  59.51    55.27    71.69    56.07    63.32    90.17    86.72    80.99    72.99

ตารางที่ 4  ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจใน 3-6 เดือนข้างหน้า

                                            3  เดือนข้างหน้า                  6  เดือนข้างหน้า
ปัจจัยขับเคลื่อนที่เชื่อมั่นว่า                    การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ        การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ
    จะดีขึ้น                               การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ             การลงทุนภาคเอกชน
เมื่อเทียบกับปัจจุบัน                             การลงทุนภาคเอกชน            การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ
                                          การบริโภคภาคเอกชน               การบริโภคภาคเอกชน
                                            การส่งออกสินค้า                   การส่งออกสินค้า
ปัจจัยขับเคลื่อนที่เชื่อมั่นว่า
    จะทรงตัว                                    -ไม่มี-                           -ไม่มี-
เมื่อเทียบกับปัจจุบัน

ปัจจัยขับเคลื่อนที่เชื่อมั่นว่า
    จะแย่ลง                                      -ไม่มี-                          -ไม่มี-
เมื่อเทียบกับปัจจุบัน

ตารางที่ 5  วัฏจักรเศรษฐกิจ

วัฏจักรเศรษฐกิจ                                         2556                          2557                    2558
                                                ก.ค.      ต.ค.    ม.ค.     เม.ย.     ก.ค.     ต.ค.     ม.ค.    เม.ย.
เศรษฐกิจขยายตัว (Expansion / Recovery)           13.0%    18.0%    10.0%     1.4%    44.9%    35.9%    43.1%    20.6%
เศรษฐกิจรุ่งเรือง (Peak)                            8.0%     2.0%     2.0%     1.4%     1.4%     1.6%     1.4%     1.6%
เศรษฐกิจถดถอย (Contraction / Recession)         63.0%    63.0%    67.0%    81.2%    33.3%    39.1%    33.3%    52.4%
เศรษฐกิจตกต่ำ (Trough)                            3.0%     5.0%     5.0%     7.2%    11.6%    14.1%    11.1%    14.3%
ไม่ตอบ/ไม่แน่ใจ                                   13.0%    12.0%    16.0%     8.8%     8.8%     9.4%    11.1%    11.1%

รายละเอียดในการสำรวจ

วัตถุประสงค์

เพื่อสะท้อนความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะทางเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันและทิศทางในอนาคตอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้า รวมถึงวัฏจักรเศรษฐกิจให้กับประชาชน และหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนรับทราบเพื่อนำไปใช้ประกอบการวางแผนนโยบายเศรษฐกิจและธุรกิจต่อไป

กลุ่มตัวอย่าง

เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่สำเร็จการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในสาขาเศรษฐศาสตร์ (กรณีสำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์เฉพาะปริญญาตรี หรือปริญญาโท หรือปริญญาเอก อย่างใดอย่างหนึ่ง จะต้องมีประสบการณ์ในการทำงานด้านวิเคราะห์/วิจัย/หรืองานที่เกี่ยวข้องที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถด้านเศรษฐศาสตร์อย่างน้อย 5 ปีจนถึงปัจจุบัน) ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์ วิจัยเศรษฐกิจระดับชั้นนำของประเทศ จำนวน 25 แห่ง ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(TDRI) ศูนย์วิจัยกสิกร สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารธนชาต ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทย บริษัทหลักทรัพย์ภัทร บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย บริษัททิพยประกันชีวิต คณะเศรษฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร สำนักวิชาเศรษฐศาสตร์และนโยบายสาธารณะมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ คณะวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยขอนแก่น และคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

วิธีการรวบรวมข้อมูล

การสำรวจนี้เป็นการวิจัยโดยการเลือกตัวอย่างประชากรโดยไม่อาศัยหลักความน่าจะเป็น (Non-probability sampling) แต่ละหน่วยตัวอย่างที่จะได้รับการเลือก จึงเป็นการเลือกตัวอย่างประชากรแบบเจาะจง (Purposive sampling) และดำเนินการรวบรวมข้อมูลโดยการส่งแบบสอบถามออนไลน์ไปยังนักเศรษฐศาสตร์ในหน่วยงานที่กำหนดภายในระยะเวลาที่กำหนด

          ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล           :  1 – 21 เมษายน 2558

          วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ               :  28 เมษายน 2558

ข้อมูลรายละเอียดของกลุ่มตัวอย่าง

จำนวน ร้อยละ ประเภทของหน่วยงานที่กลุ่มตัวอย่างทำงานอยู่

          หน่วยงานภาครัฐ                               37      58.7
          หน่วยงานภาคเอกชน                            19      30.2
          สถาบันการศึกษา                                7      11.1
          รวม                                        63       100
เพศ
          ชาย                                        42      66.7
          หญิง                                        21      33.3
          รวม                                        63       100
อายุ
          26 ปี – 35 ปี                                11      17.5
          36 ปี – 45 ปี                                28      44.4
          46 ปีขึ้นไป                                   24      38.1
          รวม                                        63       100
การศึกษา
          ปริญญาตรี                                     3       4.8
          ปริญญาโท                                    46        73
          ปริญญาเอก                                   14      22.2
          รวม                                        63       100
ประสบการณ์ทำงานรวม
          1-5  ปี                                      5       7.9
          6-10 ปี                                     15      23.8
          11-15 ปี                                    13      20.6
          16-20 ปี                                    10      15.9
          ตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป                              20      31.8
          รวม                                        63       100

--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ