กรุงเทพโพลล์: “ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า”

ข่าวผลสำรวจ Wednesday July 22, 2015 10:39 —กรุงเทพโพลล์

เศรษฐกิจไทยยังห่างไกลคำว่าฟื้นตัว เหตุจากปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 3 ใน 5 ไม่ทำงาน ได้แก่ การส่งออกสินค้า(ดัชนีเท่ากับ 4.03) การลงทุนภาคเอกชน(ดัชนีเท่ากับ 9.02) การบริโภคภาคเอกชน(ดัชนีเท่ากับ 13.11)

กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 27 แห่ง จำนวน 63 คน เรื่อง “ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3-6 เดือนข้างหน้า” โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 3-14 กรกฎาคม 58 ที่ผ่านมา พบว่า

ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ที่มีต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 28.94 (เต็ม 100) เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมาที่อยู่ในระดับ 24.03 ทั้งนี้การที่ค่าดัชนีอยู่ในระดับต่ำกว่า 50 ค่อนข้างมากสะท้อนให้เห็นถึงสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันที่ยังอ่อนแอเป็นอย่างมาก เมื่อวิเคราะห์ลงไปในแต่ละปัจจัยขับเคลื่อนพบว่าปัจจัยที่ค่าดัชนีอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50 ค่อนข้างมาก ได้แก่ การส่งออกสินค้า(ดัชนีเท่ากับ 4.03) การลงทุนภาคเอกชน(ดัชนีเท่ากับ 9.02) และการบริโภคภาคเอกชน(ดัชนีเท่ากับ 13.11) ขณะที่ปัจจัยด้านการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐยังคงขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ไม่เต็มที่ เห็นได้จากค่าดัชนีที่อยู่ในระดับ 47.58 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าระดับ 50 เช่นกัน ขณะที่การท่องเที่ยวจากต่างประเทศเป็นปัจจัยเดียวที่ทำงานได้ดีโดยมีค่าดัชนีเท่ากับ 70.97 เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อนและเป็นระดับที่สูงที่สุดนับจากเดือนมกราคม 57

เมื่อมองออกไปในระยะ 3 เดือนข้างหน้า ค่าดัชนีอยู่ที่ 59.51 เพิ่มขึ้นจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา (ค่าดัชนีเท่ากับ 58.41) และเมื่อมองออกไปในระยะ 6 เดือนข้างหน้าที่ค่าดัชนีอยู่ที่ 71.01 ลดลงอย่างต่อเนื่องนับจากเดือนกรกฎาคม 57 ทั้งนี้การที่ค่าดัชนียังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 สะท้อนให้เห็นว่านักเศรษฐศาสตร์ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าจะยังคงปรับตัวดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แต่การดีขึ้นดังกล่าวจะอยู่ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและเชื่องช้า

ด้านความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ในประเด็นวัฏจักรเศรษฐกิจว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงใดของวัฏจักร พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 65.1 เห็นว่าอยู่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย (Recession) รองลงมาร้อยละ 14.3 เห็นว่าอยู่ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery) และร้อยละ 3.2 เห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงตกต่ำ (Trough) และไม่มีนักเศรษฐศาสตร์คนใดเลยที่เห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงรุ่งเรือง (Peak) เมื่อแบ่งวัฏจักรออกเป็น 2 ฟาก คือ ฟากเศรษฐกิจขยายตัวจนถึงจุดสูงสุด(ร้อยละ 14.3) และ ฟากเศรษฐกิจถดถอยจนถึงจุดต่ำสุด(ร้อยละ 68.3) แล้วเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนหน้าในเดือนมกราคมที่ผ่านมาจะพบว่า เศรษฐกิจปัจจุบันอยู่ในภาวะถดถอยหรือชะลอตัว

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า

(1) ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย 3 ใน 5 ไม่ทำงานซึ่งได้แก่ การส่งออก การลงทุนภาคเอกชน และการบริโภคภาคเอกชน

(2) แม้เศรษฐกิจข้างหน้าจะดีขึ้นกว่าปัจจุบัน แต่การดีขึ้นดังกล่าวจะอยู่ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและเชื่องช้า โดยปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ การท่องเที่ยวจากต่างประเทศและการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ

(3) นักเศรษฐศาสตร์มองเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วง “เศรษฐกิจถดถอย”

(โปรดพิจารณารายละเอียดของผลสำรวจดังต่อไปนี้)

หมายเหตุ:  รายงานผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ฉบับนี้  เป็นการสำรวจความเห็นส่วนตัวของ
          นักเศรษฐศาสตร์ซึ่งมิได้สื่อถึงแนวนโยบายขององค์กรที่นักเศรษฐศาสตร์สังกัดอยู่แต่อย่างใด
ตารางที่ 1 ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน
                                             2556                       2557                          2558
ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ                       ก.ค.     ต.ค.     ม.ค.    เม.ย.     ก.ค.     ต.ค.     ม.ค.    เม.ย.     ก.ค.
 1)  การบริโภคภาคเอกชน                   21.31    17.80    11.02     6.72    24.26    23.81    18.31     6.45    13.11
 2)  การลงทุนภาคเอกชน                    21.31    28.81    14.41     5.22     19.7    19.84    17.61     9.68     9.02
 3)  การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ            43.33    45.61    16.38     6.62    27.21    42.62    38.03    38.71    47.58
 4)  การส่งออกสินค้า                       13.11    13.56    15.25    23.88    19.12     12.7     7.75     7.26     4.03
 5)  การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ             72.95    79.17     32.2    21.32    25.37    29.37    40.85    58.06    70.97
ดัชนีรวม                                  34.40    36.99    17.85    12.75    23.13    25.67    24.51    24.03    28.94

หมายเหตุ:  ค่าดัชนีจะมีค่าอยู่ระหว่าง 0-100 โดย

ค่าดัชนีเท่ากับ 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ในสถานะปกติ (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ เดิม/ไม่เปลี่ยนแปลง (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเปรียบเทียบกับปัจจุบัน)

ค่าดัชนีสูงกว่า 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ในสถานะแข็งแกร่ง (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ ดีขึ้น (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเปรียบเทียบกับปัจจุบัน)

ค่าดัชนีต่ำกว่า 50 หมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นว่าปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจอยู่ในสถานะอ่อนแอ (สำหรับสถานะปัจจุบัน) หรือหมายถึง นักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับ แย่ลง (สำหรับการคาดการณ์ในอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้าเปรียบเทียบกับปัจจุบัน)

ตารางที่ 2 ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 3 เดือนข้างหน้า (เปรียบเทียบกับปัจจุบัน)
                                             2556                      2557                            2558
ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ                       ก.ค.     ต.ค.     ม.ค.    เม.ย.     ก.ค.     ต.ค.     ม.ค.    เม.ย.     ก.ค.
 1)  การบริโภคภาคเอกชน                   30.83    45.00    35.96    42.31    79.85    70.63    69.01    53.33    51.61
 2)  การลงทุนภาคเอกชน                    31.90    51.69    28.18    37.12    84.62    73.02    66.90    54.03    54.03
 3)  การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ            49.14    64.66    25.00    31.62    82.84    89.52    81.69    74.19    75.00
 4)  การส่งออกสินค้า                       32.50    55.08    66.10    65.38    74.62    62.70    61.59    44.35    49.19
 5)  การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ             63.11    79.17    42.98    60.29    81.82    84.68    72.54    66.13    67.74
ดัชนีรวม                                  41.50    59.12    39.65    47.35    80.75    76.11    70.35    58.41    59.51

ตารางที่ 3  ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยใน 6 เดือนข้างหน้า (เปรียบเทียบกับปัจจุบัน)
                                             2556                       2557                           2558
ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ                       ก.ค.     ต.ค.     ม.ค.    เม.ย.     ก.ค.     ต.ค.     ม.ค.    เม.ย.     ก.ค.
 1)  การบริโภคภาคเอกชน                   50.00    61.21    53.70    64.84    90.30    86.21    81.62    72.50    69.67
 2)  การลงทุนภาคเอกชน                    45.54    70.18    50.93    53.97    92.31    87.29    81.62    75.00    67.21
 3)  การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ            60.71    79.09    40.74    48.48    93.75    95.16    86.96    84.68    86.07
 4)  การส่งออกสินค้า                       47.27    67.80    77.68    76.15    83.59    76.79    76.92    59.02    58.33
 5)  การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ             72.81    80.17    57.14    73.13    90.91    88.14    77.86    73.77    73.77
ดัชนีรวม                                  55.27    71.69    56.07    63.32    90.17    86.72    80.99    72.99    71.01

ตารางที่ 4  วัฏจักรเศรษฐกิจ
                                              2556                       2557                           2558
วัฏจักรเศรษฐกิจ                             ก.ค.     ต.ค.     ม.ค.     เม.ย.     ก.ค.     ต.ค.     ม.ค.    เม.ย.     ก.ค.
เศรษฐกิจขยายตัว (Expansion / Recovery)    13.0     18.0     10.0      1.4      44.9     35.9     43.1     20.6     14.3
เศรษฐกิจรุ่งเรือง (Peak)                     8.0      2.0      2.0      1.4       1.4      1.6      1.4      1.6      0.0
เศรษฐกิจถดถอย (Contraction / Recession)  63.0     63.0     67.0     81.2      33.3     39.1     33.3     52.4     65.1
เศรษฐกิจตกต่ำ (Trough)                     3.0      5.0      5.0      7.2      11.6     14.1     11.1     14.3      3.2
ไม่ตอบ/ไม่แน่ใจ                            13.0     12.0     16.0      8.8       8.8      9.4     11.1     11.1     17.4

รายละเอียดในการสำรวจ

วัตถุประสงค์

เพื่อสะท้อนความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะทางเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันและทิศทางในอนาคตอีก 3 และ 6 เดือนข้างหน้า รวมถึงวัฏจักรเศรษฐกิจ ให้กับประชาชนและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนรับทราบเพื่อนำไปใช้ประกอบการวางแผนนโยบายเศรษฐกิจและธุรกิจต่อไป

กลุ่มตัวอย่าง

เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่สำเร็จการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในสาขาเศรษฐศาสตร์ (กรณีสำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์เฉพาะปริญญาตรี หรือปริญญาโท หรือปริญญาเอก อย่างใดอย่างหนึ่ง จะต้องมีประสบการณ์ในการทำงานด้านวิเคราะห์/วิจัย/หรืองานที่เกี่ยวข้องที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถด้านเศรษฐศาสตร์อย่างน้อย 5 ปีจนถึงปัจจุบัน) ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์ วิจัยเศรษฐกิจระดับชั้นนำของประเทศ จำนวน 27 แห่ง ได้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ มูลนิธิสถาบันวิจัยนโยบายเศรษฐกิจการคลัง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(TDRI) ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารธนชาต ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทย บริษัทหลักทรัพย์ภัทร บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงไทย บริษัททิพยประกันชีวิต คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยนเรศวร สำนักวิชาเศรษฐศาสตร์และนโยบายสาธารณะมหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง และคณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

วิธีการรวบรวมข้อมูล

การสำรวจนี้เป็นการวิจัยโดยการเลือกตัวอย่างประชากรโดยไม่อาศัยหลักความน่าจะเป็น (Non-probability sampling) แต่ละหน่วยตัวอย่างที่จะได้รับการเลือก จึงเป็นการเลือกตัวอย่างประชากรแบบเจาะจง (Purposive sampling) และดำเนินการรวบรวมข้อมูลโดยการส่งแบบสอบถามออนไลน์ไปยังนักเศรษฐศาสตร์ในหน่วยงานที่กำหนดภายในระยะเวลาที่กำหนด

          ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล           : 3-14  กรกฎาคม 58

          วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ               :  22 กรกฎาคม 58

ข้อมูลรายละเอียดของกลุ่มตัวอย่าง

จำนวน ร้อยละ ประเภทของหน่วยงานที่กลุ่มตัวอย่างทำงานอยู่

          หน่วยงานภาครัฐ                              34        54
          หน่วยงานภาคเอกชน                           22      34.9
          สถาบันการศึกษา                               7      11.1
          รวม                                       63       100
เพศ
          ชาย                                       39      61.9
          หญิง                                       24      38.1
          รวม                                       63       100
อายุ
          26 ปี – 35 ปี                               13      20.6
          36 ปี – 45 ปี                               28      44.5
          46 ปีขึ้นไป                                  22      34.9
รวม                                                 63       100

การศึกษา

          ปริญญาตรี                                    3       4.7
          ปริญญาโท                                   49      77.8
          ปริญญาเอก                                  11      17.5
          รวม                                       63       100
ประสบการณ์ทำงานรวม
          1-5  ปี                                     7      11.1
          6-10 ปี                                    13      20.6
          11-15 ปี                                   15      23.8
          16-20 ปี                                    9      14.3
          ตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป                             19      30.2
รวม                                                 63       100

--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ