ประชาชน 82.3 % ทราบว่าสิ้นปีนี้ไทยจะเข้าสู่ประชาชนอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบและประเทศไทยมีความพร้อม62% ระบุสิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว โดยอุปสรรคสำคัญของไทยคือความขัดแย้งทางการเมืองและภาษาอังกฤษ ที่น่าสนใจคนไทยรู้สึกมีความเป็นประชาชนอาเซียน 61.5%
กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “ความพร้อมของคนไทยกับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนปลายปีนี้” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 1,223 คน จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ พบว่า
ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 82.3 ทราบว่าสิ้นเดือนธันวาคมนี้ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่ร้อยละ 17.7 ไม่ทราบ
ทั้งนี้ร้อยละ 56.5 ระบุว่าประเทศไทยมีความพร้อมต่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในระดับปานกลาง รองลงมาร้อยละ 26.4 ระบุว่ามีความพร้อมมากถึงมากที่สุด และร้อยละ 17.1 ระบุว่ามีความพร้อมน้อยถึงน้อยที่สุด หรือในภาพรวมประเทศไทยมีความพร้อมร้อยละ 62.0
เมื่อถามความเห็นต่อศักยภาพของประเทศไทยว่าอยู่ในระดับใดของประเทศในกลุ่มอาเซียน ส่วนใหญ่ร้อยละ 62.5 ระบุว่าอยู่ในระดับกลางๆ รองลงมาร้อยละ 26.6 ระบุว่าอยู่ในระดับต้นๆ และร้อยละ 10.9 ระบุว่าอยู่ระดับท้ายๆ
ส่วนประเทศในประชาคมอาเซียนที่คิดว่าเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองมากที่สุดสำหรับประเทศไทย คือประเทศสิงคโปร์ (ร้อยละ45.8) รองลงมา เป็นประเทศเวียดนาม(ร้อยละ41.8) และประเทศมาเลเซีย(ร้อยละ 33.6)
สำหรับอุปสรรคสำคัญทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนมากที่สุด คือความขัดแย้งทางการเมือง (ร้อยละ 61.3) รองลงมาคือการใช้ภาษาอังกฤษของคนไทย (ร้อยละ 55.3) และการทุจริตคอร์รัปชั่น (ร้อยละ 48.1)
เมื่อถามว่าภาครัฐให้ความรู้และสนับสนุนประชาชนให้มีความเข้าใจและตื่นตัวต่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนเพียงใด ร้อยละ 46.5 เห็นว่าอยู่ในระดับปานกลาง รองลงมาร้อยละ 30.0 อยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด และ ร้อยละ 23.5 อยู่ในระดับน้อยถึงน้อยที่สุด
เมื่อถามว่าการรวมกลุ่มประชาคมอาเซียนจะทำให้ภูมิภาคนี้มีบทบาทสำคัญและมีอำนาจต่อรองกับประชาคมโลก มากขึ้นใช่หรือไม่ ประชาชนร้อยละ 78.4 ระบุว่า “ใช่” ขณะที่ร้อยละ 10.8 ระบุว่า “ไม่ใช่” ที่เหลือร้อยละ 10.8 ระบุว่า “ ไม่แน่ใจ”
ทั้งนี้สิ่งที่ประชาชนรู้สึกกังวลมากที่สุดเมื่อประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียนคือ ร้อยละ 26.5 กังวลว่าเศรษฐกิจจะแย่กว่าเดิมและไทยอาจเสียเปรียบทางการค้า รองลงมาร้อยละ 17.0 กังวลว่าคนไทยอาจถูกแย่งงานแย่งอาชีพ เพราะแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านมีค่าแรงที่ต่ำกว่า และร้อยละ 16.0 กังวลเรื่องภาษาในการสื่อสารโดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่ด้อยกว่าชาติอื่นๆ
สุดท้ายคนไทยมีความรู้สึกว่าตัวเอง “เป็นประชาชนของอาเซียน” ร้อยละ 61.5
โปรดพิจารณารายละเอียดดังต่อไปนี้
ทราบ ร้อยละ 82.3 ไม่ทราบ ร้อยละ 17.7 2. ความเห็นต่อความพร้อมของประเทศไทยในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนปลายปี 2558 พร้อมมากที่สุด ร้อยละ 4.5 พร้อมมาก ร้อยละ 21.9 พร้อมปานกลาง ร้อยละ 56.5 พร้อมน้อย ร้อยละ 13.5 พร้อมน้อยที่สุด ร้อยละ 3.6
ในภาพรวมประเทศไทยมีความพร้อมร้อยละ 62.0
อยู่ในระดับต้นๆ ร้อยละ 26.6 อยู่ในระดับกลางๆ ร้อยละ 62.5 อยู่ในระดับท้ายๆ ร้อยละ 10.9 4. ความเห็นต่อประเทศในประชาคมอาเซียนที่คิดว่าเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองมากที่สุดสำหรับประเทศไทย สิงคโปร์ ร้อยละ 45.8 เวียดนาม ร้อยละ 41.8 มาเลเซีย ร้อยละ 33.6 พม่า ร้อยละ 23.1 ลาว ร้อยละ 10.6 อินโดนีเซีย ร้อยละ 9.7 กัมพูชา ร้อยละ 7.2 บรูไน ร้อยละ 5.7 ฟิลิปปินส์ ร้อยละ 5.6 5.อุปสรรคสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนมากที่สุด ความขัดแย้งทางการเมือง ร้อยละ 61.3 การใช้ภาษาอังกฤษของคนไทย ร้อยละ 55.3 การทุจริตคอร์รัปชั่น ร้อยละ 48.1 ความรู้และการศึกษาของคนไทย ร้อยละ 34.4 กฎหมายที่หย่อนยาน ร้อยละ 28.2 ความไม่ตื่นตัวในเรื่องการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของคนไทย ร้อยละ 23.8 6.ภาครัฐให้ความรู้และสนับสนุนประชาชนให้มีความเข้าใจและตื่นตัวต่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนเพียงใด มากที่สุด ร้อยละ 5.5 มาก ร้อยละ 24.5 ปานกลาง ร้อยละ 46.5 น้อย ร้อยละ 19.5 น้อยที่สุด ร้อยละ 4.0 7. การรวมกลุ่มประชาคมอาเซียนจะทำให้ภูมิภาคนี้มีบทบาทสำคัญและมีอำนาจต่อรองกับประชาคมโลกมากขึ้นใช่หรือไม่ ใช่ ร้อยละ 78.4 ไม่ใช่ ร้อยละ 10.8 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 10.8 8. เรื่องที่กังวลมากที่สุดเมื่อประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมอาเซียน 5 อันดับแรก(เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง) เศรษฐกิจจะแย่กว่าเดิม เพราะการส่งออกอาจลดลง ร้อยละ 26.5 ราคาสินค้าของไทยสูงกว่าทำให้ต้องปรับลดราคาลง ทำให้ไทยเสียเปรียบทางการค้า เรื่องคนไทยอาจถูกแย่งงานแย่งอาชีพ เพราะแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านมีค่าแรงที่ต่ำกว่า ร้อยละ 17.0 เรื่องภาษาในการสื่อสาร โดยเฉพาะภาษาอังกฤษด้อยกว่าชาติอื่นๆ ร้อยละ 16.0 กลัวมีความขัดแย้งทางการเมือง และนักการเมือง ร้อยละ 14.3 การศึกษาของเยาวชนจะสู้ประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ ร้อยละ 5.0 9. ความรู้สึกว่าตัวเอง “เป็นประชาชนของอาเซียน” มากที่สุด ร้อยละ 5.6 มาก ร้อยละ 20.8 ปานกลาง ร้อยละ 53.7 น้อย ร้อยละ 15.7 น้อยที่สุด ร้อยละ 4.2
ในภาพรวมคนไทยมีความรู้สึกเป็นประชาชนของอาเซียน ร้อยละ 61.5
รายละเอียดการสำรวจ
เพื่อสำรวจความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบของประเทศไทย ช่วงปลายปี 2558 ในประเด็นต่างๆ รวมถึงความพร้อมและความรู้สึกต่อการเป็นประชาชนของอาเซียน เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้รับทราบ
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบ Simple Random Sampling แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) แล้วได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 17 - 19 พฤศจิกายน 2558
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 20 พฤศจิกายน 2558
ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ เพศ ชาย 645 52.7 หญิง 578 47.3 รวม 1,223 100.0 อายุ 18 ปี - 30 ปี 171 14.0 31 ปี – 40 ปี 300 24.5 41 ปี – 50 ปี 341 27.9 51 ปี - 60 ปี 274 22.4 61 ปี ขึ้นไป 137 11.2 รวม 1,223 100.0 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 765 62.5 ปริญญาตรี 358 29.3 สูงกว่าปริญญาตรี 100 8.2 รวม 1,223 100.0 อาชีพ ลูกจ้างรัฐบาล 156 12.7 ลูกจ้างเอกชน 308 25.2 ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร 465 38.0 เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง 84 6.9 ทำงานให้ครอบครัว 4 0.3 พ่อบ้าน/ แม่บ้าน/ เกษียณอายุ 161 13.2 นักเรียน/ นักศึกษา 34 2.8 ว่างงาน/ รอฤดูกาล/ รวมกลุ่ม 11 0.9 รวม 1,223 100.0
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--