แท็ก
กรุงเทพโพลล์
ความเป็นมาของการสำรวจ
แม่คือผู้ให้กำเนิดชีวิตและอบรมเลี้ยงดูลูกจนเติบใหญ่ แม่จึงเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการสร้างและ
หล่อหลอมเยาวชนผู้เป็นอนาคตของชาติ อย่างไรก็ตาม ความรักความเข้าใจ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างแม่ลูก
หลายคู่ต้องประสบปัญหาเมื่อลูกย่างเข้าสู่วัยรุ่นอันเป็นวัยแห่งการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นวัยที่เริ่มผละ
จากอกแม่ไปเรียนรู้โลกกว้างภายนอก และด้วยสภาพสังคมยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยสิ่งยั่วยุรอบด้านย่อมเป็นเหตุปัจจัยให้วัย
รุ่นมีโอกาสขัดแย้งกับแม่มากขึ้น ประกอบกับความจำเป็นในการออกไปประกอบอาชีพนอกบ้านเพื่อหารายได้มาจุนเจือ
ครอบครัวของแม่ในปัจจุบันเป็นผลให้แม่ส่วนใหญ่สั่งสมความเครียดมาจากนอกบ้านเป็นทุนอยู่แล้ว สถานการณ์เช่นนี้ย่อม
เปราะบางและล่อแหลมต่อความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก ซึ่งหากไม่ได้มีการทำความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างถูกต้องก็อาจ
นำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย
ในโอกาสวันแม่จะเวียนมาถึงในวันที่ 12 สิงหาคม นี้ ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์จึงได้ดำเนินการสำรวจ
ทัศนคติของวัยรุ่นที่มีต่อแม่ เพื่อเป็นภาพสะท้อนถึงความรู้สึกของลูกๆ วัยรุ่นให้ผู้เป็นแม่ทั้งหลายได้รับทราบ อันจะเป็น
แนวทางในการอบรมเลี้ยงดู และปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
วัตถุประสงค์ของการสำรวจ
เพื่อทราบข้อมูลและความคิดเห็นของวัยรุ่นที่มีต่อแม่ ในประเด็นต่อไปนี้
1. ความสำคัญของแม่
2. ความลับที่วัยรุ่นไม่กล้าบอกแม่
3. สิ่งที่อยากให้แม่ปรับปรุงแก้ไข
4. สิ่งที่ตัวเองควรปรับปรุงแก้ไขเพื่อแม่
5. วิธีการแสดงความรักต่อแม่
ระเบียบวิธีการสำรวจ
การสุ่มตัวอย่าง
การสำรวจใช้วิธีสุ่มตัวอย่างวัยรุ่นอายุ 13-22 ปีที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) โดยสุ่มเขตการปกครอง/
อำเภอ จากนั้นสุ่มถนน
และประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์ ได้ตัวอย่างทั้งสิ้นจำนวน 1,111 คน
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างใช้ความคลาดเคลื่อน ฑ 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล
การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถาม และสัมภาษณ์ความคิดเห็นของประชากรเป้าหมายที่สุ่มได้
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 8-9 สิงหาคม 2548
วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ : 11 สิงหาคม 2548
โดย ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1776
http://research.bu.ac.th/poll/poll_list.php
สรุปผลการสำรวจ
1. กลุ่มตัวอย่างที่สุ่มได้มีจำนวน 1,111 คน เป็นชายร้อยละ 44.5 หญิงร้อยละ 55.5 มีอายุ
ระหว่าง 13-17 ปี ร้อยละ 46.3 และอายุ 18-22 ปี ร้อยละ 53.7 กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาและ
ปวช.ร้อยละ 50.0 ปวส./อนุปริญญาและปริญญาตรี ร้อยละ 47.3 และไม่ได้ศึกษาแล้ว ร้อยละ 2.7
กลุ่มตัวอย่างอาศัยอยู่กับแม่ ร้อยละ 74.1 และไม่ได้อยู่กับแม่ ร้อยละ 25.9
2. วัยรุ่นร้อยละ 96.8 ระบุว่าแม่คือบุคคลสำคัญที่สุดในชีวิต ขณะที่ร้อยละ 1.8 ระบุว่าบุคคลที่สำคัญ
ที่สุดในชีวิตคือพ่อร้อยละ 0.9 ระบุว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ และบุคคลอื่น อาทิ ครู เพื่อน ร้อยละ 0.5
3. วัยรุ่นร้อยละ 53.2 ระบุว่าไม่มีความลับใดที่ไม่กล้าบอกแม่ ในขณะที่วัยรุ่นอีกร้อยละ 46.8 ยอม
รับว่ามี โดยเป็นความลับเรื่องความรักและการคบเพื่อนต่างเพศมากที่สุด ร้อยละ 45.8 รองลงมาคือเรื่องการ
เรียน ร้อยละ 23.5 การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ร้อยละ 15.0 การพนัน ร้อยละ 6.0 ปัญหาหนี้สิน ร้อย
ละ 5.6 ยาเสพติด ร้อยละ 2.5 และอื่น ๆ ร้อยละ 1.6
4. วัยรุ่นร้อยละ 23.8 บอกว่าไม่เคยทะเลาะหรือโต้เถียงกับแม่ ในขณะที่ร้อยละ 76.2 เคย
ทะเลาะและโต้เถียงกับแม่ โดยเรื่องที่เป็นเหตุให้ทะเลาะโต้เถียงกับแม่มากที่สุดคือเรื่องการใช้เงิน ร้อยละ
23.8 รองลงมาคือเรื่องเที่ยวเตร่ ร้อยละ 19.8
เรื่องภายในครอบครัว ร้อยละ 17.4 เรื่องการเรียน ร้อยละ 14.8 เรื่องการคบเพื่อน
ร้อยละ 10.5 เรื่อง การแต่งกาย ร้อยละ 7.2
เรื่องการเล่นเกมและใช้โทรศัพท์ ร้อยละ 3.9 เรื่องการพนันและยาเสพติด ร้อยละ 2.6
5. สำหรับสิ่งที่วัยรุ่นอยากให้แม่ปรับปรุงแก้ไขมากที่สุด คืออยากให้แม่บ่น ให้น้อยลง ร้อยละ 25.9
รองลงมาคือให้เชื่อใจลูก ร้อยละ 18.4 เข้าใจลูกให้มากขึ้น ร้อยละ 16.7 มีเวลาให้ลูกมากขึ้น ร้อยละ
5.7 รักลูกให้เท่ากัน ร้อยละ 3.8 เลิกอบายมุข ร้อยละ 0.9 อื่น ๆ เช่น อย่าคิดมาก ร้อยละ 1.0
โดยที่ลูกอีกร้อยละ 27.6 ระบุว่า แม่ของตนดีอยู่แล้วไม่ต้องปรับปรุง
6. ส่วนสิ่งที่วัยรุ่นคิดว่าตัวเองควรปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้แม่มีความสุขนั้น อันดับแรกคือ ควรตั้งใจเรียนให้
มากขึ้น ร้อยละ 37.3 รองลงมาคือ เลิกเถียงแม่ ร้อยละ 26.7 ช่วยแม่ทำงาน ร้อยละ 10.4 เลิกใช้
เงินฟุ่มเฟือย ร้อยละ 9.3 เลิกเที่ยวเตร่และเสพอบายมุข ร้อยละ 8.8 เลิกคบเพื่อนที่ไม่ดี ร้อยละ
1.3 และอื่นๆ อีกร้อยละ 0.7 ในขณะที่ร้อยละ 5.5 ระบุว่าตัวเองดีอยู่แล้วไม่ต้องปรับปรุง
7. เมื่อถามถึงวิธีการแสดงความรักต่อแม่ พบว่า การปฏิบัติตามคำสั่งสอนของแม่เป็นวิธีการแสดงความ
รักต่อแม่ที่วัยรุ่นนิยมใช้มากที่สุด (ร้อยละ 46.6) รองลงมาได้แก่ กอดแม่/หอมแม่ (ร้อยละ 32.3) ช่วยแม่
ทำงาน (ร้อยละ 31.5) อยู่บ้านกับแม่ (ร้อยละ 24.6) ให้พวงมาลัย/ดอกมะลิในวันแม่ (ร้อยละ
23.9) ซื้อของให้แม่ (ร้อยละ 22.1) บอกรักแม่ด้วยคำพูด (ร้อยละ 22.0) พาแม่ไปเที่ยว (ร้อยละ
11.3) ประดิษฐ์ของให้แม่ (ร้อยละ 5.7) และอื่น ๆ (ร้อยละ 3.1)
ตารางแสดงการประมวลผลข้อมูล
ตารางที่ 1: ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ
เพศ :
ชาย 494 44.5
หญิง 617 55.5
อายุ :
13 — 17 ปี 514 46.3
18 — 22 ปี 597 53.7
การศึกษา
มัธยมศึกษา/ปวช. 555 50.0
ปวส./อนุปริญญา/ปริญญาตรี 525 47.3
ไม่ได้ศึกษาแล้ว 31 2.7
การอยู่อาศัย :
อาศัยอยู่กับแม่ 823 74.1
ไม่ได้อาศัยอยู่กับแม่ 288 25.9
ตารางที่ 2: บุคคลที่วัยรุ่นเห็นว่ามีความสำคัญที่สุดในชีวิต
จำนวน ร้อยละ
แม่ 1076 96.8
พ่อ 20 1.8
ญาติผู้ใหญ่ 10 0.9
อื่นๆ 5 0.5
รวม 1,111 100
ตารางที่ 3: ความลับที่วัยรุ่นไม่กล้าบอกแม่
จำนวน ร้อยละ
ไม่มีความลับที่ไม่กล้าบอกแม่ 591 53.2
มีความลับที่ไม่กล้าบอกแม่ 520 46.8
รวม 1,111 100
ความลับที่ไม่กล้าบอกแม่ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
จำนวน ร้อยละ
ความรักและการคบเพื่อนต่างเพศ 312 45.8
การเรียน 160 23.5
การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ 102 15.0
การพนัน 39 6.0
ปัญหาหนี้สิน 36 5.6
ยาเสพติด 16 2.5
อื่น ๆ 11 1.6
ตารางที่ 4: เรื่องที่เคยทะเลาะโต้เถียงกับแม่
จำนวน ร้อยละ
เคยทะเลาะโต้เถียงกับแม่ 847 76.2
ไม่เคยทะเลาะโต้เถียงกับแม่ 264 23.8
รวม 1,111 100
เรื่องที่เคยทะเลาะและโต้เถียงกับแม่ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
จำนวน ร้อยละ
การใช้เงิน 310 23.8
การเที่ยวเตร่ 258 19.8
เรื่องในครอบครัว 226 17.4
การเรียน 192 14.8
การคบเพื่อน 137 10.5
การแต่งกาย 94 7.2
การเล่นเกมและใช้โทรศัพท์ 51 3.9
การพนันและยาเสพติด 33 2.6
ตารางที่ 5: สิ่งที่อยากให้แม่ปรับปรุงแก้ไข
จำนวน ร้อยละ
บ่นให้น้อยลง 288 25.9
ให้เชื่อใจลูก 204 18.4
เข้าใจลูกให้มากขึ้น 185 16.7
มีเวลาให้ลูกมากขึ้น 63 5.7
รักลูกให้เท่ากัน 42 3.8
เลิกอบายมุข 10 0.9
อื่น ๆ เช่น อย่าคิดมาก 11 1.0
ดีอยู่แล้วไม่ต้องปรับปรุง 308 27.6
รวม 1,111 100
ตารางที่ 6: สิ่งที่คิดว่าตัวเองควรปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้แม่มีความสุข
จำนวน ร้อยละ
ตั้งใจเรียนให้มากขึ้น 414 37.3
เลิกเถียงแม่ 297 26.7
ช่วยแม่ทำงาน 115 10.4
เลิกใช้เงินฟุ่มเฟือย 103 9.3
เลิกเที่ยวเตร่และเสพอบายมุข 98 8.8
เลิกคบเพื่อนที่ไม่ดี 14 1.3
อื่นๆ 8 0.7
ดีอยู่แล้วไม่ต้องปรับปรุง 62 5.5
รวม 1,111 100
ตารางที่ 7: วิธีการแสดงความรักต่อแม่ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
จำนวน ร้อยละ
ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของแม่ 518 46.6
กอดแม่/หอมแม่ 359 32.3
ช่วยแม่ทำงาน 350 31.5
อยู่บ้านกับแม่ 273 24.6
ให้พวงมาลัย/ดอกมะลิในวันแม่ 265 23.9
ซื้อของให้แม่ 245 22.1
บอกรักด้วยคำพูด 244 22.0
พาแม่ไปเที่ยว 126 11.3
ประดิษฐ์ของให้แม่ 63 5.7
อื่น ๆ 34 3.1
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--
-พห-
แม่คือผู้ให้กำเนิดชีวิตและอบรมเลี้ยงดูลูกจนเติบใหญ่ แม่จึงเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการสร้างและ
หล่อหลอมเยาวชนผู้เป็นอนาคตของชาติ อย่างไรก็ตาม ความรักความเข้าใจ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างแม่ลูก
หลายคู่ต้องประสบปัญหาเมื่อลูกย่างเข้าสู่วัยรุ่นอันเป็นวัยแห่งการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นวัยที่เริ่มผละ
จากอกแม่ไปเรียนรู้โลกกว้างภายนอก และด้วยสภาพสังคมยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยสิ่งยั่วยุรอบด้านย่อมเป็นเหตุปัจจัยให้วัย
รุ่นมีโอกาสขัดแย้งกับแม่มากขึ้น ประกอบกับความจำเป็นในการออกไปประกอบอาชีพนอกบ้านเพื่อหารายได้มาจุนเจือ
ครอบครัวของแม่ในปัจจุบันเป็นผลให้แม่ส่วนใหญ่สั่งสมความเครียดมาจากนอกบ้านเป็นทุนอยู่แล้ว สถานการณ์เช่นนี้ย่อม
เปราะบางและล่อแหลมต่อความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก ซึ่งหากไม่ได้มีการทำความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างถูกต้องก็อาจ
นำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย
ในโอกาสวันแม่จะเวียนมาถึงในวันที่ 12 สิงหาคม นี้ ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์จึงได้ดำเนินการสำรวจ
ทัศนคติของวัยรุ่นที่มีต่อแม่ เพื่อเป็นภาพสะท้อนถึงความรู้สึกของลูกๆ วัยรุ่นให้ผู้เป็นแม่ทั้งหลายได้รับทราบ อันจะเป็น
แนวทางในการอบรมเลี้ยงดู และปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
วัตถุประสงค์ของการสำรวจ
เพื่อทราบข้อมูลและความคิดเห็นของวัยรุ่นที่มีต่อแม่ ในประเด็นต่อไปนี้
1. ความสำคัญของแม่
2. ความลับที่วัยรุ่นไม่กล้าบอกแม่
3. สิ่งที่อยากให้แม่ปรับปรุงแก้ไข
4. สิ่งที่ตัวเองควรปรับปรุงแก้ไขเพื่อแม่
5. วิธีการแสดงความรักต่อแม่
ระเบียบวิธีการสำรวจ
การสุ่มตัวอย่าง
การสำรวจใช้วิธีสุ่มตัวอย่างวัยรุ่นอายุ 13-22 ปีที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
โดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) โดยสุ่มเขตการปกครอง/
อำเภอ จากนั้นสุ่มถนน
และประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์ ได้ตัวอย่างทั้งสิ้นจำนวน 1,111 คน
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างใช้ความคลาดเคลื่อน ฑ 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล
การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถาม และสัมภาษณ์ความคิดเห็นของประชากรเป้าหมายที่สุ่มได้
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 8-9 สิงหาคม 2548
วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ : 11 สิงหาคม 2548
โดย ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1776
http://research.bu.ac.th/poll/poll_list.php
สรุปผลการสำรวจ
1. กลุ่มตัวอย่างที่สุ่มได้มีจำนวน 1,111 คน เป็นชายร้อยละ 44.5 หญิงร้อยละ 55.5 มีอายุ
ระหว่าง 13-17 ปี ร้อยละ 46.3 และอายุ 18-22 ปี ร้อยละ 53.7 กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาและ
ปวช.ร้อยละ 50.0 ปวส./อนุปริญญาและปริญญาตรี ร้อยละ 47.3 และไม่ได้ศึกษาแล้ว ร้อยละ 2.7
กลุ่มตัวอย่างอาศัยอยู่กับแม่ ร้อยละ 74.1 และไม่ได้อยู่กับแม่ ร้อยละ 25.9
2. วัยรุ่นร้อยละ 96.8 ระบุว่าแม่คือบุคคลสำคัญที่สุดในชีวิต ขณะที่ร้อยละ 1.8 ระบุว่าบุคคลที่สำคัญ
ที่สุดในชีวิตคือพ่อร้อยละ 0.9 ระบุว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ และบุคคลอื่น อาทิ ครู เพื่อน ร้อยละ 0.5
3. วัยรุ่นร้อยละ 53.2 ระบุว่าไม่มีความลับใดที่ไม่กล้าบอกแม่ ในขณะที่วัยรุ่นอีกร้อยละ 46.8 ยอม
รับว่ามี โดยเป็นความลับเรื่องความรักและการคบเพื่อนต่างเพศมากที่สุด ร้อยละ 45.8 รองลงมาคือเรื่องการ
เรียน ร้อยละ 23.5 การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ร้อยละ 15.0 การพนัน ร้อยละ 6.0 ปัญหาหนี้สิน ร้อย
ละ 5.6 ยาเสพติด ร้อยละ 2.5 และอื่น ๆ ร้อยละ 1.6
4. วัยรุ่นร้อยละ 23.8 บอกว่าไม่เคยทะเลาะหรือโต้เถียงกับแม่ ในขณะที่ร้อยละ 76.2 เคย
ทะเลาะและโต้เถียงกับแม่ โดยเรื่องที่เป็นเหตุให้ทะเลาะโต้เถียงกับแม่มากที่สุดคือเรื่องการใช้เงิน ร้อยละ
23.8 รองลงมาคือเรื่องเที่ยวเตร่ ร้อยละ 19.8
เรื่องภายในครอบครัว ร้อยละ 17.4 เรื่องการเรียน ร้อยละ 14.8 เรื่องการคบเพื่อน
ร้อยละ 10.5 เรื่อง การแต่งกาย ร้อยละ 7.2
เรื่องการเล่นเกมและใช้โทรศัพท์ ร้อยละ 3.9 เรื่องการพนันและยาเสพติด ร้อยละ 2.6
5. สำหรับสิ่งที่วัยรุ่นอยากให้แม่ปรับปรุงแก้ไขมากที่สุด คืออยากให้แม่บ่น ให้น้อยลง ร้อยละ 25.9
รองลงมาคือให้เชื่อใจลูก ร้อยละ 18.4 เข้าใจลูกให้มากขึ้น ร้อยละ 16.7 มีเวลาให้ลูกมากขึ้น ร้อยละ
5.7 รักลูกให้เท่ากัน ร้อยละ 3.8 เลิกอบายมุข ร้อยละ 0.9 อื่น ๆ เช่น อย่าคิดมาก ร้อยละ 1.0
โดยที่ลูกอีกร้อยละ 27.6 ระบุว่า แม่ของตนดีอยู่แล้วไม่ต้องปรับปรุง
6. ส่วนสิ่งที่วัยรุ่นคิดว่าตัวเองควรปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้แม่มีความสุขนั้น อันดับแรกคือ ควรตั้งใจเรียนให้
มากขึ้น ร้อยละ 37.3 รองลงมาคือ เลิกเถียงแม่ ร้อยละ 26.7 ช่วยแม่ทำงาน ร้อยละ 10.4 เลิกใช้
เงินฟุ่มเฟือย ร้อยละ 9.3 เลิกเที่ยวเตร่และเสพอบายมุข ร้อยละ 8.8 เลิกคบเพื่อนที่ไม่ดี ร้อยละ
1.3 และอื่นๆ อีกร้อยละ 0.7 ในขณะที่ร้อยละ 5.5 ระบุว่าตัวเองดีอยู่แล้วไม่ต้องปรับปรุง
7. เมื่อถามถึงวิธีการแสดงความรักต่อแม่ พบว่า การปฏิบัติตามคำสั่งสอนของแม่เป็นวิธีการแสดงความ
รักต่อแม่ที่วัยรุ่นนิยมใช้มากที่สุด (ร้อยละ 46.6) รองลงมาได้แก่ กอดแม่/หอมแม่ (ร้อยละ 32.3) ช่วยแม่
ทำงาน (ร้อยละ 31.5) อยู่บ้านกับแม่ (ร้อยละ 24.6) ให้พวงมาลัย/ดอกมะลิในวันแม่ (ร้อยละ
23.9) ซื้อของให้แม่ (ร้อยละ 22.1) บอกรักแม่ด้วยคำพูด (ร้อยละ 22.0) พาแม่ไปเที่ยว (ร้อยละ
11.3) ประดิษฐ์ของให้แม่ (ร้อยละ 5.7) และอื่น ๆ (ร้อยละ 3.1)
ตารางแสดงการประมวลผลข้อมูล
ตารางที่ 1: ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ
เพศ :
ชาย 494 44.5
หญิง 617 55.5
อายุ :
13 — 17 ปี 514 46.3
18 — 22 ปี 597 53.7
การศึกษา
มัธยมศึกษา/ปวช. 555 50.0
ปวส./อนุปริญญา/ปริญญาตรี 525 47.3
ไม่ได้ศึกษาแล้ว 31 2.7
การอยู่อาศัย :
อาศัยอยู่กับแม่ 823 74.1
ไม่ได้อาศัยอยู่กับแม่ 288 25.9
ตารางที่ 2: บุคคลที่วัยรุ่นเห็นว่ามีความสำคัญที่สุดในชีวิต
จำนวน ร้อยละ
แม่ 1076 96.8
พ่อ 20 1.8
ญาติผู้ใหญ่ 10 0.9
อื่นๆ 5 0.5
รวม 1,111 100
ตารางที่ 3: ความลับที่วัยรุ่นไม่กล้าบอกแม่
จำนวน ร้อยละ
ไม่มีความลับที่ไม่กล้าบอกแม่ 591 53.2
มีความลับที่ไม่กล้าบอกแม่ 520 46.8
รวม 1,111 100
ความลับที่ไม่กล้าบอกแม่ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
จำนวน ร้อยละ
ความรักและการคบเพื่อนต่างเพศ 312 45.8
การเรียน 160 23.5
การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ 102 15.0
การพนัน 39 6.0
ปัญหาหนี้สิน 36 5.6
ยาเสพติด 16 2.5
อื่น ๆ 11 1.6
ตารางที่ 4: เรื่องที่เคยทะเลาะโต้เถียงกับแม่
จำนวน ร้อยละ
เคยทะเลาะโต้เถียงกับแม่ 847 76.2
ไม่เคยทะเลาะโต้เถียงกับแม่ 264 23.8
รวม 1,111 100
เรื่องที่เคยทะเลาะและโต้เถียงกับแม่ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
จำนวน ร้อยละ
การใช้เงิน 310 23.8
การเที่ยวเตร่ 258 19.8
เรื่องในครอบครัว 226 17.4
การเรียน 192 14.8
การคบเพื่อน 137 10.5
การแต่งกาย 94 7.2
การเล่นเกมและใช้โทรศัพท์ 51 3.9
การพนันและยาเสพติด 33 2.6
ตารางที่ 5: สิ่งที่อยากให้แม่ปรับปรุงแก้ไข
จำนวน ร้อยละ
บ่นให้น้อยลง 288 25.9
ให้เชื่อใจลูก 204 18.4
เข้าใจลูกให้มากขึ้น 185 16.7
มีเวลาให้ลูกมากขึ้น 63 5.7
รักลูกให้เท่ากัน 42 3.8
เลิกอบายมุข 10 0.9
อื่น ๆ เช่น อย่าคิดมาก 11 1.0
ดีอยู่แล้วไม่ต้องปรับปรุง 308 27.6
รวม 1,111 100
ตารางที่ 6: สิ่งที่คิดว่าตัวเองควรปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้แม่มีความสุข
จำนวน ร้อยละ
ตั้งใจเรียนให้มากขึ้น 414 37.3
เลิกเถียงแม่ 297 26.7
ช่วยแม่ทำงาน 115 10.4
เลิกใช้เงินฟุ่มเฟือย 103 9.3
เลิกเที่ยวเตร่และเสพอบายมุข 98 8.8
เลิกคบเพื่อนที่ไม่ดี 14 1.3
อื่นๆ 8 0.7
ดีอยู่แล้วไม่ต้องปรับปรุง 62 5.5
รวม 1,111 100
ตารางที่ 7: วิธีการแสดงความรักต่อแม่ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
จำนวน ร้อยละ
ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของแม่ 518 46.6
กอดแม่/หอมแม่ 359 32.3
ช่วยแม่ทำงาน 350 31.5
อยู่บ้านกับแม่ 273 24.6
ให้พวงมาลัย/ดอกมะลิในวันแม่ 265 23.9
ซื้อของให้แม่ 245 22.1
บอกรักด้วยคำพูด 244 22.0
พาแม่ไปเที่ยว 126 11.3
ประดิษฐ์ของให้แม่ 63 5.7
อื่น ๆ 34 3.1
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--
-พห-