แฟนบอลไทย 95.4% รอชมถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2016 เชียร์อังกฤษมากที่สุด แต่ยกเยอรมันเต็งแชมป์ 44.5% เตรียมเสี่ยงโชคในช่วงยูโร 2016 เกือบครึ่ง จะใช้วิธีแทงพนันฟุตบอล 70.6% ไม่เชื่อรัฐปราบพนันบอลช่วงยูโรได้ 55.8% เห็นด้วยหากเปิดร้านพนันบอลแบบถูกกฎหมาย
เนื่องในวันที่ 10 มิถุนายนที่จะถึงนี้จะมีการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2016” กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จึงได้ดำเนินการ สำรวจความคิดเห็น เรื่อง “คอบอลไทยกับฟุตบอลยูโร 2016” โดยเก็บข้อมูลจากแฟนบอลที่ติดตามข่าวสารฟุตบอลจำนวนทั้งสิ้น 1,126 คน พบว่า
แฟนบอลส่วนใหญ่ร้อยละ 94.5 จะติดตามรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2016 ในจำนวนนี้ ร้อยละ 65.4 จะติดตามชมบางคู่เฉพาะทีมเชียร์ และทีมใหญ่ๆ รองลงมาร้อยละ 29.1 จะติดตามชมทุกคู่ที่สามารถดูได้ ขณะที่ร้อยละ 5.5 จะไม่ติดตามชมเพราะต้องเรียน/ทำงาน
สำหรับทีมที่แฟนบอลไทยส่วนใหญ่เชียร์มากที่สุดในฟุตบอลยูโร 2016 พบว่าอันดับแรกคือ ทีมชาติอังกฤษ (ร้อยละ 28.5) รองลงมาคือ ทีมชาติเยอรมัน (ร้อยละ 26.6) ทีมชาติสเปน (ร้อยละ 14.9) ทีมชาติฝรั่งเศสเจ้าภาพ (ร้อยละ 14.5) และทีมชาติอิตาลี (ร้อยละ 7.2)
ส่วนทีมที่แฟนบอลไทยคาดว่าจะได้แชมป์ฟุตบอลยูโร 2016 คือ ทีมชาติเยอรมัน (ร้อยละ 33.7) รองลงมาคือ ทีมชาติฝรั่งเศสเจ้าภาพ (ร้อยละ 19.6) ทีมชาติอังกฤษ (ร้อยละ 17.7) ทีมชาติสเปน (ร้อยละ 16.8) และทีมชาติอิตาลี (ร้อยละ 6.3)
ด้านกิจกรรมที่คาดว่าจะทำในระหว่างการชมฟุตบอลยูโร 2016 คือ กินขนมขบเขี้ยว (ร้อยละ 45.7) รองลงมาคือ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า/เบียร์ (ร้อยละ 38.8) ดื่มน้ำอัดลม (ร้อยละ 30.5) ดื่มกาแฟ (ร้อยละ 15.6) และสูบบุหรี่ (ร้อยละ 12.8)
เมื่อถามว่าคิดว่าจะมีการเสี่ยงโชคหรือเล่นพนันในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 หรือไม่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 55.5 ไม่คิดว่าจะมี ขณะที่ร้อยละ 44.5 คิดว่าจะมี โดยในจำนวนนี้ร้อยละ 69.6 ระบุว่า จะส่งไปรษณียบัตร / กิจกรรมทายผลอื่นๆ รองลงมาร้อยละ 45.9 จะเล่นพนันกับโต๊ะบอล / เล่นพนันผ่านช่องทางออนไลน์ และร้อยละ 35.5 จะเล่นเดิมพันกับเพื่อนๆ
ทั้งนี้เมื่อถามว่าคิดว่าหน่วยงานภาครัฐจะสามารถควบคุมและปราบปรามการเล่นการพนันในช่วงฟุตบอลยูโร 2016 ได้หรือไม่ ส่วนใหญ่ร้อยละ 70.6 คิดว่าทำไม่ได้ ขณะที่ร้อยละ 15.3 คิดว่าทำได้ และร้อยละ 14.1 ไม่แน่ใจ
สุดท้ายเมื่อถามว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการเปิดร้านแทงพนันฟุตบอลแบบถูกกฎหมายอย่างเช่นในต่างประเทศ ส่วนใหญ่ร้อยละ 55.8 บอกว่าเห็นด้วย ขณะที่ร้อยละ 35.7 บอกว่าไม่เห็นด้วย และร้อยละ 8.5 ไม่แน่ใจ
โดยมีรายละเอียดตามประเด็นข้อคำถามดังต่อไปนี้
จะติดตามชม ร้อยละ 94.5 โดย ติดตามชมบางคู่เฉพาะทีมเชียร์ และทีมใหญ่ๆ ร้อยละ 65.4 ติดตามชมทุกคู่ที่สามารถดูได้ ร้อยละ 29.1 จะไม่ติดตามชมเพราะต้องเรียน ทำงาน ร้อยละ 5.5 2. ทีมชาติที่แฟนบอลไทยเชียร์มากที่สุดในฟุตบอลยูโร 2016 (5 อันดับแรก) อังกฤษ ร้อยละ 28.5 เยอรมัน ร้อยละ 26.6 สเปน ร้อยละ 14.9 ฝรั่งเศส (เจ้าภาพ) ร้อยละ 14.5 อิตาลี ร้อยละ 7.2 3. ทีมชาติที่แฟนบอลไทยคาดว่าจะได้แชมป์ฟุตบอลยูโร 2016 (5 อันดับแรก) เยอรมัน ร้อยละ 33.7 ฝรั่งเศส (เจ้าภาพ) ร้อยละ 19.6 อังกฤษ ร้อยละ 17.7 สเปน ร้อยละ 16.8 อิตาลี ร้อยละ 6.3 4. กิจกรรมที่คาดว่าจะทำในระหว่างการชมฟุตบอลยูโร 2016(เลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) กินขนมขบเขี้ยว ร้อยละ 45.7 ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า/เบียร์ ร้อยละ 38.8 ดื่มน้ำอัดลม ร้อยละ 30.5 ดื่มกาแฟ ร้อยละ 15.6 สูบบุหรี่ ร้อยละ 12.8 เชียร์ตามสถานบันเทิง ผับ บาร์ ร้อยละ 12.8 สั่งอาหารมากินเช่น พิซซ่า KFC ร้อยละ 11.4 กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ร้อยละ 7.7 อื่นๆ เช่น กินผลไม้ ดื่มน้ำผลไม้ ร้อยละ 5.8 5. ข้อคำถาม “คิดว่าจะมีการเสี่ยงโชคหรือเล่นพนัน ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2016 หรือไม่” ไม่คิดว่าจะมี ร้อยละ 55.5 คิดว่าจะมี ร้อยละ 44.5 โดย ส่งไปรษณียบัตร / กิจกรรมทายผลอื่นๆ ร้อยละ 69.6 (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) เล่นพนันกับโต๊ะบอล / เล่นพนันผ่านช่องทางออนไลน์ ร้อยละ 45.9 เล่นเดิมพันกับเพื่อน ร้อยละ 35.5 6. ข้อคำถาม “คิดว่าหน่วยงานภาครัฐจะสามารถควบคุมและปราบปรามการเล่นการพนันในช่วงฟุตบอลยูโร 2016 ได้หรือไม่” คิดว่าทำได้ ร้อยละ 15.3 คิดว่าทำไม่ได้ ร้อยละ 70.6 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 14.1 7. ข้อคำถาม “เห็นด้วยหรือไม่กับการเปิดร้านแทงพนันฟุตบอลแบบถูกกฎหมายอย่างเช่นในต่างประเทศ” เห็นด้วย ร้อยละ 55.8 ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 35.7 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 8.5
รายละเอียดในการสำรวจ วัตถุประสงค์
1. เพื่อต้องการทราบถึงการติดตามการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2016
2. เพื่อสะท้อนถึงทีมที่เชียร์และทีมที่คาดว่าจะคว้าแชมป์ฟุตบอลยูโร 2016
3. เพื่อต้องการทราบถึงกิจกรรมที่ทำในระหว่างชมฟุตบอลยูโร 2016
4. เพื่อสะท้อนความเห็นต่อภาครัฐในการควบคุมและปราบปรามการเล่นการพนันในช่วงฟุตบอลยูโร 2016
5. เพื่อสะท้อนความเห็นต่อการเปิดร้านแทงพนันฟุตบอลแบบถูกกฎหมาย
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปในทุกสาขาอาชีพ ที่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 23 เขต จากทั้งหมด 50 เขต แบ่งเป็นเขตชั้นใน ชั้นกลาง และชั้นนอก ได้แก่ คลองเตย คลองสานจตุจักร ดอนเมือง ดินแดง ทุ่งครุ บางกอกน้อย บางกะปิ บางขุนเทียน บางเขน บางนา บางรัก ปทุมวัน ประเวศ พระนคร ภาษีเจริญ ราชเทวี ราษฎร์บูรณะ ลาดกระบัง วังทองหลาง สวนหลวง สะพานสูง และสาทร ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) จากนั้นใช้ วิธีเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์แบบพบตัว ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้นจำนวน 1,126 คน เป็นชายร้อยละ 90.2และหญิง ร้อยละ 9.8
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 27 – 31 พฤษภาคม 2559 วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 4 มิถุนายน 2559
ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ เพศ
ชาย 1,016 90.2 หญิง 110 9.8 รวม 1,126 100 อายุ 18 ปี - 30 ปี 291 25.7 31 ปี – 40 ปี 262 23.3 41 ปี – 50 ปี 236 21 51 ปี - 60 ปี 201 17.9 61 ปี ขึ้นไป 136 12.1 รวม 1,126 100 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 783 69.6 ปริญญาตรี 300 26.6 สูงกว่าปริญญาตรี 43 3.8 รวม 1,126 100 อาชีพ ลูกจ้างรัฐบาล 143 12.7 ลูกจ้างเอกชน 365 32.4 ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร 381 33.9 เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง 52 4.6 ทำงานให้ครอบครัว 11 1 พ่อบ้าน/ แม่บ้าน/ เกษียณอายุ 94 8.3 นักเรียน/ นักศึกษา 62 5.5 ว่างงาน/ รอฤดูกาล/ รวมกลุ่ม 18 1.6 รวม 1,126 100
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--