ครบ 2 ปีประชาชนเชื่อมั่นศักยภาพประเทศไทยลดลงในทุกด้าน โดยเชื่อมั่นด้านการแข่งขันกับประเทศในอาเซียนมากที่สุด ขณะที่เชื่อมั่นด้านการแก้ปัญหา ทุจริตคอร์รัปชั่นน้อยที่สุด โดยด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมายมีความเชื่อมั่นลดลงมากที่สุด
กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “ความเชื่อมั่นประเทศไทยหลังครบ 2 ปี คสช.” โดยเก็บข้อมูลกับ ประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,166 คน พบว่า
ประชาชนให้คะแนนความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของประเทศไทยเฉลี่ยในภาพรวม 4.99 คะแนน (จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน) ลดลงจากผลสำรวจในช่วงเดียวกัน ของปีก่อน 0.44 คะแนน โดยเชื่อมั่นด้านการเมืองมากที่สุด (5.12 คะแนน) รองลงมาคือด้านเศรษฐกิจ (5.07 คะแนน) ขณะที่ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมได้คะแนนน้อยที่สุด (4.78 คะแนน)
เมื่อแยกพิจารณาจากด้านที่ได้ความเชื่อมั่นมากที่สุดไปน้อยที่สุดพบว่า ความเชื่อมั่นด้านการเมืองในภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 5.12 คะแนน ลดลงจากผลสำรวจ ครั้งก่อน 0.50 คะแนน (5.62 คะแนน) โดยตัวชี้วัดด้านการเมืองที่ประชาชนให้คะแนนความเชื่อมั่นมากที่สุดคือ ด้านความสามารถในการบริหารประเทศของรัฐบาล ชุดปัจจุบัน/คสช. (5.73 คะแนน) ขณะที่ตัวชี้วันที่ได้คะแนนน้อยที่สุดคือ ด้านการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น (4.44 คะแนน)
ความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจในภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 5.07 คะแนนลดลงจากผลสำรวจครั้งก่อน 0.30 คะแนน (5.37 คะแนน) โดยตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจที่ได้ คะแนนมากที่สุดคือ ด้านความสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน (5.80 คะแนน) ส่วนด้านที่ได้คะแนนน้อยที่สุดคือ ด้านฐานะการเงินของประเทศ (4.64 คะแนน)
ความเชื่อมั่นด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมในภาพรวมได้คะแนนเฉลี่ย 4.78 คะแนน ลดลงจากผลสำรวจครั้งก่อน 0.52 คะแนน (5.30 คะแนน) โดยตัวชี้วัด ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ได้คะแนนมากที่สุดคือ ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (5.39 คะแนน) ส่วนด้านที่ได้คะแนนน้อยที่สุดคือ ด้านกระบวนการยุติธรรมและ การบังคับใช้กฎหมาย (4.50 คะแนน)
โดยมีรายละเอียดตามประเด็นข้อคำถาม ดังต่อไปนี้
1. ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อศักยภาพโดยรวมของประเทศไทยในปัจจุบัน
ความเชื่อมั่นในด้านต่างๆ คะแนนความเชื่อมั่น
(เต็ม 10 คะแนน)
มิ.ย.58 มิ.ย.59 เปลี่ยนแปลง 1) ด้านสถานะทางเศรษฐกิจของคนในประเทศ 4.95 4.71 -0.24 (รายได้เพียงพอกับรายจ่าย การมีงานทำ การกินดีอยู่ดี) 2) ด้านฐานะการเงินของประเทศ 4.93 4.64 -0.29 (เงินคงคลัง หนี้ของประเทศ ทุนสำรองระหว่างประเทศ) 3) ด้านศักยภาพของคนไทย 5.43 5.12 -0.31 (การศึกษา/สุขภาพ/ความรู้ความสามารถ/ความซื่อสัตย์มีวินัย และพัฒนาได้) 4) ด้านความสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน 6.15 5.8 -0.35 (ด้านการผลิต เป็นแหล่งท่องเที่ยว การค้า และการลงทุน) ความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ (เฉลี่ยรวม) 5.37 5.07 -0.3 5) ด้านความรักและสามัคคีของคนในชาติ 5.12 4.62 -0.5 6) ด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย 5.27 4.5 -0.77 (ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายและความเท่าเทียมกันในการบังคับใช้กฎหมาย) 7) ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 5.72 5.39 -0.33 8) ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 5.1 4.63 -0.47 (โจรกรรม ชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกายภัยจราจร การปนเปื้อนในอาหารและมลพิษ) ความเชื่อมั่นด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม (เฉลี่ยรวม) 5.3 4.78 -0.52 9) ด้านการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น 5.15 4.44 -0.71 10) ด้านการปฏิรูปการเมืองและพัฒนาระบอบประชาธิปไตย 5.36 4.88 -0.48 (คุณภาพนักการเมือง ระบบเลือกตั้ง และการมีส่วนร่วมของประชาชน ) 11) ด้านความสามารถในการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดปัจจุบัน/คสช. 6.16 5.73 -0.43 12) ด้านความน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารที่ได้รับจากหน่วยงานภาครัฐ 5.8 5.44 -0.36 (ถูกต้อง เป็นกลาง และเป็นประโยชน์) ความเชื่อมั่นด้านการเมือง (เฉลี่ยรวม) 5.62 5.12 -0.5 เฉลี่ยรวมทุกด้าน 5.43 4.99 -0.44
รายละเอียดการสำรวจ
เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับความเชื่อมั่นของประเทศไทย ในด้านต่างๆ ในปัจจุบัน หลัง คสช. เข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อยของประเทศครบ 2 ปี เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการ สุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถาม แบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 7 - 9 มิถุนายน 2559 วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 13 มิถุนายน 2559
ข้อมูลของกลุ่มตัวอย่าง
จำนวน ร้อยละ เพศ
ชาย 620 53.2 หญิง 546 46.8 รวม 1,166 100 อายุ 18 ปี - 30 ปี 158 13.6 31 ปี - 40 ปี 247 21.2 41 ปี - 50 ปี 333 28.4 51 ปี - 60 ปี 277 23.8 61 ปี ขึ้นไป 151 13 รวม 1,166 100 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 722 61.9 ปริญญาตรี 354 30.4 สูงกว่าปริญญาตรี 90 7.7 รวม 1,166 100 อาชีพ ลูกจ้างรัฐบาล 189 16.2 ลูกจ้างเอกชน 269 23.1 ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร 440 37.8 เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง 65 5.6 พ่อบ้าน/ แม่บ้าน/ เกษียณอายุ 145 12.4 นักเรียน/ นักศึกษา 39 3.3 ว่างงาน/ รวมกลุ่ม 19 1.6 รวม 1,166 100
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--