คะแนนนิยมพรรคประชาธิปัตย์และพรรคเพื่อไทยลดลง หลังผ่าน 1 เดือนการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญประชาชนอยากให้บิ๊กตู่เป็นนายกฯ คนต่อไปมากที่สุดส่วนใหญ่ 64.2% ยังอยากให้มีการใช้ประชานิยมหาเสียง แต่ชี้ว่าควรใช้อย่างสร้างสรรค์
กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “คะแนนนิยมพรรคการเมืองไทย หลังผ่าน 1 เดือนการลงประชามติร่าง รัฐธรรมนูญ” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,156 คน พบว่า
ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 59.9 เห็นว่าการใช้ประชานิยมหาเสียงของพรรคการเมืองแบบที่ผ่านมาในอดีต ไม่เหมาะสมเพราะมีแค่กลุ่มคนบางกลุ่มได้รับผลประโยชน์จาก ประชานิยมนั้น ขณะที่ร้อยละ 32.4 เห็นว่าเหมาะสม เพราะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ส่วนที่เหลือร้อยละ 7.7 ไม่แน่ใจ
เมื่อถามว่าอยากให้มีการใช้ประชานิยมหาเสียงอยู่อีกหรือไม่ในอนาคต ส่วนใหญ่ร้อยละ 64.2 อยากให้มี แต่การใช้ประชานิยมหาเสียงควรใช้อย่างสร้างสรรค์ โดยใน จำนวนนี้อยากให้ใช้ประชานิยมตอบสนองด้านเศรษฐกิจแก้ปัญหาของแพง ค่าครองชีพมากที่สุด (ร้อยละ 70.8) รองลงมาคือ ด้านการเกษตร สินค้าเกษตร (ร้อยละ 62.1) และด้านการศึกษา (ร้อยละ 59.6) ขณะที่ร้อยละ 31.6 ไม่อยากให้ใช้ประชานิยมหาเสียง มีเพียงร้อยละ 4.2 ไม่แน่ใจ
ส่วนคะแนนนิยมพรรคการเมืองพบว่า คะแนนนิยมพรรคประชาธิปัตย์อยู่ที่ร้อยละ 16.9 (ลดลงจากผลสำรวจเมื่อเดือน พฤษภาคม 2559 ร้อยละ 5.8) รองลงมาคือพรรค เพื่อไทยที่มีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 15.3 (ลดลงร้อยละ 3.8) และพรรคชาติไทยพัฒนามีคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 1.2 (ลดลงร้อยละ 0.9)
สุดท้ายเมื่อถามว่า “หากวันนี้เป็นวันเลือกตั้งจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป” พบว่า อันดับแรกคือ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองลงมาคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (ร้อยละ 3.8) และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ร้อยละ 3.7)
โดยมีรายละเอียดตามประเด็นข้อคำถาม ดังต่อไปนี้
ไม่เหมาะสมเพราะมีแค่กลุ่มคนบางกลุ่มได้รับผลประโยชน์จากประชานิยมนั้น ร้อยละ 59.9 เหมาะสม เพราะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น ร้อยละ 32.4 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 7.7 2. ข้อคำถาม “อยากให้มีการใช้ประชานิยมหาเสียงอยู่หรือไม่ในอนาคต” อยากให้มีการใช้อย่างสร้างสรรค์ ร้อยละ 64.2
โดยอยากให้ตอบสนองความต้องการ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ด้านเศรษฐกิจแก้ปัญหาของแพง ค่าครองชีพ ร้อยละ 70.8 ด้านการเกษตร สินค้าเกษตร ร้อยละ 62.1 ด้านการศึกษา ร้อยละ 59.6
ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ร้อยละ 59.3
ด้านสวัสดิการสังคม สุขอนามัย ร้อยละ 54.3 ด้านระบบขนส่งสาธารณะที่ทันสมัย ร้อยละ 40.8 ไม่อยากให้ใช้ประชานิยมหาเสียง ร้อยละ 31.6 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 4.2 3. ข้อคำถาม “หากวันนี้เป็นวันเลือกตั้งจะเลือกพรรคการเมืองใด” จะเลือกพรรค... สำรวจเมื่อ สำรวจเมื่อ เพิ่มขึ้น / ลดลง พ.ค. 59 ก.ย. 59 (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ) พรรคประชาธิปัตย์ 22.7 16.9 -5.8 พรรคเพื่อไทย 19.1 15.3 -3.8 พรรคชาติไทยพัฒนา 2.1 1.2 -0.9 พรรครักประเทศไทย 1.3 0.9 -0.4 พรรคภูมิใจไทย 0.5 0.9 0.4 พรรคพลังชล 0.8 0.3 -0.5 พรรคอื่นๆ 0.9 1.4 0.5 ไม่แน่ใจ/ยังไม่ตัดสินใจ 52.6 63.1 10.5 3. ข้อคำถาม “หากวันนี้เป็นวันเลือกตั้งจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป” (5 อันดับแรก)(เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 26.6 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร้อยละ 3.8 อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร้อยละ 3.7 ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ร้อยละ 0.3 จาตุรนต์ ฉายแสง ร้อยละ 0.2
รายละเอียดการสำรวจ
1) เพื่อสะท้อนความนิยมของประชาชน ที่มีต่อพรรคการเมืองต่างๆ
2) เพื่อสะท้อนความเห็นเกี่ยวกับการใช้ประชานิยมในการหาเสียง
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการ สุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถาม แบบปลายเปิด (Open Ended Question) และแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 6 – 7 กันยายน 2559 วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 11 กันยายน 2559
ข้อมูลของกลุ่มตัวอย่าง
จำนวน ร้อยละ เพศ
ชาย 607 52.5 หญิง 549 47.5 รวม 1,156 100 อายุ 18 ปี - 30 ปี 178 15.4 31 ปี - 40 ปี 245 21.2 41 ปี - 50 ปี 334 28.9 51 ปี - 60 ปี 267 23.1 61 ปี ขึ้นไป 132 11.4 รวม 1,156 100 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 784 67.8 ปริญญาตรี 306 26.5 สูงกว่าปริญญาตรี 66 5.7 รวม 1,156 100 อาชีพ ลูกจ้างรัฐบาล 152 13.1 ลูกจ้างเอกชน 237 20.5 ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร 523 45.3 เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง 52 4.5 พ่อบ้าน/ แม่บ้าน/ เกษียณอายุ 142 12.3 นักเรียน/ นักศึกษา 30 2.6 ว่างงาน/ รวมกลุ่ม 20 1.7 รวม 1,156 100
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--