พ่อค้าแม่ค้า 58.0% ระบุต้นทุนวัตถุดิบ/อาหารเจสูงกว่าปีที่แล้ว 52.9% จะขายของดีในช่วง 3 วันแรกของเทศกาลกินเจ 69.6% ระบุการมีอาหารเจขายในร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ไม่ส่งผลกระทบกับยอดขายเห็นด้วยที่กรมการค้าภายในจับตาราคาผักแพง เพราะลูกค้าจะได้มีกำลังซื้อ แต่ถ้าขายถูกกลัวขาดทุน
เนื่องด้วยช่วงวันที่ 1-9 ตุลาคมนี้ เป็นช่วงเทศกาลกินเจ กรุงเทพโพลล์ โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จึงสำรวจความคิดเห็นของพ่อค้าแม่ค้า เรื่อง “หัวอกของพ่อค้า แม่ค้าช่วงเทศกาลกินเจ” โดยเก็บข้อมูล เฉพาะพ่อค้า แม่ค้า ที่ขายอาหารเจและวัตถุดิบเพื่อนำไปประกอบอาหารเจ ตามตลาดสดหลายแห่งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีผลสำรวจ ดังนี้
การเตรียมของสำหรับค้าขายในช่วงเทศกาลกินเจในปีนี้ พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ ร้อยละ 60.2 ระบุว่า เตรียมของไว้ขายพอๆกับปีที่แล้ว เพราะ มีลูกค้าประจำ เศรษฐกิจไม่ดี และไม่มั่นใจในกำลังซื้อของลูกค้า รองลงมาร้อยละ 33.2 ระบุว่า เตรียมของไว้น้อยกว่าปีที่แล้ว เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ไม่อยากลงทุนเยอะ และฝนตกบ่อยไม่ค่อยมีคนซื้อ และร้อยละ 6.6 ระบุว่า เตรียมไว้เยอะกว่าปีที่แล้ว เพราะปีที่แล้วไม่พอขาย คนหันมากินเจเยอะขึ้น และช่วงต้นเดือนลูกค้ามีกำลังซื้อ
ทั้งนี้พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ร้อยละ 58.0 ระบุว่าต้นทุนราคาวัตถุดิบ/อาหารเจสูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว รองลงมาร้อยละ 40.0 ระบุว่า ต้นทุนเท่าเดิม มีเพียงร้อยละ 2.0 เท่านั้น ที่ระบุว่าต้นทุนลดลง
สำหรับการขายอาหารเจในปีนี้นั้น พ่อค้าแม่ค้าร้อยละ 34.9 ระบุว่า น่าจะขายได้น้อยกว่าปีที่แล้ว รองลงมาร้อยละ 26.8 ระบุว่า น่าจะขายได้พอๆกับปีที่แล้ว และมีเพียง ร้อยละ 7.9 เท่านั้นที่ระบุว่า น่าจะขายดีกว่า
ส่วนวันที่คาดว่าจะขายดีที่สุดในช่วงเทศกาลกินเจ พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ร้อยละ 52.9 ระบุว่าอยู่ในช่วง 3 วันแรกของเทศกาลกินเจ รองลงมาร้อยละ 24.3 ระบุว่า ขายดี ตลอดช่วงเทศกาล และร้อยละ 17.7 ระบุว่าอยู่ในช่วง 5 วันแรกของเทศกาล โดยพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ ร้อยละ 80.3 ระบุว่าปัจจุบันลูกค้ามักซื้ออาหารเจที่ปรุงสำเร็จจากร้านขาย อาหารเจ รองลงมาร้อยละ 31.7 ระบุว่าลูกค้ามักซื้อวัตถุดิบเพื่อไปทำอาหารเจทานเอง และร้อยละ 28.5 ระบุว่าลูกค้ามักซื้อจากร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เก็ต(เช่น 7-11 บิ๊กซี โลตัส ฯลฯ)
เมื่อถามต่อว่าการที่ร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ หันมาขายวัตถุดิบและอาหารเจ ในช่วงเทศกาลกินเจ จะส่งผลกระทบต่อยอดขายหรือไม่ พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ ร้อยละ 69.6 ระบุว่าไม่ ส่งผลกระทบต่อยอดขาย ขณะที่ร้อยละ 30.4 ระบุว่า ส่งผลกระทบต่อยอดขาย
อย่างไรก็ดีพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ร้อยละ 60.0 ระบุว่าสินค้าที่ร้านมีข้อดีตรง “สด/ใหม่กว่า” ร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เก็ต รองลงมาร้อยละ 20.1 มีข้อดีตรง “ถูกกว่า” และร้อยละ 12.5 มีข้อดีตรง “หลากหลายกว่า”
ด้านความเห็นต่อการที่กระทรวงพาณิชย์สั่งการให้กรมการค้าภายในจับตาราคาผักแพงรับเทศกาลกินเจ พ่อค้าแม่ค้าร้อยละ 37.0 เห็นว่า ราคาอาหารเจจะได้ไม่สูงมาก ลูกค้าจะได้มีกำลังซื้อ รองลงมาร้อยละ 31.4 เห็นว่า รับมาแพงจะให้ขายถูกกลัวขาดทุน และร้อยละ 29.3 เห็นว่าไม่ควรเน้นที่ราคาผักอย่างเดียวแต่ควรดูราคาสินค้าเจประเภทอื่นๆด้วย
โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. การเตรียมการสำหรับค้าขายวัตถุดิบและอาหารเจ ให้ลูกค้าในช่วงเทศกาลกินเจในปีนี้
เตรียมไว้เยอะกว่าปีที่แล้ว ร้อยละ 6.6
เพราะ ปีที่แล้วไม่พอขาย คนหันมากินเจเยอะขึ้น และช่วงต้นเดือนลูกค้ามีกำลังซื้อ เป็นต้น
เตรียมไว้พอๆกับปีที่แล้ว ร้อยละ 60.2
เพราะ มีลูกค้าประจำอยู่แล้ว เศรษฐกิจไม่ดี และไม่มั่นใจในกำลังซื้อของลูกค้า เป็นต้น
เตรียมไว้น้อยกว่าปีที่แล้ว ร้อยละ 33.2
เพราะ เศรษฐกิจไม่ดี ไม่อยากลงทุนเยอะ และฝนตกบ่อยไม่ค่อยมีคนซื้อ เป็นต้น
ต้นทุนสูงขึ้น ร้อยละ 58.0 ต้นทุนเท่าเดิม ร้อยละ 40.0 ต้นทุนลดลง ร้อยละ 2.0 3. คาดการณ์การค้าขายอาหารเจในปีนี้เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว น่าจะขายดีกว่าปีที่แล้ว ร้อยละ 7.9 น่าจะขายได้พอๆกับปีที่แล้ว ร้อยละ 26.8 น่าจะขายได้น้อยกว่าปีที่แล้ว ร้อยละ 34.9 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 30.4 4. วันที่คาดว่าจะขายดีที่สุดในช่วงเทศกาลกินเจ ช่วง 3 วันแรก ร้อยละ 52.9 ขายดีตลอดช่วงเทศกาล ร้อยละ 24.3 ช่วง 5 วันแรก ร้อยละ 17.7 ช่วง 7 วันแรก ร้อยละ 3.2 ช่วง 5 วัน สุดท้าย ร้อยละ 1.2 ช่วง 3 วันสุดท้าย ร้อยละ 0.7 5. ความเห็นต่อพฤติกรรมการซื้ออาหารเจของลูกค้าในปัจจุบัน ซื้อจากร้านอาหารเจ/กับข้าวเจสำเร็จ ร้อยละ 80.3 ซื้อวัตถุดิบเพื่อไปทำกินเอง ร้อยละ 31.7 ซื้อจากร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เก็ต(เช่น 7-11,บิ๊กซี, โลตัส ฯลฯ) ร้อยละ 28.5 สั่งซื้อออนไลน์ ร้อยละ 1.7 6. ความเห็นต่อการที่ร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เก็ต (7-11,บิ๊กซี,โลตัส) หันมาขายวัตถุดิบและอาหารเจ ในช่วงเทศกาลกินเจ จะส่งผลกระทบต่อยอดขายหรือไม่ ไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขาย ร้อยละ 69.6 ส่งผลกระทบต่อยอดขาย ร้อยละ 30.4 7. เมื่อถามว่า “สินค้าของที่ร้านมีข้อดีอะไรเมื่อเทียบกับสินค้าจาก ร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เก็ต (7-11, บิ๊กซี, โลตัส)” สด/ใหม่กว่า ร้อยละ 60.0 ถูกกว่า ร้อยละ 20.1 หลากหลายกว่า ร้อยละ 12.5 อร่อยกว่า ร้อยละ 7.4 8. ความเห็นต่อการที่กระทรวงพาณิชย์สั่งการให้กรมการค้าภายในจับตาราคาผักแพงรับเทศกาลกินเจ ราคาอาหารเจจะได้ไม่สูงมากลูกค้าจะได้มีกำลังซื้อ ร้อยละ 37.0 รับมาแพงจะให้ขายถูกกลัวขาดทุน ร้อยละ 31.4 ไม่ควรเน้นที่ราคาผักอย่างเดียวแต่ควรดูราคาสินค้าเจประเภทอื่นๆด้วย ร้อยละ 29.3 ทำให้ได้กำไรลดลงในช่วงเทศกาลกินเจ ร้อยละ 2.3
รายละเอียดในการสำรวจ
เพื่อสอบถามความคิดเห็นของพ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายอาหารเจและวัตถุดิบเพื่อนำไปประกอบอาหารเจ เกี่ยวกับการเตรียมการสำหรับค้าขายในช่วงเทศกาลกินเจ พฤติกรรม การซื้ออาหารเจของลูกค้า และความเห็นต่อภาครัฐที่เข้ามาจับตาราคาผัก ในช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งผลสำรวจที่ได้จะช่วยสะท้อนมุมมองของประชาชนให้สังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบและนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจดำเนินนโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายอาหารเจและวัตถุดิบเพื่อนำไปประกอบอาหารเจ ตามตลาดสดหลายๆ แห่งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 407 คน
การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 5% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ซึ่งเป็นข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และ คำถามปลายเปิด (Open Ended) จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 28-30 กันยายน 2559 วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 1 ตุลาคม 2559
ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ เพศ
ชาย 104 25.6 หญิง 303 74.4 รวม 407 100 อายุ 18 - 30 ปี 68 16.7 31 - 40 ปี 86 21.1 41 - 50 ปี 95 23.3 51 -60 ปี 111 27.4 61 ปี ขึ้นไป 47 11.5 รวม 407 100 ประเภทร้านค้า ขายผัก 68 16.7 ขายผลไม้ 95 23.3 ของแห้ง/วัตถุดิบทดแทนเนื้อสัตว์ 81 19.9 อาหารปรุงสุก/กับข้าวเจ 56 13.8 ของทานเล่น/ของหวานเจ(อาทิ เผือกทอด เต้าหู้ทอด น้ำเต้าหู้ ฯลฯ) 107 26.3 รวม 407 100
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--