ประชาชนร้อยละ 70.6% อยากได้นายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง 41.5%เห็นว่าการจัดมหรสพรื่นเริงในช่วงเลือกตั้ง สส. อาจเปิดช่องโกง แสวงหากำไรและผลประโยชน์
ประชาชนเชื่อประชาธิปไตยแบบไทยนิยมจะไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆ เลย
ประชาชนยังสนับสนุนบิ๊กตู่เป็นนายกฯ แต่คะแนนนิยมลดลง
กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “เส้นทางการเลือกตั้งสู่ประชาธิปไตยไทยนิยม” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชน จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,114 คน พบว่า
เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งที่ต้องมีสมาชิกพรรคครบ 500 คน มีทุนประเดิมจำนวน 1 ล้านบาท ประชาชนร้อยละ 43.9 เห็นว่าจะสร้างระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ เน้นพรรคมากกว่าตัวคน รองลงมาร้อยละ 29.6 เห็นว่าจะขาดความหลากหลายของนโยบายการหาเสียง และร้อยละ 29.1 เห็นว่าจะนำไปสู่ระบบ ผูกขาดทางการเมือง
นอกจากนี้เมื่อถามต่อว่าคิดอย่างไรกับการเลือกตั้งที่จะมาถึง ในเรื่องการสรรหานายกฯ คนนอก ตามบทเฉพาะกาล รัฐธรรมนูญ ส่วนใหญ่ร้อยละ 70.6 เห็นว่านายกฯ ควรมาจาก การเลือกตั้งเท่านั้น ขณะที่ร้อยละ 29.4 เห็นว่านายกฯ มาจากคนนอกได้หากไม่สามารถเลือกกันเองได้
ด้านความเห็นต่อการจัดมหรสพ รื่นเริง ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง สส. พบว่า ประชาชนร้อยละ 41.5 เห็นว่าอาจเปิดช่องโกง แสวงหากำไรและผลประโยชน์ รองลงมา ร้อยละ 40.5 เห็นว่าพรรคใหญ่ๆ จะได้เปรียบเพราะมีทุนมากกว่า และร้อยละ 37.3 เห็นว่าจะทำให้ประชาชนสนใจการเมือง รับรู้ข่าวสารของผู้สมัครได้ทั่วถึง
ส่วนเมื่อถามว่า “คิดอย่างไรกับแนวคิดประชาธิปไตยไทยนิยม” พบว่า ประชาชนร้อยละ 29.1 เห็นว่าจะไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆ เลย รองลงมาร้อยละ 27.9 เห็นว่าจะทำให้กลายเป็นประชาธิปไตยกึ่งรัฐบาลทหาร และร้อยละ 22.5 เห็นว่าทำให้คนปรองดองไม่ขัดแย้ง ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย
สุดท้ายเมื่อถามว่า “หากวันนี้ มีสิทธิออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี ท่านจะออกเสียงสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่” พบว่า ประชาชนร้อยละ 36.8 ระบุว่าจะ “สนับสนุน” (ลดลงจากผลสำรวจเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ร้อยละ 16.0) ขณะที่ร้อยละ 34.8 ระบุว่าจะ “ไม่สนับสนุน” ส่วนร้อยละ 28.4 งดออกเสียง
โดยมีรายละเอียดตามประเด็นข้อคำถาม ดังต่อไปนี้
สร้างระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ เน้นพรรคมากกว่าตัวคน ร้อยละ 43.9 ขาดความหลากหลายของนโยบายการหาเสียง ร้อยละ 29.6 จะนำไปสู่ระบบผูกขาดทางการเมือง ร้อยละ 29.1 ทำให้มีพรรคใหญ่ให้เลือกได้ชัดเจน ร้อยละ 26.8 มีจำนวนพรรคการเมือง นักการเมืองมีให้เลือกน้อย ร้อยละ 22.3 2. ข้อคำถาม “คิดอย่างไรกับการเลือกตั้งที่จะมาถึง ในเรื่องการสรรหานายกฯ คนนอก ตามบทเฉพาะกาล รธน.” คิดว่านายกฯ ควรมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น ร้อยละ 70.6 คิดว่านายกฯ มาจากคนนอกได้หากไม่สามารถเลือกกันเองได้ ร้อยละ 29.4 3. ความเห็นต่อการจัดมหรสพ รื่นเริง ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง สส. (เลือกตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) อาจเปิดช่องโกง แสวงหากำไรและผลประโยชน์ ร้อยละ 41.5 พรรคใหญ่ๆ จะได้เปรียบเพราะมีทุนมากกว่า ร้อยละ 40.5 จะทำให้ประชาชนสนใจการเมือง รับรู้ข่าวสารของผู้สมัครได้ทั่วถึง ร้อยละ 37.3 เป็นการสร้างการตื่นตัว ทำให้บรรยากาศการเลือกตั้งคึกคัก ร้อยละ 26.3 4. ข้อคำถาม “คิดอย่างไรกับแนวคิดประชาธิปไตยไทยนิยม” เห็นว่าจะไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองใดๆเลย ร้อยละ 29.1 เห็นว่าจะทำให้กลายเป็นประชาธิปไตยกึ่งรัฐบาลทหาร ร้อยละ 27.9 เห็นว่าทำให้คนปรองดองไม่ขัดแย้ง ไม่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย ร้อยละ 22.5 เห็นว่าทำให้ประเทศพัฒนาไปในทิศทางที่ชัดเจน ร้อยละ 20.5 5. ข้อคำถาม “หากวันนี้ ท่านมีสิทธิออกเสียงเลือกนายกรัฐมนตรี ท่านจะออกเสียงสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่” สำรวจเมื่อ พ.ค. 60 สำรวจเมื่อ ม.ค. 61 เพิ่มขึ้น/ลดลง (ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ) สนับสนุน 52.8 36.8 -16.0 ไม่สนับสนุน 25.6 34.8 +9.2 งดออกเสียง 21.6 28.4 +6.8
รายละเอียดการสำรวจ
1) เพื่อสะท้อนความเห็นเกี่ยวกับ พรบ. ประกอบ รธน. ว่าด้วยการเลือกตั้ง
2) เพื่อสะท้อนความเห็นเกี่ยวกับการจัดมหรสพ รื่นเริง ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง สส.
3) เพื่อสะท้อนความเห็นต่อประชาธิปไตยไทยนิยม
4) เพื่อสะท้อนเสียงสนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่าง แบบง่าย (Simple Random Sampling) แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย
การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 17 – 19 มกราคม 2561
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 20 มกราคม 2561
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--