เทศกาลกินเจปีนี้ ผู้ที่กินเจส่วนใหญ่ร้อยละ 80.6 ให้เหตุผลว่ากินเจเพื่อบุญกุศลละเว้นชีวิตสัตว์ โดยร้อยละ 75.5 ระบุว่า จะใช้วิธีหาซื้ออาหารเจ จากร้านที่ปรุงสำเร็จตามตลาด/ร้านอาหารที่ปักธงเจ ทั้งนี้กิจกรรมที่ผู้ที่กินเจส่วนใหญ่ร้อยละ 62.0 จะปฏิบัติในช่วงเทศกาลกิจเจ คือ ทำบุญทำทาน
ส่วนมุมมองเกี่ยวกับเทศกาลกินเจในยุคไทยแลนด์ 4.0 ส่วนใหญ่ระบุว่าหาซื้อได้สะดวกมากขึ้นมีทั้งสั่งonline/ในร้านสะดวกซื้อและเหมาะสมกับ เทรนด์ (trend) การดูแลสุขภาพ
เนื่องด้วยในวันที่ 9-17 ตุลาคมนี้ เป็นช่วงเทศกาลกินเจกรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จึงได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของ ประชาชนเรื่อง “กินเจ...ยุคไทยแลนด์ 4.0” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนอายุ 18 ปี ขึ้นไปทั้งผู้ที่กินเจและไม่กินเจ จำนวน 1,200 คน จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ พบว่า
เหตุผลของผู้ที่ตั้งใจจะกินเจในปีนี้ส่วนใหญ่ร้อยละ 80.6 ระบุว่า กินเจเพื่อบุญกุศลละเว้นชีวิตสัตว์รองลงมาร้อยละ 73.3 ระบุว่า กินเพื่อสุขภาพและ ร้อยละ 66.9 ระบุว่า เป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติมาทุกปีส่วนเหตุผลของผู้ที่ไม่กินเจส่วนใหญ่ร้อยละ 75.9 ระบุว่าปกติไม่กินอยู่แล้ว/ไม่ชอบ/ไม่อร่อย รองลงมาร้อยละ 52.7 ระบุว่า ในครอบครัวไม่มีใครกิน และร้อยละ 37.8 ระบุว่าหาซื้อยาก ไม่สะดวก
ทั้งนี้เมื่อถามเฉพาะผู้ที่ตั้งใจจะกินเจในปีนี้ ว่ามีวิธีจัดหา/ซื้ออาหารเจ อย่างไร ส่วนใหญ่ร้อยละ 75.5 ระบุว่า หาซื้ออาหารที่ปรุงสำเร็จตามตลาด/ ร้านอาหารที่ปักธงเจ รองลงมาร้อยละ 45.6 ระบุว่า ทำอาหารเจกินเองที่บ้าน และร้อยละ 23.2 ระบุว่า จะซื้ออาหารเจแช่แข็งตามร้านสะดวกซื้อ
สำหรับกิจกรรมที่ผู้กินเจส่วนใหญ่จะปฏิบัติ ในช่วงเทศกาลกินเจร้อยละ 62.0 คือ ทำบุญ ทำทาน รองลงมาร้อยละ 40.3 คือ สวดมนต์ รักษาศีล 5 และร้อยละ 28.7 จะไปไหว้เจ้าตามศาลเจ้าต่างๆ
สำหรับมุมมองเกี่ยวกับเทศกาลกินเจในยุคไทยแลนด์ 4.0 ส่วนใหญ่ร้อยละ 64.6 ระบุว่าหาซื้อได้สะดวกมากขึ้นมีทั้งสั่งonline/ในร้านสะดวกซื้อรองลงมา ร้อยละ 52.6 ระบุว่าเหมาะสมกับเทรนด์ (trend) การดูแลสุขภาพ และร้อยละ 42.1 ระบุว่า หลายหน่วยงานมีการจัดกิจกรรม/อีเว้นส่งเสริมการกินเจมากขึ้น
โปรดพิจารณารายละเอียดดังต่อไปนี้
เพื่อบุญกุศลละเว้นชีวิตสัตว์ ร้อยละ 80.6 กินเพื่อสุขภาพ ร้อยละ 73.3 เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาทุกปี ร้อยละ 66.9 กินให้เข้ากับเทศกาล ร้อยละ 45.1 คนในครอบครัวกิน ร้อยละ 30.5 อยากลองกินเจดูบ้าง/กินครั้งแรก ร้อยละ 3.3 กินเพื่อแก้บน ร้อยละ 1.6 อื่นๆ อาทิ ขายอาหารเจทุกปี ร้อยละ 3.3 - เหตุผลของผู้ที่จะไม่กินเจในปีนี้ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) ปกติไม่กินอยู่แล้ว/ไม่ชอบ/ไม่อร่อย ร้อยละ 75.9 ครอบครัวไม่มีใครกินเจ ร้อยละ 52.7 หาซื้อยาก/ไม่สะดวก ร้อยละ 37.8 อาหารเจมีแป้งและน้ำมันเยอะ ร้อยละ 16.3 กลัวไม่มีแรง/หิว/ไม่อยู่ท้อง ร้อยละ 12.8 ราคาสูงกว่าอาหารทั่วไป ร้อยละ 10.3
อื่นๆ อาทิ ต้องให้นมบุตร มีปัญหาสุขภาพอาชีพ ร้อยละ 14.1
และการทำงานไม่เอื้ออำนวย ไม่มีเชื้อจีน
กลัวสารอาหารไม่ครบ ฯลฯ
ซื้ออาหารที่ปรุงสำเร็จตามตลาด/ร้านอาหารที่ปักธงเจ ร้อยละ 75.5 ทำกินเองที่บ้าน ร้อยละ 45.6 ซื้ออาหารเจแช่แข็งตามร้านสะดวกซื้อ ร้อยละ 23.2 ซื้อจากห้างสรรพสินค้า ร้อยละ 16.1 สั่งแบบ online/ delivery ร้อยละ 1.2 อื่นๆ ไปกินที่โรงเจ โรงทาน ร้อยละ 9.3 3. กิจกรรมที่ท่านจะทำ/ปฏิบัติ ในช่วงเทศกาลกินเจ(ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) ทำบุญทำทาน ร้อยละ 62.0 สวดมนต์ รักษาศีล 5 ร้อยละ 40.3 ไปไหว้เจ้า/เจ้าแม่กวนอิมที่ศาลเจ้าต่างๆ ร้อยละ 28.7 ไปร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจ ร้อยละ 12.0 (เช่น เยาวราช ภูเก็ต หาดใหญ่ พัทยา) ไปชม/ไปร่วมพิธีการทรงเจ้าการลุยไฟ ร้อยละ 5.0 กินเจอย่างเดียว ร้อยละ 39.2 4.มุมมองเกี่ยวกับเทศกาลกินเจในยุคไทยแลนด์4.0(ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) หาซื้อสะดวกมากขึ้นมีทั้งสั่งonline /ในร้านสะดวกซื้อ ร้อยละ 64.6 เหมาะสมกับเทรนด์ (trend) การดูแลสุขภาพ ร้อยละ 52.6 หลายหน่วยงานมีการจัดกิจกรรม/อีเว้นส่งเสริมการกินเจมากขึ้น ร้อยละ 42.1 คิดว่าราคาอาหารเจสูงขึ้นจากปีก่อนๆ ร้อยละ 32.7 มีความไม่มั่นใจในส่วนผสมที่ใช้ปรุงอาหารตามร้านต่างๆ ร้อยละ 20.6 กลัวมีเนื้อสัตว์เจือปน ? รายละเอียดการสำรวจ วัตถุประสงค์การสำรวจ
เพื่อทราบเหตุผลของผู้ที่กินเจและไม่กินเจในช่วงเทศกาลกินเจที่จะถึงนี้ วิธีซื้ออาหารเจในปัจจุบัน ตลอดจนมุมมองของการการจัดหา/ซื้ออาหารเจ ในยุคไทยแลนด์ 4.0 และกิจกรรมที่ตั้งใจจะทำในช่วงเทศกาลกินเจ เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบ Simple Random Sampling แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ?3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนนั้นนำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 1-2 ตุลาคม 2561
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 6 ตุลาคม 2561
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--