ประชาชนที่ตัดสินใจแล้ว 21.7% จะเลือกพรรคเพื่อไทย รองลงมา 19.0% จะเลือกพรรคพลังประชารัฐ และ 15.5% จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ 21.6% ยังไม่ตัดสินใจ ส่วนประชาชนที่ตัดสินใจแล้ว 24.8% จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี รองลงมา 17.3% จะสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ และ 13.3% จะสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ ขณะที่ 17.7% ยังไม่ตัดสินใจ ส่วนใหญ่ 96.7% ตั้งใจว่าจะไปเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. 62 63.0% เชื่อมั่นค่อนข้างน้อยถึง น้อยที่สุดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่มีการทุจริต ซื้อสิทธิ์ขายเสียง
เนื่องในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่จะถึงนี้เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จึงสำรวจ ความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “นับถอยหลัง 14 วัน สู่การเลือกตั้ง” โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,735 คน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 96.7 ตั้งใจว่าจะไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 24 มี.ค. 62 ที่จะถึงนี้ ขณะที่ร้อยละ 1.5 ตั้งใจว่าจะไม่ไป ส่วนร้อยละ 1.8 ยังไม่แน่ใจ
เมื่อถามว่าเชื่อมั่นมากน้อยเพียงใดว่าการเลือกตั้งที่จะถึงนี้จะไม่มีการทุจริตการเลือกตั้ง ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ส่วนใหญ่ร้อยละ 63.0 เชื่อมั่นค่อนข้างน้อย ถึงน้อยที่สุด ขณะที่ร้อยละ 37.0 เชื่อมั่นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
ส่วนเมื่อถามว่า “ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ตั้งใจจะเลือกผู้สมัครจากพรรคใดมาบริหารประเทศ”พบว่ากลุ่มตัวอย่างร้อยละ 21.7 จะเลือกพรรคเพื่อไทย (เพิ่มขึ้นจากผลสำรวจครั้งก่อนร้อยละ 8.9) รองลงมาร้อยละ 19.0 จะเลือกพรรคพลังประชารัฐ (เพิ่มขึ้นร้อยละ7.4) ร้อยละ 15.5 จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.9) ร้อยละ 12.0 จะเลือกพรรคอนาคตใหม่ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3) และร้อยละ 3.9 จะเลือกพรรคเสรีรวมไทย (เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.1) ขณะที่ ร้อยละ 21.6 ยังไม่ตัดสินใจ (ลดลงร้อยละ 31.8)
สุดท้ายเมื่อถามว่า “ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ท่านจะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี”พบว่า กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 24.8 จะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.6) รองลงมาร้อยละ 17.3 จะสนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3) ร้อยละ 13.3 จะสนับสนุนนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4) ร้อยละ 11.3 จะสนับสนุนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8) และร้อยละ 6.5 จะสนับสนุนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส (เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9) ขณะที่ร้อยละ 17.7 ยังไม่ตัดสินใจ (ลดลงร้อยละ 28.3)
โปรดพิจารณารายละเอียดดังต่อไปนี้
ตั้งใจว่าจะไป ร้อยละ 96.7 ตั้งใจว่าจะไม่ไป ร้อยละ 1.5 โดยให้เหตุผลว่า เรียน ทำงาน ติดธุระ ร้อยละ 0.6 เบื่อหน่ายการเมือง ร้อยละ 0.3
เลือกไปก็ไม่เห็นทำประโยชน์ให้เลย ร้อยละ 0.1
ไม่มีใครน่าสนใจ ร้อยละ 0.2 อื่นๆ ร้อยละ 0.3 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 1.8 2. ความเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งที่จะถึงนี้จะไม่มีการทุจริตการเลือกตั้ง ซื้อสิทธิ์ขายเสียง ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ร้อยละ 63.0 (โดยแบ่งเป็นค่อนข้างน้อยร้อยละ 41.5 และน้อยที่สุดร้อยละ 21.5) ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ร้อยละ 37.0 (โดยแบ่งเป็นค่อนข้างมากร้อยละ 30.9 และมากที่สุดร้อยละ 6.1) 3. เมื่อถามว่า “ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ท่านตั้งใจจะเลือกผู้สมัครจากพรรคใดมาบริหารประเทศ” พรรค ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 เพิ่มขึ้น/ลดลง
(ร้อยละ)
พรรคเพื่อไทย 9.3 11.7 12.8 21.7 +8.9 พรรคพลังประชารัฐ 7.0 10.2 11.6 19.0 +7.4 พรรคประชาธิปัตย์ 6.3 10.6 7.6 15.5 +7.9 พรรคอนาคตใหม่ 7.5 9.8 5.7 12.0 +6.3 พรรคเสรีรวมไทย 1.7 2.6 1.8 3.9 +2.1 พรรคภูมิใจไทย 0.4 1.5 0.7 1.7 +1.0 พรรคชาติไทยพัฒนา 0.7 0.6 0.9 1.0 +0.1 พรรครวมพลังประชาชาติไทย - 0.4 0.4 0.3 -0.1 พรรคชาติพัฒนา 0.2 0.3 0.1 0.2 +0.1 พรรคการเมืองอื่นๆ 0.7 0.6 0.4 0.9 +0.5 งดออกเสียง (Vote NO) - - 4.6 2.2 -2.4 ยังไม่ตัดสินใจ 66.2 51.7 53.4 21.6 -31.8 4. เมื่อถามว่า “ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ท่านจะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี” ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ครั้งที่ 4 เพิ่มขึ้น/ลดลง
(ร้อยละ)
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 12.0 15.1 17.2 24.8 +7.6 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 8.1 11.0 12.0 17.3 +5.3 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 6.1 8.9 6.9 13.3 +6.4 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 6.6 9.0 5.5 11.3 +5.8 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส 3.3 4.8 4.6 6.5 +1.9 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ 2.3 3.0 2.9 4.6 +1.7 นายอนุทิน ชาญวีรกุล 0.2 0.2 0.2 1.0 +0.8 นางกัญจนา ศิลปอาชา 0.5 0.4 0.5 0.8 +0.3 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ 0.5 0.3 0.2 0.4 +0.2 คน อื่นๆ 1.0 0.1 0.1 0.6 +0.5 งดออกเสียง (Vote NO) - - 4.1 1.7 -2.4 ยังไม่ตัดสินใจ 59.4 47.2 46.0 17.7 -28.3
รายละเอียดการสำรวจ
เพื่อสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ความเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ จะไม่มีการทุจริตการเลือกตั้งซื้อสิทธิ์ขายเสียง ตลอดจนแนวโน้มการเลือกสนับสนุนพรรคการเมืองและนายกรัฐมนตรีจากพรรคต่างๆ เพื่อสะท้อนมุมมอง ความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบ Simple Random Sampling แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ?3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 4-6 มีนาคม 2562
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 9 มีนาคม 2562
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--