กรุงเทพโพลล์: “วัดระดับความเครียดของผู้ปกครอง ช่วงใกล้เปิดเทอม”

ข่าวผลสำรวจ Monday May 13, 2019 08:51 —กรุงเทพโพลล์

พ่อแม่ ผู้ปกครอง ส่วนใหญ่ร้อยละ 50.2 ระบุว่ามีความเครียดเรื่องค่าใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมของบุตรหลานอยู่ในระดับปานกลาง ร้อยละ 52.6 ระบุว่าสภาพทางการเงินในช่วงนี้ มีปัญหาพอๆ กับปีที่แล้ว โดยร้อยละ 50.6 ระบุว่ามีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้น ทำให้การเงินติดขัด ขณะที่ร้อยละ 58.4 ระบุว่าเตรียมเงินสำหรับค่าใช้จ่ายเรื่องการเรียนของบุตรหลานไว้แล้ว

ส่วนเรื่องที่อยากให้ภาครัฐส่งเสริม/ช่วยเหลือด้านการศึกษามากที่สุด คือ อยากให้เพิ่มเงินช่วยเหลือค่าอุปกรณ์การเรียนและชุดนักเรียน และช่วย ค่าเทอมบางส่วนสำหรับโรงเรียนเอกชน

กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “วัดระดับความเครียดของผู้ปกครอง ช่วงใกล้เปิดเทอม” โดยเก็บข้อมูลจากผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเรียนอยู่ในระดับชั้นอนุบาล – มัธยมศึกษา ทั้งสังกัดโรงเรียนรัฐบาลและโรงเรียนเอกชน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล รวมทั้งสิ้น 1,149 คน พบว่า

พ่อแม่ ผู้ปกครอง ส่วนใหญ่ร้อยละ 50.2 ระบุว่าช่วงใกล้เปิดเทอมของบุตรหลานในปีนี้มีความเครียดเรื่องค่าใช้จ่ายอยู่ใน ระดับปานกลาง รองลงมา ร้อยละ 17.8 ระบุว่าเครียดมาก และร้อยละ 15.9 ระบุว่าเครียดน้อย

สำหรับปัญหาหลักที่ผู้ปกครองพบเจอในช่วงใกล้เปิดเทอมปีนี้ร้อยละ 50.6 ระบุว่า มีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้น ทำให้การเงินติดขัด รองลงมาร้อยละ 41.1 ระบุว่าสินค้าเกี่ยวกับการเรียนแพงขึ้นและร้อยละ 38.1 ระบุว่าเงินช่วยเหลือที่ได้จากรัฐไม่สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายจริง

ทั้งนี้ผู้ปกครองส่วนใหญ่ร้อยละ 58.4 ระบุว่าเตรียมเงินค่าใช้จ่ายเรื่องการศึกษาของบุตร/หลานในช่วงเปิดเทอมปีนี้ โดยการแบ่งเงินไว้สำหรับ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้อยู่แล้ว รองลงมาร้อยละ 42.2 ระบุว่าใช้เงินประหยัดกว่าช่วงปกติ เพื่อมีเงินพอกับค่าใช้จ่าย และร้อยละ 17.9 ระบุว่า รอเงินเดือนออก

เมื่อให้เปรียบเทียบกับปีที่แล้วสภาพการเงิน/ปัญหาในช่วงเปิดเทอมเป็นอย่างไรผู้ปกครองส่วนใหญ่ร้อยละ 52.6 ระบุว่าพอๆ กับปีที่แล้ว รองลงมา ร้อยละ 40.1 ระบุว่าแย่กว่าปีที่แล้ว และร้อยละ 7.3 ระบุว่า ดีกว่าปีที่แล้ว

เรื่องที่อยากให้ภาครัฐส่งเสริม/ช่วยเหลือด้านการศึกษามากที่สุด นั้น ร้อยละ 38.9 ระบุว่า อยากให้เพิ่มเงินช่วยเหลือค่าอุปกรณ์การเรียนและ ชุดนักเรียน รองลงมาร้อยละ 15.7 ระบุว่าช่วยให้ค่าเทอมโรงเรียนเอกชนถูกลง/ช่วยอุดหนุนเงินบางส่วน/ ลดค่ากิจกรรมลง และร้อยละ 9.9 ให้คุณครูเอาใจ ใส่ในการสอนมากกว่านี้ เด็กจะได้ไม่ต้องเรียนพิเศษเพิ่ม

โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ความเห็นต่อค่าใช้จ่ายในช่วงใกล้เปิดเทอมของบุตรหลานในปีนี้ทำให้เกิดความเครียดมากน้อยเพียงใด
มากที่สุด                                            ร้อยละ    5.3
มาก                                               ร้อยละ   17.8
ปานกลาง                                           ร้อยละ   50.2
น้อย                                               ร้อยละ   15.9
น้อยที่สุด                                            ร้อยละ   10.8

2. ปัญหาหลักที่ผู้ปกครองพบเจอในช่วงใกล้เปิดเทอมปีนี้ (ตอบได้มากกว่า 1 คำตอบ)
มีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้น ทำให้การเงินติดขัด       ร้อยละ   50.6
สินค้าเกี่ยวกับการเรียนแพงขึ้น                            ร้อยละ   41.1
เงินช่วยเหลือที่ได้จากรัฐไม่สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายจริง           ร้อยละ   38.1
รายได้ / รายรับลดลง /งานลดลง                        ร้อยละ   29.3
โรงเรียนมีค่าเทอม/ค่าบำรุง/ค่ากิจกรรม เพิ่มขึ้น              ร้อยละ   28.5
จ่ายค่าเรียนพิเศษเสริมของลูกเพิ่มขึ้น                       ร้อยละ   26.8
มีจำนวนบุตรเข้าเรียนเพิ่มขึ้น/ชุดนักเรียนเปลี่ยนแบบฟอร์มใหม่     ร้อยละ   24.7

3. ผู้ปกครองเตรียมเงินค่าใช้จ่ายเรื่องการศึกษาของบุตร/หลานในช่วงเปิดเทอมปีนี้จาก........ (ตอบได้มากกว่า 1 คำตอบ)
มีเงินที่แบ่งไว้สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้อยู่แล้ว                   ร้อยละ   58.4
ใช้เงินประหยัดกว่าช่วงปกติ เพื่อมีเงินพอกับค่าใช้จ่าย           ร้อยละ   42.2
รอเงินเดือนล่าสุดออก                                  ร้อยละ   17.9
ขอยืมเงินจากญาติ/ พี่น้อง / เพื่อน ก่อน                    ร้อยละ   11.9
จำนำทรัพย์สิน เช่น ทอง ทีวี ฯลฯ                         ร้อยละ    8.2
กู้เงินนอกระบบ                                       ร้อยละ    6.8
รูดบัตรเครดิต เพราะสามารถผ่อน/จ่ายเดือนถัดไปได้           ร้อยละ    6.7

4.  หากเปรียบเทียบกับปีที่แล้วสภาพการเงิน/ปัญหาในช่วงเปิดเทอมเป็นอย่างไร
แย่กว่าปีที่แล้ว                                        ร้อยละ   40.1
พอๆกับปีที่แล้ว                                        ร้อยละ   52.6
ดีกว่าปีที่แล้ว                                         ร้อยละ    7.3

5. เรื่องที่อยากให้ภาครัฐส่งเสริม/ช่วยเหลือด้านการศึกษามากที่สุด 5 อันดับแรก(เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)
อยากให้เพิ่มเงินช่วยเหลือค่าอุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน ให้สอดคล้องกับความเป็นจริง     ร้อยละ  38.9
เพราะปัจจุบันซื้อได้ชุดเดียว
ช่วยให้ค่าเทอมโรงเรียนเอกชนถูกลง/ช่วยอุดหนุนเงินบางส่วน/ ลดค่ากิจกรรม            ร้อยละ  15.7
ให้คุณครูเอาใจใส่ในการสอนมากกว่านี้ เด็กจะได้ไม่ต้องเรียนพิเศษเพิ่ม                 ร้อยละ   9.9
ให้มอบทุนการศึกษาให้เด็กเรียนดี เด็กยากจน                                    ร้อยละ   9.4
อยากให้มีการเรียนฟรีจริงๆ จนจบปริญญาตรี                                     ร้อยละ   5.8

รายละเอียดในการสำรวจ

วัตถุประสงค์ในการสำรวจ

เพื่อสอบถามความคิดเห็นของผู้ปกครองที่มีบุตร หลาน เรียนอยู่ในระดับชั้นอนุบาล – มัธยมศึกษา เกี่ยวกับ ระดับความเครียดในช่วงใกล้เปิดเทอม ปัญหาหลักที่พอเจอในช่วงใกล้เปิดเทอม การเตรียมเงินเพื่อใช้จ่ายในช่วงใกล้เปิดเทอม และการเปรียบเทียบสภาพการเงินกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน รวมถึง เรื่องที่ต้องการให้รัฐบาลส่งเสริมหรือช่วยเหลือด้านการศึกษาเพิ่มเติม ทั้งนี้เพื่อให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ต่อไป

ระเบียบวิธีการสำรวจ

การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างผู้ปกครองที่มีบุตรเรียนในระดับชั้นอนุบาล – มัธยมศึกษา ที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ด้วยการ สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) โดยสุ่มเขตการปกครองทั้งเขตชั้นนอก ชั้นกลาง และชั้นใน ได้แก่ เขตจอมทอง ดอนเมือง ดินแดง บางกอกน้อย บางกะปิ บางขุนเทียน บางเขน บางคอแหลม บางแค บางนา บางรัก บึงกุ่ม ปทุมวัน ประเวศ พญาไท พระนคร ภาษีเจริญ มีนบุรี ราษฎร์บูรณะ วังทองหลาง และหลักสี่ ส่วนปริมณฑลได้แก่ปทุมธานีและสมุทรปราการ จากนั้นจึงสุ่มถนน และประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์อย่างเป็นระบบ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,149 คน

ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)

ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3 ที่ระดับความเชื่อมั่น 95

วิธีการรวบรวมข้อมูล

ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว (Face-to-face Interview) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วย ข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิด(Open Ended) ผู้ตอบสามารถตอบได้เองโดยอิสระ จากนั้นคณะนักวิจัยได้นำแบบสอบถาม ทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 3 - 8 พฤษภาคม 2562

วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 11 พฤษภาคม 2562

--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ