กรุงเทพโพลล์: “คนกรุงพร้อมใช้? ... รถเมล์ไร้เงินสด”

ข่าวผลสำรวจ Monday October 21, 2019 07:49 —กรุงเทพโพลล์

คนกรุงส่วนใหญ่ร้อยละ 51.7 รับทราบเรื่องที่ ขสมก. เริ่มรับชำระค่าโดยสารแบบ “ไร้เงินสด” เต็มรูปแบบ จากข่าวผ่านสื่อหลักและสื่อโซเชียล โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 89.3 ยังคงชำระค่าโดยสารรถเมล์ ของ ขสมก. ด้วย เงินสด โดยมีเพียงร้อยละ 5.0 ชำระด้วยบัตรโดยสารล่วงหน้า อิเล็กทรอนิกส์

ทั้งนี้ร้อยละ 61.1 เห็นว่าการจ่ายเงินค่าโดยสารรถเมล์แบบไร้เงินสดสะดวกดี ไม่ต้องพกเหรียญ/หาเหรียญไว้จ่ายค่ารถ แต่ยังคงกังวลเรื่องระบบล่ม/ สัญญาณมีปัญหาขณะเก็บเงิน และเห็นควรจะประชาสัมพันธ์ถึงประโยชน์จากการชำระค่าโดยสารแบบ “ไร้เงินสด” เพื่อจูงใจประชาชน และร้อยละ 74.4 ระบุว่า อนาคตกระเป๋ารถเมล์ ยังมีความจำเป็น สำหรับสังคมไทย

กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “คนกรุงพร้อมใช้?... รถเมล์ไร้เงินสด” โดยเก็บข้อมูลกับ ประชาชนที่ใช้บริการรถ ขสมก. ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 1,176 คน พบว่า

จากการเริ่มใช้ รถเมล์ไร้เงินสด เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ประชาชนที่ใช้บริการ รถ ขสมก. ส่วนใหญ่ร้อยละ 51.7 ทราบเรื่องที่ ขสมก. เริ่มรับ ชำระค่าโดยสารแบบ “ไร้เงินสด” เต็มรูปแบบและทุกคัน โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 51.6 ระบุว่าทราบจากข่าวผ่านสื่อหลักและสื่อโซเชียล รองลงมาร้อยละ 31.7 ระบุว่า ทราบจากกระเป๋ารถเมล์และคนขับรถ ขสมก. และ ร้อยละ 23.9 ระบุว่า ทราบจากคลิปประชาสัมพันธ์การชำระค่าโดยสารแบบ “ไร้เงินสด” ของ ขสมก.

ทั้งนี้ในปัจจุบันส่วนใหญ่ร้อยละ 89.3 ระบุว่า ชำระค่าโดยสารรถเมล์ ของ ขสมก. ด้วย เงินสด รองลงมาร้อยละ 6.9 ชำระด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และร้อยละ 5.0 ชำระด้วยบัตรโดยสารล่วงหน้า อิเล็กทรอนิกส์ โดยร้อยละ 1.4 ใช้บัตร E –Ticket ของ ขสมก. แบบ 50 บาท

ส่วนความเห็นที่มีต่อการจ่ายเงินค่าโดยสารรถเมล์แบบไร้เงินสด ส่วนใหญ่ร้อยละ 61.1 ระบุว่าสะดวกดี ไม่ต้องพกเหรียญ/หาเหรียญไว้จ่ายค่ารถ รองลงมา ร้อยละ 39.0 ระบุว่าจะได้ไม่ต้องมีเงินทอน(จ่ายแบงค์ ทอนเป็นเหรียญ) และร้อยละ 37.8 ระบุว่า ทันสมัยเหมาะกับยุคสมัย

สำหรับสิ่งที่ห่วง/กังวล จากการชำระค่าโดยสารรถเมล์แบบ “ไร้เงินสด” เต็มรูปแบบ มากที่สุด นั้น ส่วนใหญ่ร้อยละ 31.1 กังวลเรื่อง ระบบล่ม/สัญญาณ มีปัญหาขณะเก็บเงิน รองลงมาร้อยละ 27.5 กังวลว่าคนยังไม่ค่อยเข้าใจวิธีการใช้งาน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และร้อยละ 12.6 กังวลว่าจะเกิดความวุ่นวายตรงป้ายรถเมล์ ที่มีคนขึ้นเยอะ

เมื่อถามว่า “ขสมก. ควรทำอย่างไรเพื่อเป็นการจูงใจ ให้คนหันมา ชำระค่าโดยสารแบบ ไร้เงินสด” พบว่า ร้อยละ 36.8 ควรจะประชาสัมพันธ์ถึงประโยชน์ จากการชำระค่าโดยสารแบบ “ไร้เงินสด” รองลงมา ร้อยละ 28.6 ควรจัดโปรโมชั่นลดราคาค่าโดยสารเมื่อจ่ายผ่าน E –Ticket รูปแบบต่างๆ และร้อยละ 17.5 ควรจะสามารถใช้บัตรทำธุรกรรมเรื่องอื่นๆได้

สุดท้ายเมื่อถามว่า “อนาคตพนักงานเก็บเงิน/กระเป๋ารถเมล์ ยังคงมีความจำเป็นหรือไม่ สำหรับสังคมไทย” พบว่าส่วนใหญ่ ร้อยละ 74.4 ระบุว่า “จำเป็น” (เพราะคอยให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร ดูแลความปลอดภัยให้ผู้โดยสารขณะขึ้น-ลงรถ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก และคนพิการ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับ เส้นทางเดินรถ ซึ่งเป็นสิ่งที่เทคโนโลยีทำไม่ได้ เป็นต้น) ขณะที่ร้อยละ 25.6 ระบุว่า “ไม่จำเป็น” (เพราะ มีเครื่อง scan แล้ว มีป้ายอัตโนมัติบอกแล้ว มีเทคโนโลยีใหม่ๆ มารองรับแล้ว ควรให้ระบบทำงานแทนคน ต่างประเทศก็ไม่มีแล้วเราควรปรับให้ทันโลก เป็นต้น)

โดยมีรายละเอียดตามประเด็นข้อคำถาม ดังต่อไปนี้

1. การรับทราบเรื่องที่ ขสมก. เริ่มรับชำระค่าโดยสารแบบ “ไร้เงินสด” เต็มรูปแบบและทุกคัน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา

ทราบ                                                   ร้อยละ 51.7
โดยทราบจาก....
          - จากข่าวผ่านสื่อหลักและสื่อโซเชียล                              ร้อยละ 51.6
          - จากกระเป๋ารถเมล์และคนขับรถ ขสมก.                          ร้อยละ 31.7
  • คลิปประชาสัมพันธ์การชำระค่าโดยสารแบบ “ไร้เงินสด” ของ ขสมก. ร้อยละ 23.9
          - การประชาสัมพันธ์ตามป้ายรถเมล์ใหญ่ๆ                           ร้อยละ 13.4
          - ทราบจากเพื่อน ญาติ คนรู้จัก                                  ร้อยละ 11.8
          - จาก facebook และ เว็บไซต์ ของ ขสมก.                      ร้อยละ  7.4
          - อื่นๆ อาทิ ผู้โดยสารคุยกันบนรถเมล์ ฯลฯ                         ร้อยละ  8.5

ไม่ทราบ                                                 ร้อยละ 48.3


2. ปัจจุบันชำระค่าโดยสาร รถเมล์ ของ ขสมก.  ด้วยวิธี.... (ตอบได้มากกว่า 1 คำตอบ)
เงินสด                                                              ร้อยละ 89.3
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ                                                    ร้อยละ  6.9
บัตรโดยสารล่วงหน้า อิเล็กทรอนิกส์                                         ร้อยละ  5.0
บัตร E –Ticket ของ ขสมก. แบบ 50 บาท                                 ร้อยละ  1.4
QR code บนแอพพลิเคชั่นของธนาคาร                                       ร้อยละ  1.0
บัตรเครดิต/บัตรเดบิต                                                   ร้อยละ  0.5
บัตรโดยสาร อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับนักเรียน                                   ร้อยละ  0.5
อื่นๆ อาทิ ตั๋วรายเดือน ตั๋วรายสัปดาห์ ฯลฯ                                   ร้อยละ  2.2

3. ความเห็นต่อการจ่ายเงินค่าโดยสารรถเมล์แบบไร้เงินสด (ตอบได้มากกว่า 1 คำตอบ)
สะดวกดี ไม่ต้องพกเหรียญ/หาเหรียญไว้จ่ายค่ารถ                               ร้อยละ 61.1
จะได้ไม่ต้องมีเงินทอน(จ่ายแบงค์ ทอนเป็นเหรียญ)                              ร้อยละ 39.0
ทันสมัยเหมาะกับยุคสมัย                                                  ร้อยละ 37.8
บัตร E-Ticket ควรปรับใช้ได้กับ บริการรถสาธารณะทุกประเภท                   ร้อยละ 32.6
ยุ่งยาก ต้องซื้อบัตร/ จำยอดเงินและคอยเติมเงิน                               ร้อยละ 30.7
ใช้บริการได้แต่รถ ขสมก. รถร่วมเอกชนใช้ไม่ได้                               ร้อยละ 25.7
อื่นๆ อาทิ เหมาะกับคนที่ใช้บริการรถ ขสมก. เป็นประจำ ฯลฯ                     ร้อยละ  0.9

4. สิ่งที่ห่วง/กังวล จากการ ชำระค่าโดยสารรถเมล์แบบ “ไร้เงินสด” เต็มรูปแบบ มากที่สุด คือ
ระบบล่ม/สัญญาณมีปัญหาขณะเก็บเงิน                                         ร้อยละ 31.1
คนยังไม่ค่อยเข้าใจวิธีการใช้งาน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ                            ร้อยละ 27.5
เกิดความวุ่นวายตรง ป้ายรถเมล์ที่มีคนขึ้นเยอะ                                 ร้อยละ 12.6
เงินในบัตรหมดแต่ไม่รู้ก็จะชำระค่าโดยสารไม่ได้                                ร้อยละ  9.6
ใช้ได้แต่รถของ ขสมก. เท่านั้น รถอื่นใช้ไม่ได้                                 ร้อยละ  5.5
ไม่มีหลักฐานการชำระเงิน จะเกิดปัญหาจ่ายแล้ว หรือยังไม่จ่าย                     ร้อยละ  4.8
ต้องปรับวัฒนธรรมการขึ้น-ลง รถเมล์กันใหม่ (ขึ้นข้างหน้า ลงตรงกลาง)              ร้อยละ  4.7
กระเป๋ารถเมล์อาจเก็บเงินไม่ทัน                                           ร้อยละ  3.2
อื่นๆ อาทิ ไม่มั่นใจว่าเติมเงินแล้วเงินจะเข้าไหม ที่จำหน่ายบัตรน้อย ฯลฯ             ร้อยละ  1.0

5. เมื่อถามว่า “ขสมก. ควรทำอย่างไรเพื่อเป็นการจูงใจ ให้คนหันมา ชำระค่าโดยสารแบบ ไร้เงินสด” พบว่า
ประชาสัมพันธ์ถึงประโยชน์จากการชำระค่าโดยสารแบบ “ไร้เงินสด”                 ร้อยละ 36.8
จัดโปรโมชั่นลดราคาค่าโดยสารเมื่อจ่ายผ่าน E –Ticket รูปแบบต่างๆ               ร้อยละ 28.6
สามารถใช้บัตรทำธุรกรรมเรื่องอื่นๆได้                                       ร้อยละ 17.5
ลดราคา E –Ticket ของ ขสมก. ให้ถูกกว่า 50 บาท                          ร้อยละ 11.7
แจกของแถม/สะสมแต้มในช่วงแรก                                          ร้อยละ  2.7
อื่นๆ อาทิ สามารถใช้กับรถร่วมบริการได้ ขึ้นฟรีครั้งแรก บังคับให้ใช้บัตร              ร้อยละ  2.7
ขสมก. เพียงอย่างเดียว ฯลฯ

6. เมื่อถามว่า “อนาคตพนักงานเก็บเงิน/กระเป๋ารถเมล์ ยังคงมีความจำเป็นหรือไม่ สำหรับสังคมไทย”

จำเป็น                                                              ร้อยละ 74.4
โดยให้เหตุผลว่า
  • ให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร ดูแลความปลอดภัย

ให้ผู้โดยสารขณะขึ้น-ลงรถ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก และคนพิการ

  • เพื่อสอบถามเส้นทาง, ไว้กรณีฉุกเฉิน
  • แจ้งค่าโดยสาร และตรวจสอบการชำระเงินค่าโดยสาร ป้องกันการโกงค่าโดยสาร
  • เครื่อง scan บัตรบางครั้งเกิดปัญหา พนักงานเก็บตั๋วน่าจะดีกว่า
  • คนไทยยังมีระเบียบวินัยน้อยอยู่
  • จะทำให้มีคนตกงานเพิ่มขึ้น
ไม่จำเป็น                                                            ร้อยละ 25.6
โดยให้เหตุผลว่า
  • มีเครื่อง scan แล้ว มีป้ายอัตโนมัติบอกแล้ว มีเทคโนโลยีใหม่ๆ

มารองรับแล้ว ควรให้ระบบทำงานแทนคน

  • ต่างประเทศก็ไม่มีแล้ว เราควรปรับให้ทันโลก
  • สร้างความรำคาญให้ผู้โดยสารเป็นบางครั้ง บางคนพูดจาไม่ดี
  • ลดค่าใช้จ่ายรัฐบาลในการจ้างพนักงาน

รายละเอียดการสำรวจ

วัตถุประสงค์การสำรวจ

เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนที่ใช้บริการรถ ขสมก. ในกรุงเทพฯและปริมณฑล เกี่ยวกับการชำระค่าโดยสาร รถ ขสมก. แบบ “ไร้เงินสด” เต็มรูปแบบ ในประเด็นต่างๆ เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ

ประชากรที่สนใจศึกษา

การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกสาขาอาชีพที่ที่ใช้บริการรถ ขสมก. ในกรุงเทพฯและปริมณฑล โดยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบ หลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ แบ่งพื้นที่การเก็บข้อมูลออกเป็น เขตชั้นใน เขตชั้นกลาง และเขตชั้นนอก ได้แก่ คลองเตย จตุจักร ดอนเมือง ดินแดง บางกะปิ บางขุนเทียน บางเขน บางแค บางซื่อ บางนา บางรัก ปทุมวัน ประเวศ พระนคร ภาษีเจริญ มีนบุรี ราชเทวี สวนหลวง สาทร และ จังหวัดปริมณฑล 3 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ จากนั้นจึงสุ่มถนนและประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์อย่างเป็นระบบ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,176 คน เป็นเพศชายร้อยละ 47.7 และเพศหญิงร้อยละ 52.3

ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)

ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีความคลาดเคลื่อน ?3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

วิธีการรวบรวมข้อมูล

ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว (Face-to-face Interview) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วย ข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุคำตอบเองโดยอิสระ (Open Ended) จากนั้นจึงนำแบบสอบถามทุกชุดมา ตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 11- 16 ตุลาคม 2562

วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 19 ตุลาคม 2562

--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ