กรุงเทพโพลล์: คนไทยการ์ดตกหรือยัง

ข่าวผลสำรวจ Monday October 5, 2020 10:22 —กรุงเทพโพลล์

จากมาตรการควบคุมสถานการณ์ COVID-19 ที่ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศไทยลดน้อยลงหรือเป็นศูนย์ ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 88.1 ระบุว่า ยังมี พฤติกรรมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคด้วยการล้างมือ-กินร้อน-ช้อนใครช้อนมัน เหมือนเดิม ขณะที่ร้อยละ 28.2 ยอมรับว่ามีพฤติกรรมการเว้นระยะห่างทางสังคม ลดลง

ทั้งนี้ร้อยละ 56.0 กังวลว่าการปิดบัง/ไม่ปฏิบัติตามกฎ จากผู้ที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง จะทำให้การด์ตกจนเกิดความเสี่ยงต่อการเกิด COVID-19 รอบ 2 ส่วนร้อยละ 55.5 ระบุว่า ควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ COVID-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามข้อเท็จจริง เพื่อกระตุ้นไม่ให้คนไทยการ์ดตก

กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง?คนไทยการ์ดตกหรือยัง? โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาค ทั่วประเทศจำนวน 1,215 คน พบว่า

จากมาตรการควบคุมสถานการณ์ COVID-19 ที่ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศไทยลดน้อยลงหรือเป็นศูนย์ ประชาชนส่วนใหญ่ระบุว่ารักษาพฤติกรรมป้องกัน การแพร่ระบาดของเชื้อโรคเท่าเดิม โดย 3 อันดับแรกคือ ล้างมือ-กินร้อน-ช้อนใครช้อนมัน ร้อยละ 88.1 รองลงมาคือ เก็บตัวอยู่บ้านเมื่อรู้สึกไม่สบายร้อยละ 82.2 และสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน ร้อยละ 80.9

ทั้งนี้เมื่อพิจารณาแล้วพบว่า พฤติกรรมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่ประชาชนยอมรับว่าปฏิบัติลดลงมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ การเว้นระยะห่างทาง สังคม อย่างน้อย 1-2 เมตร โดยลดลงร้อยละ 28.2 รองลงมาคือ นั่งทานอาหารห่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร ลดลงร้อยละ 23.5 และเช็คอินไทยชนะ/ลงทะเบียน ก่อนเข้าสถานที่ต่างๆ ลดลงร้อยละ 17.7

ส่วนสถานการณ์ที่กังวลว่าจะทำให้การด์ตก จนเกิดความเสี่ยงต่อการเกิด COVID-19 รอบ 2 ในประเทศไทยมากที่สุดคือ การปิดบัง/ไม่ปฏิบัติตามกฎ จาก ผู้ที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงหรือมีอาการต้องสงสัยแต่ไม่แจ้ง ร้อยละ 56.0 รองลงมาคือ พฤติกรรมการป้องกันตนเองของคนในประเทศลดลง ร้อยละ 33.2 และการ เข้าไปอยู่ในที่ชุมนุมชน มีการรวมกลุ่มในพื้นที่จำกัด เช่น ผับ บาร์ เพราะอาจเจอ super spread ร้อยละ 32.3

สำหรับมาตรการกระตุ้นไม่ให้คนไทยการ์ดตกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด COVID-19 รอบ 2 คือ ควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ COVID-19 ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ตามข้อเท็จจริงแก่ประชาชน ร้อยละ 55.5 รองลงมาคือ ควรแสดงให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากเกิด COVID-19 รอบ 2 ร้อยละ 49.8 และควรประชาสัมพันธ์ ตามสื่อต่างๆ เพื่อให้ประชาชนป้องกันตนเองจากเชื้อ COVID-19 อยู่เสมอร้อยละ 44.7

โดยมีรายละเอียดตามประเด็นข้อคำถาม ดังต่อไปนี้

1.จากมาตรการควบคุมสถานการณ์ COVID-19 ที่ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อในประเทศไทย ลดน้อยลงหรือเป็นศูนย์
ท่านรักษาพฤติกรรมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค อย่างไร
ประเด็น                                          เพิ่มขึ้น          เท่าเดิม      ลดลง
                                               (ร้อยละ)         (ร้อยละ)   (ร้อยละ)
ล้างมือ-กินร้อน-ช้อนใครช้อนมัน                          4.5            88.1       7.4
เก็บตัวอยู่บ้านเมื่อรู้สึกไม่สบาย                          11.9            82.2       5.9
สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน                  8.7            80.9      10.4
เช็คอินไทยชนะ/ลงทะเบียน ก่อนเข้าสถานที่ต่างๆ             5.2            77.1      17.7
ล้างมือบ่อยๆ โดยใช้สบู่ หรือ เจลแอลกอฮอล์                8.3            76.7        15
หลีกเลี่ยงการใช้บริการขนส่งสาธารณะ                    12.6            75.2      12.2
นั่งทานอาหารห่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร                  3.6            72.9      23.5
ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยที่ไอ จาม                            25.6            70.1       4.3
หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด และมีมลภาวะเป็นพิษ         16.8            69.8      13.4
การเว้นระยะห่างทางสังคม อย่างน้อย 1-2 เมตร              5            66.8      28.2

2. สถานการณ์ที่กังวลว่าจะทำให้การด์ตก จนเกิดความเสี่ยงต่อการเกิด COVID-19 รอบ 2 ในประเทศไทยมากที่สุด(เลือกตอบได้มากกว่า1 ข้อ)
การปิดบัง/ไม่ปฏิบัติตามกฎ จากผู้ที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงหรือมีอาการต้องสงสัยแต่ไม่แจ้ง           ร้อยละ  56.0
พฤติกรรมการป้องกันตนเองของคนในประเทศลดลง                                        ร้อยละ  33.2
การเข้าไปอยู่ในที่ชุมนุมชน มีการรวมกลุ่มในพื้นที่จำกัด เช่น ผับ บาร์ เพราะอาจเจอ super spread  ร้อยละ  32.3
อื่นๆ อาทิ ประเทศเพื่อนบ้านทะลักเข้ามาในประเทศไทย                                    ร้อยละ   2.5

3. เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด COVID-19 รอบ 2 ควรมีมาตรการอย่างไรกระตุ้นไม่ให้คนไทยการ์ดตก (เลือกตอบได้มากกว่า1 ข้อ)
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ COVID-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามข้อเท็จ จริงแก่ประชาชน                ร้อยละ  55.5
แสดงให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากเกิด COVID-19 รอบ 2                                ร้อยละ  49.8
ประชาสัมพันธ์ ตามสื่อต่างๆ เพื่อให้ประชาชนป้องกันตนเองจากเชื้อCOVID-19 อยู่เสมอ                          ร้อยละ  44.7
ตรวจสอบ สถานที่ต่างๆ เป็นประจำ เช่น ห้าง สถานบันเทิง ร้านอาหาร และลงโทษหากไม่ปฏิบัติตามมาตรการผ่อนปรน   ร้อยละ  44.6
มาตรการที่มีอยู่ในขณะนี้ดีอยู่แล้ว                                                                   ร้อยละ  19.6
อื่นๆ อาทิ ควรมีมาตรการที่ชัดเจน สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศให้ปฏิบัติตามโดยไม่มีข้อยกเว้น               ร้อยละ   2.2
ตรวจตามด่านชายแดนที่อาจมีผู้ติดเชื้อการลักลอบเข้ามา มีระบบคัดกรองตามจุดสำคัญๆ ให้เข้มข้นขึ้น ฯลฯ
?

รายละเอียดการสำรวจ

วัตถุประสงค์การสำรวจ

เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับพฤติกรรมป้องกันตนเองจากเชื้อ COVID-19 หลังจากยอดผู้ติดเชื้อในประเทศไทยลดน้อยลงหรือเป็นศูนย์ ตลอดจนสถานการณ์ที่อาจทำให้การ์ดตกจนเกิดความเสี่ยงต่อการเกิด COVID-19 รอบ 2 และแนวทางป้องกัน ไม่ให้คนไทยการ์ดตก เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของ ประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ

ประชากรที่สนใจศึกษา

การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวง มหาดไทย

ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)

การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3 ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

วิธีการรวบรวมข้อมูล

ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วย ข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 28-30 กันยายน 2563

วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 3 ตุลาคม 2563

ที่มา: ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ