กรุงเทพโพลล์: เซ่นไหว้ แบบไหน ในตรุษจีนปีฉลู

ข่าวผลสำรวจ Wednesday February 10, 2021 08:27 —กรุงเทพโพลล์

ผลสำรวจเรื่อง ?เซ่นไหว้ แบบไหน ในตรุษจีนปีฉลู?

ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 58.2 ระบุว่าในวันไหว้ตรุษจีนปีนี้จะใช้วิธีแยกกันไหว้ไม่รวมญาติเหมือนทุกปี เพื่อปรับให้เหมาะกับสถานการณ์ ส่วนในวันเที่ยวส่วนใหญ่ร้อยละ 86.0 ระบุว่าในปีนี้งดเที่ยว งดสังสรรค์ โดยร้อยละ 41.6 ระบุว่าปีนี้จะงดแจกอั่งเปา

ทั้งนี้กลุ่มประชาชนทั่วไปร้อยละ 95.3 ระบุว่าในวันหยุดยาวช่วงตรุษจีนไม่มีแผนจะไปเที่ยว เนื่องจากติดสถานการณ์ COVID-19 และต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ส่วนผู้ที่มีแผนจะไปเที่ยวนั้นส่วนใหญ่ร้อยละ 64.8 ระบุว่า จะเที่ยวภายในจังหวัดตัวเอง

เนื่องด้วยวันที่ 12 กุมภาพันธ์ นี้เป็นวันตรุษจีนและเป็นวันที่รัฐบาลประกาศให้เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษในปี 2564 กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จึงสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง ?เซ่นไหว้ แบบไหน ในตรุษจีนปีฉลู? โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,212 คน พบว่า

เมื่อถามผู้ที่ไหว้เทพเจ้า ไหว้บรพบุรุษ และทำกิจกรรมต่างๆ ตามประเพณีจีน พบว่าได้มีการปรับรูปแบบการทำกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ดังนี้

- ในวันจ่ายส่วนใหญ่ร้อยละ 63.5 ยังคงซื้อของไหว้ในวันจ่ายตามประเพณีเหมือนทุกปี รองลงมาร้อยละ 29.6 ระบุว่าปรับเป็นซื้อของไหว้เตรียมไว้ล่วงหน้าเพื่อลดความแออัดในวันจ่าย และร้อยละ 5.1 ระบุว่าสั่งซื้อของไหว้ออนไลน์

- ในวันไหว้ส่วนใหญ่ร้อยละ 58.2 ระบุว่าแยกกันไหว้ ไม่รวมญาติเหมือนทุกปี รองลงมาร้อยละ 28.5 ระบุว่ายังไหว้แบบรวมญาติและทานอาหารร่วมกันเหมือนทุกปี และร้อยละ 11.7 ระบุว่าไหว้แบบรวมญาติเหมือนเดิม แต่งดทานอาหารร่วมกัน

- ในวันเที่ยวส่วนใหญ่ร้อยละ 86.0 ระบุว่าปีนี้งดเที่ยว งดสังสรรค์ รองลงมาร้อยละ 9.0 ระบุว่า แยกกันไปไม่รวมญาติท่องเที่ยวเหมือนทุกปี และร้อยละ 5.0 ระบุว่า ยังรวมญาติท่องเที่ยวสังสรรค์เหมือนทุกปี

- ในการแจกอั่งเปา พบว่าร้อยละ 49.4 แจกอั่งเป่าด้วยเงินสดใส่ซองเหมือนทุกปี ขณะที่ร้อยละ 41.6 ระบุว่าปีนี้งดแจกอั่งเปา

เมื่อถามประชาชนทั่วไปว่าการกำหนดให้ "วันตรุษจีน" ในปีนี้เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษทำให้มีการหยุดติดกัน 3 วัน มีแผนจะไปท่องเที่ยวหรือไม่อย่างไร พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 95.3 ระบุว่า ไม่มีแผนจะไปท่องเที่ยวโดยให้เหตุผลว่า ติดช่วง COVID-19 จึงไม่อยากเดินทาง ร้อยละ 40.7 รองลงมาคือ ช่วงนี้ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายร้อยละ 21.3 และ ที่ทำงานไม่ได้หยุด ร้อยละ 19.2

สำหรับการให้"วันตรุษจีน" เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษในปีนี้ ประชาชนร้อยละ 46.0 เห็นว่าจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้ปานกลาง รองลงมาร้อยละ 42.0 เห็นว่าช่วยได้น้อยถึงน้อยที่สุด และร้อยละ 12.0 ระบุว่า ช่วยได้มากถึงมากที่สุด

โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. ท่านได้ปรับรูปแบบการทำกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์อย่างไร

(ถามเฉพาะที่ ไหว้และทำกิจกรรมต่างๆ ตามประเพณีจีน)

- วันจ่าย
ซื้อของไหว้ในวันจ่ายตามประเพณีเหมือนทุกปี          ร้อยละ          63.5
ซื้อของไหว้เตรียมไว้ล่วงหน้าเพื่อลดความแออัด          ร้อยละ          29.6
สั่งซื้อของไหว้ออนไลน์          ร้อยละ          5.1
งดจ่าย/งดไหว้          ร้อยละ          1.8
  • วันไหว้
แยกกันไหว้ ไม่รวมญาติเหมือนทุกปี                    ร้อยละ          58.2
รวมญาติไหว้และทานอาหารร่วมกันเหมือนทุกปี          ร้อยละ          28.5
รวมญาติไหว้เหมือนเดิม แต่งดทานอาหารร่วมกัน              ร้อยละ          11.7
งดไหว้/ไม่ไหว้          ร้อยละ          1.6
  • วันเที่ยว
งดเที่ยว/งดสังสรรค์                    ร้อยละ          86.0
แยกกันไปไม่รวมญาติท่องเที่ยว เหมือนทุกปี                     ร้อยละ          9.0
รวมญาติ ท่องเที่ยว สังสรรค์เหมือนทุกปี          ร้อยละ          5.0

- การแจกอั่งเปา
แจกอั่งเป่าด้วยเงินสดใส่ซองเหมือนทุกปี          ร้อยละ          49.4
งดแจกอั่งเปา                    ร้อยละ          41.6
แจกอั่งเป่า ด้วยการโอนเงินแทนการรับซอง          ร้อยละ          9.0

2. การกำหนดให้"วันตรุษจีน" เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษในปีนี้ทำให้มีการหยุดติดกัน 3 วัน มีแผนจะไปท่องเที่ยวหรือไม่อย่างไร (ประชาชนทั่วไป)

ไม่มีแผนจะไปเที่ยว                    ร้อยละ          95.3
โดยให้เหตุผลว่า.....
-ติดช่วง COVID-19 ไม่อยากเดินทาง          ร้อยละ          40.7
-ช่วงนี้ต้องประหยัดค่าใช้จ่าย          ร้อยละ          21.3
-ที่ทำงานไม่ได้หยุด          ร้อยละ          19.2
-ไม่ชอบเที่ยวช่วงเทศกาล          ร้อยละ          18.4
-อื่นๆ อายุมากแล้ว มีโรคประจำตัว ฯลฯ          ร้อยละ          0.4

มีแผนจะไปเที่ยว                     ร้อยละ          4.7
โดยระบุว่า.....
-เที่ยวภายในจังหวัดตัวเอง
ร้อยละ
64.8
-เที่ยวข้ามจังหวัด/ไปต่างจังหวัด          ร้อยละ          35.2

3. การให้"วันตรุษจีน" เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษในปีนี้ จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ได้เพียงใด (ประชาชนทั่วไป)

มากถึงมากที่สุด          ร้อยละ          12.0
ปานกลาง          ร้อยละ          46.0
น้อยถึงน้อยที่สุด          ร้อยละ          42.0



รายละเอียดในการสำรวจ

วัตถุประสงค์ในการสำรวจ

เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำกิจกรรมในช่วงตรุษจีนภายใต้สถานการณ์ COVID-19 ตลอดจนแผนการท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาว 3 วัน ในช่วงตรุษจีน เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ

ประชากรที่สนใจศึกษา

การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)

การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3 ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

วิธีการรวบรวมข้อมูล

ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอนประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นจึงนำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 3-5 กุมภาพันธ์ 2564

วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ : 10 กุมภาพันธ์ 2564

ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
          จำนวน          ร้อยละ
เพศ
            ชาย          589          48.6
            หญิง          623          51.4
รวม           1,212           100.0
อายุ
            18 ? 30 ปี          79          6.5
            31 ? 40 ปี          185          15.3
            41 ? 50 ปี          319          26.3
            51 ? 60 ปี          338          27.9
            61 ปีขึ้นไป           291          24.0
รวม           1,212           100.0
การศึกษา
            ต่ำกว่าปริญญาตรี          724          59.7
            ปริญญาตรี          373          30.8
            สูงกว่าปริญญาตรี          115          9.5
รวม           1,212           100.0
อาชีพ
          ลูกจ้างรัฐบาล          147          12.1
          ลูกจ้างเอกชน          220          18.2
          ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร          470          38.8
          เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง          78          6.4
          พ่อบ้าน/ แม่บ้าน/เกษียณอายุ          240          19.8
          นักเรียน/ นักศึกษา            16          1.3
          ว่างงาน           41          3.4
รวม           1,212           100.0


ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)  โทร. 02-407-3888 ต่อ 2897,2898
E-mail: bangkokpoll@bu.ac.th      Website: http://bangkokpoll.bu.ac.th
Twitter: http://twitter.com/bangkok_poll


ที่มา: ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ