แรงงานส่วนใหญ่ร้อยละ 81.8 ได้รับผลกระทบต่อการทำงานในช่วงโควิด-19 ในจำนวนนี้ร้อยละ 52.2 มีรายได้ต่อวันลดลง
โดยแรงงานร้อยละ 44.7 มีรายรับพอดีกับค่าใช้จ่ายจึงไม่มีเงินออม ขณะที่ร้อยละ 40.2 ต้องกู้ ต้องหยิบยืม
ทั้งนี้ส่วนใหญ่ร้อยละ 54.3 รอเงินช่วยเหลือ เงินเยียวยา เพื่อมาใช้จัดการกับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
ซึ่งหลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลายแรงงานอยากให้มีการเพิ่มค่าแรงมากที่สุด
แรงงานวางเป้าหมายอยากเป็นพนักงานบริษัทที่มีเงินเดือนมั่นคงมากที่สุด
ผลสำรวจเรื่อง ?หัวอกแรงงานไทยวันนี้?
กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง ?หัวอกแรงงานไทยวันนี้? โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 625 คน พบว่า แรงงานส่วนใหญ่ร้อยละ 81.8 ได้รับผลกระทบต่อการทำงาน ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยในจำนวนนี้ ร้อยละ 52.2 รายได้ต่อวันลดลงจากเดิม รองลงมาร้อยละ 23.3 ต้องทำงานเยอะขึ้น งานหนักขึ้น และร้อยละ 22.0 ไม่มี OT เงินโบนัส ขณะที่ร้อยละ 18.2 ไม่ได้รับผลกระทบ
เมื่อถามว่า ?ในปัจจุบันรายรับจากค่าจ้างแรงงานกับรายจ่ายเป็นอย่างไร? กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 44.7 มีรายรับพอดีกับค่าใช้จ่ายจึงไม่มีเงินเหลือเพื่อเก็บออม ขณะที่ร้อยละ 40.2 มีรายรับไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ต้องกู้ ต้องหยิบยืม ส่วนร้อยละ 15.1 มีรายรับเพียงพอกับค่าใช้จ่ายและมีเงินเก็บออม
ทั้งนี้เมื่อถามว่าจัดการกับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างไร ส่วนใหญ่ร้อยละ 54.3 รอเงินช่วยเหลือ เงินเยียวยา จากภาครัฐ รองลงมาร้อยละ 30.7 กู้หนี้ยืมสิน ร้อยละ 27.8 หารายได้ หาอาชีพเสริม และร้อยละ 20.7 นำเงินเก็บมาใช้
ส่วนเมื่อถามว่าคาดหวังอะไร หลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย พบว่าแรงงานร้อยละ 30.9 คาดหวังว่าค่าแรงขั้นต่ำจะเพิ่มขึ้นถึง 400 บาท รองลงมาร้อยละ 27.5 คาดหวังว่าจะมีสวัสดิการดีขึ้น และร้อยละ 26.3 คาดหวังว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น มีงานให้เลือกมากขึ้น
สุดท้ายเมื่อถามว่าตั้งเป้าหมายหรือวางแผนชีวิตไว้อย่างไร ในอนาคต พบว่าแรงงานร้อยละ 25.8 อยากเป็นพนักงานบริษัทมีเงินเดือนมั่นคง รองลงมาร้อยละ 23.0 อยากเป็นเจ้าของกิจการ และร้อยละ20.5 อยากกลับไปทำงานที่บ้านเกิดอยู่กับครอบครัว
รายละเอียดตามประเด็นข้อคำถามดังต่อไปนี้
1. ผลกระทบต่อการทำงาน ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ได้รับผลกระทบ ร้อยละ 81.8 (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) รายได้ต่อวันลดลงจากเดิม ร้อยละ 52.2 ต้องทำงานเยอะขึ้น งานหนักขึ้น ร้อยละ 23.3 ไม่มี OT เงินโบนัส ร้อยละ 22.0 หางานได้ยากขึ้น ร้อยละ 19.3 ตกงาน ต้องหางานใหม่ ร้อยละ 10.0 ถูกลดสวัสดิการต่างๆที่เคยได้รับลง ร้อยละ 6.5 อื่นๆ อาทิเช่น จ่ายเงินล่าช้า ร้อยละ 0.2 ไม่ได้รับผลกระทบ ร้อยละ 18.2 2. ข้อคำถาม ?ในปัจจุบันรายรับจากค่าจ้างแรงงานกับรายจ่ายเป็นอย่างไร? รายรับเพียงพอกับค่าใช้จ่ายและมีเงินเก็บออม ร้อยละ 15.1 รายรับพอดีกับค่าใช้จ่ายจึงไม่มีเงินเหลือเพื่อเก็บออม ร้อยละ 44.7 รายรับไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ต้องกู้ ต้องหยิบยืม ร้อยละ 40.2 3. ข้อคำถาม ?ท่านจัดการกับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างไร? (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) รอเงินช่วยเหลือ เงินเยียวยา จากภาครัฐ ร้อยละ 54.3 กู้หนี้ยืมสิน ร้อยละ 30.7 หารายได้ หาอาชีพเสริม ร้อยละ 27.8 นำเงินเก็บมาใช้ ร้อยละ 20.7 นำของมีค่ามาขายประทังชีวิต ร้อยละ 8.5 จำนอง จำนำ ร้อยละ 7.0 อื่นๆ ไม่มีการจัดการ ไม่ได้รับผลกระทบ ร้อยละ 4.2 4. ข้อคำถาม ?ท่านคาดหวังอะไร หลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย? ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นถึง 400 บาท ร้อยละ 30.9 มีสวัสดิการดีขึ้น ร้อยละ 27.5 มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น มีงานให้เลือกมากขึ้น ร้อยละ 26.3 มีโบนัส มี OT เพิ่มขึ้น ร้อยละ 13.5 อื่นๆ อาทิเช่น รอรัฐช่วยเหลือ ไม่ได้คาดหวัง ร้อยละ 1.8 5. ข้อคำถาม ?ท่านตั้งเป้าหมายหรือวางแผนชีวิตไว้อย่างไร ในอนาคต? อยากเป็นพนักงานบริษัทมีเงินเดือนมั่นคง ร้อยละ 25.8 อยากเป็นเจ้าของกิจการ ร้อยละ 23.0 อยากกลับไปทำงานที่บ้านเกิดอยู่กับครอบครัว ร้อยละ 20.5 อยากทำสวน ทำการเกษตร อยู่แบบพอเพียง ร้อยละ 9.7 อยากศึกษาต่อ ร้อยละ 3.5 อยากเป็นแรงงานเฉพาะที่มีการอบรมพัฒนาทักษะการทำงาน ร้อยละ 3.5 ไม่มีเป้าหมายหรือวางแผนจะเป็นแรงงานแบบนี้ต่อไป ร้อยละ 14.0 ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) โทร. 02-407-3888 ต่อ 2898 E-mail: bangkokpoll@bu.ac.th Website: http://bangkokpoll.bu.ac.th
Twitter : http://twitter.com/bangkok_poll Facebook : https://facebook.com/bangkokpoll
รายละเอียดการสำรวจ
1) เพื่อต้องสะท้อนผลกระทบต่อการทำงาน ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 2) เพื่อต้องการทราบถึงรายรับจากค่าจ้างแรงงานกับรายจ่ายเป็นอย่างไร ในปัจจุบัน 3) เพื่อต้องการทราบถึงวิธีจัดการกับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างไร 4) เพื่อสะท้อนถึงความคาดหวังหลังสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย 5) เพื่อต้องการทราบถึงตั้งเป้าหมายหรือวางแผนชีวิต ในอนาคต ประชากรที่สนใจศึกษา การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากกลุ่มแรงงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป จำนวน 6 เขต จากทั้งหมด 50 เขต แบ่งเป็นเขตชั้นใน ชั้นกลาง และชั้นนอก ได้แก่ บางขุนเทียน บางเขน ประเวศ ยานาวา ราษฎร์บูรณะ วังทองหลาง และปริมณฑล 2 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี สมุทรปราการ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) จากนั้นใช้วิธีเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์แบบพบตัว ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้นจำนวน 625 คน ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error) การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 4% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% วิธีการรวบรวมข้อมูล ใช้การสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว (face to face interview) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 22 ? 27 เมษายน 2564 วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 1 พฤษภาคม 2564 ข้อมูลของกลุ่มตัวอย่าง จำนวน ร้อยละ เพศ ชาย 306 49.0 หญิง 319 51.0 รวม 625 100.0 อายุ 18 ปี - 30 ปี 244 39.1 31 ปี ? 40 ปี 114 18.3 41 ปี ? 50 ปี 142 22.7 51 ปี - 60 ปี 92 14.7 61 ปี ขึ้นไป 33 5.2 รวม 625 100.0 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 591 94.5 ปริญญาตรี 34 5.5 รวม 625 100.0 อาชีพ โรงงานอุตสาหกรรม 68 10.8 กรรมกรก่อสร้าง 47 7.5 รปภ. / ภารโรง 55 8.8 แม่บ้าน / คนสวน 59 9.5 รับจ้างทั่วไป 181 29.0 ช่างซ่อมตามอู่ / ช่างไฟฟ้า / ช่างซ่อม 21 3.3 พนักงานบริการ / นวดแผนโบราณ 123 19.7 พนักงานขับรถ 17 2.7 พนักงานขาย 54 8.7 รวม 625 100.0
ที่มา: ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์