กรุงเทพโพลล์: คนไทยคิดอย่างไรกับโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจ ในปีงูใหญ่

ข่าวผลสำรวจ Monday January 8, 2024 10:12 —กรุงเทพโพลล์

จากการสำรวจประจำไตรมาส 4/2566 ประชาชนเห็นโอกาสหรือความพร้อมสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคตลดลงจากไตรมาส 3 โดยลดลงจากร้อยละ 53.2 เป็นร้อยละ 49.6

โดยประชาชนร้อยละ 45.3 เห็นว่า ปัญหาข้าวของราคาแพง ค่าครองชีพสูง เป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง

ผลสำรวจเรื่อง ?คนไทยคิดอย่างไรกับโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจ ในปีงูใหญ่?

กรุงเทพโพลล์ร่วมกับคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความเห็นประชาชนเรื่อง ?คนไทยคิดอย่างไรกับโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจ ในปีงูใหญ่?โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,120 คน พบว่า

การสำรวจความเห็นเกี่ยวกับจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ (เจ้าของธุรกิจ) ประจำไตรมาส 4/2566 โดยได้ทำการเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งที่ผ่านมา (ช่วงเดือน ก.ย. 2566) ในประเด็นต่างๆ พบว่า ประชาชนเห็นโอกาสหรือความพร้อมสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคตมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 49.6 (โดยลดลงร้อยละ 3.6) รองลงมาคือ ตนเองมีความรู้ความสามารถรวมถึงทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นในการที่จะเริ่มทำธุรกิจใหม่ คิดเป็นร้อยละ 45.5 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3) และรู้จักผู้ประกอบการหรือมีเครือข่ายที่สามารถสนับสนุนในการริเริ่มธุรกิจคิดเป็นร้อยละ 41.3 (เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9) ขณะที่เห็นว่าไม่อยากลงทุนทำธุรกิจเพราะกลัวความล้มเหลว คิดเป็นร้อยละ 64.6 (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.1)

ทั้งนี้สาเหตุที่ไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองมากที่สุดคือ ปัญหาข้าวของราคาแพง ค่าครองชีพสูง คิดเป็นร้อยละ 45.3 รองลงมาคือ ไม่มีเงินทุนมากพอ คิดเป็นร้อยละ 42.0 กลัวล้มเหลว กลัวขาดทุน คิดเป็นร้อยละ 39.4 น้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ ราคาสูงขึ้นคิดเป็นร้อยละ 36.2 และคิดว่างานที่ทำอยู่มั่นคงแล้ว เลี้ยงตัวเองได้แล้ว คิดเป็นร้อยละ 28.2

โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. ประเด็นคำถามเกี่ยวกับจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ (เจ้าของธุรกิจ)

คำถาม          สำรวจ
(ธ.ค.66)          สำรวจ
(ก.ย.66)          เพิ่มขึ้น/ลดลง
          ร้อยละ           ร้อยละ           ร้อยละ
ท่านมีความตั้งใจที่จะประกอบธุรกิจ ในอนาคตข้างหน้า          41.1          41.9          -0.8
ท่านเห็นโอกาสหรือความพร้อมสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคต          49.6          53.2          -3.6
ตัวท่านมีความรู้ความสามารถรวมถึงทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นในการที่จะเริ่มทำธุรกิจใหม่          45.5          45.2          +0.3
รู้จักผู้ประกอบการหรือมีเครือข่ายที่สามารถสนับสนุนในการริเริ่มธุรกิจ          41.3          38.4          +2.9
คิดว่าการเริ่มต้นธุรกิจใหม่เป็นสิ่งที่ง่ายในสถานการณ์ขณะนี้          12.7          16.7          -4.0
ไม่อยากลงทุนทำธุรกิจเพราะกลัวความล้มเหลว          64.6          63.5          +1.1

2. สาเหตุที่ท่านไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวท่านเอง (เลือกตอบได้มากกว่า1 ข้อ)

ปัญหาเงินเฟ้อในปัจจุบัน  ค่าครองชีพสูง             ร้อยละ          45.3
ไม่มีเงินทุนมากพอ          ร้อยละ          42.0
กลัวล้มเหลว กลัวขาดทุน          ร้อยละ           39.4
น้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ ราคาสูงขึ้น          ร้อยละ          36.2
คิดว่างานที่ทำอยู่มั่นคงแล้ว เลี้ยงตัวเองได้แล้ว               ร้อยละ          28.2
ขาดความรู้ ความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจ          ร้อยละ          27.0
คิดว่าสายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่          ร้อยละ          21.2
ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำธุรกิจอะไรดี                    ร้อยละ          21.2
นโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ / เงินเดือนปริญญาตรี          ร้อยละ          20.7
กลัวทำแล้วเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝัน เช่น โรคระบาด ภัยธรรมชาติ          ร้อยละ          17.5
หากไม่สำเร็จกลัวคนในครอบครัวจะเดือดร้อน แบกภาระหนี้ร่วมกัน          ร้อยละ          16.7
กลัวการเริ่มต้นว่าจะทำไม่ได้          ร้อยละ          7.9
อื่นๆ อาทิ มีปัญหาสุขภาพ การสนับสนุนจากภาครัฐ ไม่มั่นใจในรัฐบาล ฯลฯ          ร้อยละ          8.5


?
รายละเอียดในการสำรวจ

วัตถุประสงค์ในการสำรวจ

เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับจิตวิญญาณความเป็นผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจของคนไทยประจำไตรมาส 4 /2566 ในประเด็นต่างๆ รวมถึงเหตุผลที่ทำให้ไม่กล้าเริ่มธุรกิจเป็นของตนเอง ทั้งนี้เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของประชาชนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ

ประชากรที่สนใจศึกษา

การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนักด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)

การประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน ? 3 ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

วิธีการรวบรวมข้อมูล

ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอนประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นจึงนำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 4 ? 15 ธันวาคม 2566

วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ : 6 มกราคม 2567

กรุงเทพโพลล์ โทร. 02-407-3888 ต่อ 2897,2898

E-mail: bangkokpoll@bu.ac.th Website: http://bangkokpoll.bu.ac.th

Twitter: http://twitter.com/bangkok_poll

ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
          จำนวน          ร้อยละ
เพศ
            ชาย          636          56.8
            หญิง          484          43.2
รวม          1,120          100.0
อายุ
            18 ? 30 ปี          108          9.6
            31 ? 40 ปี          147          13.1
            41 ? 50 ปี          271          24.2
            51 ? 60 ปี          290          25.9
            61 ปีขึ้นไป           304          27.2
รวม          1,120          100.0
การศึกษา
            ต่ำกว่าปริญญาตรี          694          62.0
            ปริญญาตรี          317          28.3
            สูงกว่าปริญญาตรี          109          9.7
รวม          1,120          100.0
อาชีพ
          ลูกจ้างรัฐบาล          127          11.3
          ลูกจ้างเอกชน          211          18.8
          ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร          457          40.9
          เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง          90          8.0
                  ทำงานให้ครอบครัว          4          0.4
          พ่อบ้าน/ แม่บ้าน/เกษียณอายุ          196          17.5
          นักเรียน/นักศึกษา          18          1.6
          ว่างงาน           17          1.5
รวม          1,120          100.0


ที่มา: ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ