ผลการวิจัยโดยสรุป
นักพนันลอตเตอรี่ที่ไปวัดเพื่อหาเลขเด็ดไปแทงลอตเตอรี่มีความแตกต่างจากนักพนันลอตเตอรี่ที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง ดังนี้
มีรายได้มากกว่า แต่มีการศึกษาต่ำกว่า ซื้อลอตเตอรี่ทุกงวดไม่เคยขาดและใช้เงินซื้อลอตเตอรี่มากกว่างวดละ 251 บาท ไปจนถึงงวดละ
กว่า 3,000 บาท นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดจะมีความหวังที่จะถูกลอตเตอรี่มากกว่า และถึงแม้ว่าจะถูกลอตเตอรี่บ่อยกว่าแต่ก็เป็นเพราะใช้เงินซื้อ
ลอตเตอรี่มากกว่าและเล่นพนันลอตเตอรี่บ่อยกว่า นักพนันลอตเตอรี่ที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดมีบุคคลในครอบครัวและเพื่อนทุกคนเล่นพนันลอตเตอรี่ สื่อ
ต่าง ๆ เช่น หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ มีส่วนทำให้นักพนันเหล่านี้เล่นพนันลอตเตอรี่
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดมีอาการของการติดการพนันอย่างรุนแรงมากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง โดยแสดงอาการดังนี้ ครุ่น
คิดถึงวิธีหาเงินเพื่อเอาไปซื้อลอตเตอรี่ ซื้อลอตเตอรี่ด้วยเงินก้อนใหญ่ขึ้นเพื่อให้ตื่นเต้นเท่าเดิม เล่นลอตเตอรี่เพื่อหนีปัญหาชีวิต เล่นลอตเตอรี่เพราะ
ต้องการเอาเงินที่เสียไปคืนให้ได้ ต้องโกหกกับครอบครัวหรือเพื่อนเรื่องการเล่นลอตเตอรี่ เคยขโมยหรือยักยอกเงินเพื่อเอาไปเล่นลอตเตอรี่ มี
ปัญหาในงานในครอบครัวหรือหย่าร้างเพราะการเล่นลอตเตอรี่ และต้องขอยืมเงินจากคนในครอบครัวหรือเพื่อนเพราะหมดตัวจากการเล่นลอตเตอรี่
การวิจัยนี้แนะนำว่า การไม่สนับสนุนให้คนลดการเล่นลอตเตอรี่อาจทำได้โดยการพิมพ์ข้อมูลบนตั๋วลอตเตอรี่ว่าโอกาสถูกลอตเตอรี่มีน้อยมาก
งานวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Gambling Studies ซึ่งเป็นวารสารชั้นนำทางวิชาการเกี่ยวกับการพนัน
ต่อไปเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลประชากรของนักพนัน
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดมีรายได้ต่อเดือนมากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดจำนวน 48 คน
(32.0%) มีรายได้มากกว่าเดือนละ 20,000 บาทในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 23 คน (15.3%) มีรายได้มากกว่าเดือนละ
20,000 บาท นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดมีรายได้มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผงอย่างมีนัยสำคัญ (ดูตารางที่ 1)
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดมีการศึกษาน้อยกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดจำนวน 111 คน (74%) มี
การศึกษาในระดับต่ำกว่าปริญญาตรี ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 67 คน (44.6%) มีการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรี นักพนันที่แสวง
หาเลขเด็ดที่วัดมีการศึกษาน้อยกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผงอย่างมีนัยสำคัญ (ดูตารางที่ 2)
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดซื้อลอตเตอรี่บ่อยกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดจำนวน 55 คน
(36.6%) ซื้อลอตเตอรี่ทุกงวดไม่เคยขาด ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 25 คน (16.6%) ซื้อลอตเตอรี่ทุกงวดไม่เคยขาด นักพนันที่
แสวงหาเลขเด็ดที่วัดซื้อลอตเตอรี่บ่อยกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผงอย่างมีนัยสำคัญ (ดูตารางที่ 3)
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดใช้เงินซื้อลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดจำนวน 85 คน
(56.6%) ใช้ซื้อลอตเตอรี่มากกว่างวดละ 251 บาท ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 46 (30.6%) ใช้เงินซื้อลอตเตอรี่มากกว่างวดละ
251 บาท นอกจากนี้ นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัด 9 คน (6%) ใช้เงินซื้อลอตเตอรี่มากกว่า 2,000 บาทต่องวด ส่วนนักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผง
3 คน (2%) ใช้เงินซื้อลอตเตอรี่มากกว่า 2,000 บาทต่องวด นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดใช้เงินซื้อลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผง
อย่างมีนัยสำคัญ (ดูตารางที่ 4)
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดหวังว่าจะถูกลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดจำนวน 69 คน
(46%) แสดงความหวังมากและมากที่สุดว่าจะถูกลอตเตอรี่ ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 46 คน (30.5%) แสดงความหวังมากและ
มากที่สุดว่าจะถูกลอตเตอรี่ นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดแสดงความหวังว่าจะถูกลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผงอย่างมีนัยสำคัญ (ดูตาราง
ที่ 5)
เมื่อถามถึงประสบการณ์การถูกลอตเตอรี่ นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดตอบว่าตนถูกลอตเตอรี่บ่อยกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นัก
พนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดจำนวน 19 คน (12.6%) ตอบว่าเคยถูกลอตเตอรี่บ่อย ๆ ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 10 คน (6.6%)
ตอบว่าเคยถูกลอตเตอรี่บ่อย ๆ พนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดตอบว่าตนเองถูกลอตเตอรี่บ่อยกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผงอย่างมีนัยสำคัญ (ดูตารางที่
6) แต่ก่อนที่จะสรุปว่า การแสวงหาเลขเด็ดทำให้ถูกลอตเตอรี่บ่อยนั้น ต้องไม่ลืมว่า นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดส่วนใหญ่ใช้เงินซื้อลอตเตอรี่มากกว่าและ
ซื้อลอตเตอรี่บ่อยกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผง
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดตอบว่าทุกคนในบ้านพนันลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัด
จำนวน 38 คน (25.3%) ตอบว่าทุกคนในบ้านพนันลอตเตอรี่ ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 16 คน (10.6%) ตอบว่าทุกคนในบ้านพนัน
ลอตเตอรี่ นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดตอบว่าทุกคนในบ้านพนันลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงอย่างมีนัยสำคัญ (ดูตารางที่ 7)
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดตอบว่าเพื่อน ๆ ทุกคนพนันลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัด
จำนวน 44 คน (29.3%) ตอบว่าเพื่อน ๆ ทุกคนพนันลอตเตอรี่ ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 25 คน (10.6%) ตอบว่าเพื่อน ๆ ทุก
คนพนันลอตเตอรี่ นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดตอบว่าเพื่อน ๆ ทุกคนพนันลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงอย่างมีนัยสำคัญ (ดูตารางที่ 8)
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดตอบว่าสื่อต่าง ๆ มีส่วนทำให้เล่นพนันลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นักพนันที่แสวงหาเลข
เด็ดที่วัดจำนวน 48 คน (29.3%) ตอบว่าเพื่อน ๆ ทุกคนพนันลอตเตอรี่ ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 22 คน (10.6%) ตอบว่าสื่อ
ต่าง ๆ มีส่วนทำให้เล่นพนันลอตเตอรี่ นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดตอบว่าสื่อต่าง ๆ มีส่วนทำให้เล่นพนันลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จาก
แผงอย่างมีนัยสำคัญ (ดูตารางที่ 8)
ที่มาของการวิจัย
นักพนันลอตเตอรี่ส่วนใหญ่เลือกซื้อลอตเตอรี่จากแผงขายลอตเตอรี่ แต่มีนักพนันอยู่กลุ่มหนึ่งที่ออกแสวงหาเลขเด็ดก่อนซื้อลอตเตอรี่ วิธีการ
หาเลขเด็ดก็แตกต่างกันออกไป เช่น อ่านตัวเลขจากน้ำตาเทียนในขันน้ำมนต์ เอาแป้งถูเปลือกไม้เพื่อดูตัวเลข ตีความตัวเลขจากอายุคนตาย บูชา
ต้นไม้ที่ออกลูกไม่ปกติ บูชาลูกสัตว์ที่มีร่างพิการ หรือแม้กระทั่ง หาตัวเลขจากรอยสักยันต์บนร่างของพระที่มรณภาพไปแล้ว
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
เพื่อทราบถึงพฤติกรรมการพนันลอตเตอรี่รัฐบาลของนักพนันสองกลุ่ม คือกลุ่มที่แสวงหาเลขเด็ด และกลุ่มที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงขายโดยไม่
แสวงหาเลขเด็ด ในประเด็นต่อไปนี้
1. แต่ละกลุ่มพนันลอตเตอรี่มากน้อยกว่ากันเพียงไร พนันลอตเตอรี่แต่ละงวดด้วยจำนวนเงินมากน้อยกว่ากันเท่าไร
2. อะไรคือแรงจูงใจให้พนันลอตเตอรี่
3. การพนันลอตเตอรี่ทำให้เกิดผลเสียต่อตัวเองหรือครอบครัวอย่างไรบ้าง
ระเบียบวิธีการวิจัย
การสุ่มตัวอย่าง การวิจัยนี้ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบโควต้า โดยกำหนดตัวอย่าง 20 คนต่อประชากรไทย 1 ล้านคน เมื่อคำนวณจาก
ประชากร 15 ล้านคนในเขตกรุงเทพมหานครและ 12 จังหวัดใกล้เคียง ทำให้ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวนรวม 300 คน กลุ่มตัวอย่างจำนวน 300 คนถูก
แบ่งออกเป็นสองกลุ่มย่อยกลุ่มละ 150 คน โดยเก็บตัวอย่าง 150 ตัวอย่างจากวัดไผ่ล้อม และวัดมหาบุศย์ และ 150 ตัวอย่างจากแผงขายลอตเตอรี่ที่
ถนนราชดำเนิน
การเก็บข้อมูลเริ่มด้วยการเก็บตัวอย่างที่วัดไผ่ล้อมจำนวน 100 ชุด และวัดมหาบุศย์จำนวน 50 ชุด ปรากฏว่า นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ด
เป็นหญิงประมาณสองในสาม คือเป็นหญิง 98 คน (65%) ชาย 52 คน (35%) ดังนั้น เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบข้อมูลของทั้งสองกลุ่ม ผู้วิจัยจึงเก็บ
ตัวอย่างจากกลุ่มนักพนันลอตเตอรี่ที่แผงขายลอตเตอรี่ที่ถนนราชดำเนินจำนวน 150 ชุดในสัดส่วนของหญิงชายเท่ากับกลุ่มที่วัดคือ หญิง 98 ชาย 52
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดมีอายุตั้งแต่ 18 ถึง 69 ปี ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผงมีอายุตั้งแต่ 19 ถึง 66 ปี การกระจายของ
อายุของทั้งสองกลุ่มไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ
ระดับความเชื่อมั่น การวิจัยนี้ใช้ประมาณการระดับความเชื่อมั่นที่ 95%
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แบบสอบถามแบบปลายปิด
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล พฤศจิกายน-ธันวาคม 2548
วันที่เผยแพร่ข้อมูล 19 พฤศจิกายน 2549
ดำเนินวิจัยโดย ดร. วันชัย อริยะพุทธิพงศ์ หัวหน้าโครงการปริญญาโทบริหารธุรกิจ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และ นาย
ณธนัช ฉันท์เฉลิมพร นักศึกษาปริญญาโทบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
โทร. 02-3503500 ต่อ 1613
ตารางที่ 1. รายได้ต่อเดือนของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
รายได้ต่อเดือน นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
0-5,000 31 21 52
5,01-10,000 44 58 102
10,001-20,000 24 48 75
20,001-30,000 24 17 41
30,001-40,000 12 4 16
40,001-50,000 4 0 4
50,001-60,000 6 2 8
มากกว่า 60,000 บาท 2 0 2
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 22.92, df = 7, p = .002
ตารางที่ 2. การศึกษาของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
การศึกษา นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
ประถมศึกษา 42 14 56
มัธยมต้น 31 17 48
มัธยมปลาย/ปวช. 22 19 41
อนุปริญญา 16 17 33
ปริญญาตรี 34 80 114
สูงกว่าปริญญาตรี 5 3 8
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 37.40, df = 5, p < .001
ตารางที่ 3. ความถี่ของการพนันลอตเตอรี่ของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
ความถี่ของการพนัน นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
นาน ๆ จะซื้อสักครั้ง 46 74 120
ซื้อบ่อย แต่ไม่ทุกงวด 49 51 100
ซื้อทุกงวด ไม่เคยขาด 55 25 80
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 17.82, df = 2, p < .001
ตารางที่ 4. จำนวนเงินที่ซื้อลอตเตอรี่ต่องวดของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
จำนวนเงินที่ซื้อลอตเตอรี่ต่องวด นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
1-250 65 104 169
125-500 39 17 56
501-750 11 6 17
751-1,000 14 9 23
1,001-1,500 6 7 13
1,501-2,000 6 4 10
2,001-2,500 1 0 1
2,501-3,000 2 0 2
มากกว่า 3,000 บาท 6 3 9
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 24.68, df = 8, p = .002
ตารางที่ 5. ความหวังที่จะถูกลอตเตอรี่ของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
ความหวังที่จะถูกลอตเตอรี่ นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
ไม่หวังเลย 5 9 14
ไม่หวัง 13 6 19
หวังครึ่งไม่หวังครึ่ง 63 89 152
หวังมาก 30 24 54
หวังมากที่สุด 39 22 54
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 13.57, df = 4, p = .009
ตารางที่ 6. ประสบการณ์การถูกลอตเตอรี่ของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
ประสบการณ์การถูกลอตเตอรี่ นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
ไม่เคยถูกเลย 29 54 83
เคยถูกบ้าง 102 86 188
เคยถูกบ่อย ๆ 19 10 29
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 11.69, df = 2, p =.003
ตารางที่ 7. การพนันลอตเตอรี่ของคนในบ้านของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
การพนันลอตเตอรี่ของคนในบ้าน นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
ไม่มีใครเล่นนอกจากตัวท่านเอง 30 28 58
บางคนในบ้านเล่นลอตเตอรี่ 82 106 188
ทุกคนในบ้านเล่นลอตเตอรี่ 38 16 54
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 12.10, df = 2, p = .002
ตารางที่ 8. การพนันลอตเตอรี่ของเพื่อนของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
การพนันลอตเตอรี่ของเพื่อน นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
ไม่มีใครเล่นนอกจากตัวท่านเอง 22 13 35
เพื่อน ๆ บางคนเล่นลอตเตอรี่ 84 112 196
เพื่อน ๆ ทุกคนเล่นลอตเตอรี่ 44 25 69
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 11.54, df = 2, p = .003
ตารางที่ 9. อิทธิพลของสื่อที่มีต่อการเล่นลอตเตอรี่ของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
สื่อต่าง ๆ มีส่วนทำให้เล่นพนัน นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
ไม่มีส่วนเลย 51 72 123
มีส่วนบ้างเล็กน้อย 51 56 107
มีส่วนพอสมควร 21 17 38
มีส่วนมาก 27 5 32
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 11.54, df = 2, p = .003
เพื่อวัดว่า นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดติดการพนันอย่างรุนแรง (pathological gambling) หรือไม่ ผู้วิจัยได้พัฒนาแบบวัดการติด
การพนันอย่างรุนแรงโดยดัดแปลงจากแบบวัดของสมาคมจิดเวชของอเมริกา (American Psychiatric Association) แบบสอบถามนี้มี 10 ข้อ
ด้วยกันและถามนักพนันลอตเตอรี่ว่า มีเหตุการณ์ตามที่บรรยายในแบบสอบถามเกิดขึ้นในเดือนที่แล้ว ในระหว่างปีที่แล้ว เคยเกิดขึ้นในอดีตหรือไม่ หรือไม่
เคยเกิดขึ้นเลย ถ้านักพนันตอบว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นในเดือนที่แล้วหรือในระหว่างปีที่แล้ว ก็ถือว่านักพนันคนนั้นมีอาการติดการพนันอย่างรุนแรง นักพนัน
ที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดกับนักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงตอบคำถามทั้ง 10 ข้อดังนี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักพนัน ที่วัด ที่แผง
1. ท่านครุ่นคิดถึงวิธีหาเงินเพื่อเอาไปซื้อลอตเตอรี่ 29 (19.3%) > 12 (8.0%)
2. ท่านซื้อลอตเตอรี่ด้วยเงินก้อนใหญ่ขึ้น เพื่อให้ตื่นเต้นเท่าเดิม 30 (20.0%) > 15 (10.0%)
3. ท่านพยายามลดหรือเลิกเล่นลอตเตอรี่ แต่ลดหรือเลิกไม่ได้ 40 (26.6%) = 33 (22.0%)
4. เมื่อพยายามลดหรือเลิกเล่นลอตเตอรี่ ท่านจะรู้สึกหงุดหงิด 27 (18.0%) = 17 (11.3%)
5. ท่านเล่นลอตเตอรี่ เพื่อหนีปัญหาชีวิต 26 (17.3%) > 6 (4.0%)
6. ท่านกลับไปเล่นลอตเตอรี่ เพราะต้องการเอาเงินที่เสียไปคืนให้ได้ 32 (21.3%) > 11 (7.3%)
7. ท่านต้องโกหกกับครอบครัวหรือเพื่อน เรื่องการเล่นลอตเตอรี่ 22 (14.6%) > 11 (7.3%)
8. ท่านเคยขโมยหรือยักยอกเงิน เพื่อเอาไปเล่นลอตเตอรี่ 18 (12.0%) > 2 (1.3%)
9. ท่านมีปัญหาในงานในครอบครัวหรือหย่าร้างเพราะการเล่นลอตเตอรี่ 18 (12.0%) > 2 (1.3%)
10. ท่านต้องขอยืมเงินจากคนในครอบครัวหรือเพื่อน เพราะหมดตัวจากการเล่นลอตเตอรี่ 18 (12.0%) > 5 (3.3%)
ความแตกต่างมีนัยสำคัญทางสถิติเกินค่า p = .05
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--
-พห-
นักพนันลอตเตอรี่ที่ไปวัดเพื่อหาเลขเด็ดไปแทงลอตเตอรี่มีความแตกต่างจากนักพนันลอตเตอรี่ที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง ดังนี้
มีรายได้มากกว่า แต่มีการศึกษาต่ำกว่า ซื้อลอตเตอรี่ทุกงวดไม่เคยขาดและใช้เงินซื้อลอตเตอรี่มากกว่างวดละ 251 บาท ไปจนถึงงวดละ
กว่า 3,000 บาท นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดจะมีความหวังที่จะถูกลอตเตอรี่มากกว่า และถึงแม้ว่าจะถูกลอตเตอรี่บ่อยกว่าแต่ก็เป็นเพราะใช้เงินซื้อ
ลอตเตอรี่มากกว่าและเล่นพนันลอตเตอรี่บ่อยกว่า นักพนันลอตเตอรี่ที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดมีบุคคลในครอบครัวและเพื่อนทุกคนเล่นพนันลอตเตอรี่ สื่อ
ต่าง ๆ เช่น หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ มีส่วนทำให้นักพนันเหล่านี้เล่นพนันลอตเตอรี่
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดมีอาการของการติดการพนันอย่างรุนแรงมากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง โดยแสดงอาการดังนี้ ครุ่น
คิดถึงวิธีหาเงินเพื่อเอาไปซื้อลอตเตอรี่ ซื้อลอตเตอรี่ด้วยเงินก้อนใหญ่ขึ้นเพื่อให้ตื่นเต้นเท่าเดิม เล่นลอตเตอรี่เพื่อหนีปัญหาชีวิต เล่นลอตเตอรี่เพราะ
ต้องการเอาเงินที่เสียไปคืนให้ได้ ต้องโกหกกับครอบครัวหรือเพื่อนเรื่องการเล่นลอตเตอรี่ เคยขโมยหรือยักยอกเงินเพื่อเอาไปเล่นลอตเตอรี่ มี
ปัญหาในงานในครอบครัวหรือหย่าร้างเพราะการเล่นลอตเตอรี่ และต้องขอยืมเงินจากคนในครอบครัวหรือเพื่อนเพราะหมดตัวจากการเล่นลอตเตอรี่
การวิจัยนี้แนะนำว่า การไม่สนับสนุนให้คนลดการเล่นลอตเตอรี่อาจทำได้โดยการพิมพ์ข้อมูลบนตั๋วลอตเตอรี่ว่าโอกาสถูกลอตเตอรี่มีน้อยมาก
งานวิจัยนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Gambling Studies ซึ่งเป็นวารสารชั้นนำทางวิชาการเกี่ยวกับการพนัน
ต่อไปเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลประชากรของนักพนัน
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดมีรายได้ต่อเดือนมากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดจำนวน 48 คน
(32.0%) มีรายได้มากกว่าเดือนละ 20,000 บาทในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 23 คน (15.3%) มีรายได้มากกว่าเดือนละ
20,000 บาท นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดมีรายได้มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผงอย่างมีนัยสำคัญ (ดูตารางที่ 1)
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดมีการศึกษาน้อยกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดจำนวน 111 คน (74%) มี
การศึกษาในระดับต่ำกว่าปริญญาตรี ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 67 คน (44.6%) มีการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรี นักพนันที่แสวง
หาเลขเด็ดที่วัดมีการศึกษาน้อยกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผงอย่างมีนัยสำคัญ (ดูตารางที่ 2)
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดซื้อลอตเตอรี่บ่อยกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดจำนวน 55 คน
(36.6%) ซื้อลอตเตอรี่ทุกงวดไม่เคยขาด ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 25 คน (16.6%) ซื้อลอตเตอรี่ทุกงวดไม่เคยขาด นักพนันที่
แสวงหาเลขเด็ดที่วัดซื้อลอตเตอรี่บ่อยกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผงอย่างมีนัยสำคัญ (ดูตารางที่ 3)
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดใช้เงินซื้อลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดจำนวน 85 คน
(56.6%) ใช้ซื้อลอตเตอรี่มากกว่างวดละ 251 บาท ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 46 (30.6%) ใช้เงินซื้อลอตเตอรี่มากกว่างวดละ
251 บาท นอกจากนี้ นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัด 9 คน (6%) ใช้เงินซื้อลอตเตอรี่มากกว่า 2,000 บาทต่องวด ส่วนนักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผง
3 คน (2%) ใช้เงินซื้อลอตเตอรี่มากกว่า 2,000 บาทต่องวด นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดใช้เงินซื้อลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผง
อย่างมีนัยสำคัญ (ดูตารางที่ 4)
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดหวังว่าจะถูกลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดจำนวน 69 คน
(46%) แสดงความหวังมากและมากที่สุดว่าจะถูกลอตเตอรี่ ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 46 คน (30.5%) แสดงความหวังมากและ
มากที่สุดว่าจะถูกลอตเตอรี่ นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดแสดงความหวังว่าจะถูกลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผงอย่างมีนัยสำคัญ (ดูตาราง
ที่ 5)
เมื่อถามถึงประสบการณ์การถูกลอตเตอรี่ นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดตอบว่าตนถูกลอตเตอรี่บ่อยกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นัก
พนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดจำนวน 19 คน (12.6%) ตอบว่าเคยถูกลอตเตอรี่บ่อย ๆ ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 10 คน (6.6%)
ตอบว่าเคยถูกลอตเตอรี่บ่อย ๆ พนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดตอบว่าตนเองถูกลอตเตอรี่บ่อยกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผงอย่างมีนัยสำคัญ (ดูตารางที่
6) แต่ก่อนที่จะสรุปว่า การแสวงหาเลขเด็ดทำให้ถูกลอตเตอรี่บ่อยนั้น ต้องไม่ลืมว่า นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดส่วนใหญ่ใช้เงินซื้อลอตเตอรี่มากกว่าและ
ซื้อลอตเตอรี่บ่อยกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผง
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดตอบว่าทุกคนในบ้านพนันลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัด
จำนวน 38 คน (25.3%) ตอบว่าทุกคนในบ้านพนันลอตเตอรี่ ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 16 คน (10.6%) ตอบว่าทุกคนในบ้านพนัน
ลอตเตอรี่ นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดตอบว่าทุกคนในบ้านพนันลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงอย่างมีนัยสำคัญ (ดูตารางที่ 7)
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดตอบว่าเพื่อน ๆ ทุกคนพนันลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัด
จำนวน 44 คน (29.3%) ตอบว่าเพื่อน ๆ ทุกคนพนันลอตเตอรี่ ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 25 คน (10.6%) ตอบว่าเพื่อน ๆ ทุก
คนพนันลอตเตอรี่ นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดตอบว่าเพื่อน ๆ ทุกคนพนันลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงอย่างมีนัยสำคัญ (ดูตารางที่ 8)
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดตอบว่าสื่อต่าง ๆ มีส่วนทำให้เล่นพนันลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผง นักพนันที่แสวงหาเลข
เด็ดที่วัดจำนวน 48 คน (29.3%) ตอบว่าเพื่อน ๆ ทุกคนพนันลอตเตอรี่ ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงจำนวน 22 คน (10.6%) ตอบว่าสื่อ
ต่าง ๆ มีส่วนทำให้เล่นพนันลอตเตอรี่ นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดตอบว่าสื่อต่าง ๆ มีส่วนทำให้เล่นพนันลอตเตอรี่มากกว่านักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จาก
แผงอย่างมีนัยสำคัญ (ดูตารางที่ 8)
ที่มาของการวิจัย
นักพนันลอตเตอรี่ส่วนใหญ่เลือกซื้อลอตเตอรี่จากแผงขายลอตเตอรี่ แต่มีนักพนันอยู่กลุ่มหนึ่งที่ออกแสวงหาเลขเด็ดก่อนซื้อลอตเตอรี่ วิธีการ
หาเลขเด็ดก็แตกต่างกันออกไป เช่น อ่านตัวเลขจากน้ำตาเทียนในขันน้ำมนต์ เอาแป้งถูเปลือกไม้เพื่อดูตัวเลข ตีความตัวเลขจากอายุคนตาย บูชา
ต้นไม้ที่ออกลูกไม่ปกติ บูชาลูกสัตว์ที่มีร่างพิการ หรือแม้กระทั่ง หาตัวเลขจากรอยสักยันต์บนร่างของพระที่มรณภาพไปแล้ว
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
เพื่อทราบถึงพฤติกรรมการพนันลอตเตอรี่รัฐบาลของนักพนันสองกลุ่ม คือกลุ่มที่แสวงหาเลขเด็ด และกลุ่มที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงขายโดยไม่
แสวงหาเลขเด็ด ในประเด็นต่อไปนี้
1. แต่ละกลุ่มพนันลอตเตอรี่มากน้อยกว่ากันเพียงไร พนันลอตเตอรี่แต่ละงวดด้วยจำนวนเงินมากน้อยกว่ากันเท่าไร
2. อะไรคือแรงจูงใจให้พนันลอตเตอรี่
3. การพนันลอตเตอรี่ทำให้เกิดผลเสียต่อตัวเองหรือครอบครัวอย่างไรบ้าง
ระเบียบวิธีการวิจัย
การสุ่มตัวอย่าง การวิจัยนี้ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบโควต้า โดยกำหนดตัวอย่าง 20 คนต่อประชากรไทย 1 ล้านคน เมื่อคำนวณจาก
ประชากร 15 ล้านคนในเขตกรุงเทพมหานครและ 12 จังหวัดใกล้เคียง ทำให้ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวนรวม 300 คน กลุ่มตัวอย่างจำนวน 300 คนถูก
แบ่งออกเป็นสองกลุ่มย่อยกลุ่มละ 150 คน โดยเก็บตัวอย่าง 150 ตัวอย่างจากวัดไผ่ล้อม และวัดมหาบุศย์ และ 150 ตัวอย่างจากแผงขายลอตเตอรี่ที่
ถนนราชดำเนิน
การเก็บข้อมูลเริ่มด้วยการเก็บตัวอย่างที่วัดไผ่ล้อมจำนวน 100 ชุด และวัดมหาบุศย์จำนวน 50 ชุด ปรากฏว่า นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ด
เป็นหญิงประมาณสองในสาม คือเป็นหญิง 98 คน (65%) ชาย 52 คน (35%) ดังนั้น เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบข้อมูลของทั้งสองกลุ่ม ผู้วิจัยจึงเก็บ
ตัวอย่างจากกลุ่มนักพนันลอตเตอรี่ที่แผงขายลอตเตอรี่ที่ถนนราชดำเนินจำนวน 150 ชุดในสัดส่วนของหญิงชายเท่ากับกลุ่มที่วัดคือ หญิง 98 ชาย 52
นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดมีอายุตั้งแต่ 18 ถึง 69 ปี ในขณะที่นักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่ที่แผงมีอายุตั้งแต่ 19 ถึง 66 ปี การกระจายของ
อายุของทั้งสองกลุ่มไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ
ระดับความเชื่อมั่น การวิจัยนี้ใช้ประมาณการระดับความเชื่อมั่นที่ 95%
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แบบสอบถามแบบปลายปิด
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล พฤศจิกายน-ธันวาคม 2548
วันที่เผยแพร่ข้อมูล 19 พฤศจิกายน 2549
ดำเนินวิจัยโดย ดร. วันชัย อริยะพุทธิพงศ์ หัวหน้าโครงการปริญญาโทบริหารธุรกิจ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยกรุงเทพ และ นาย
ณธนัช ฉันท์เฉลิมพร นักศึกษาปริญญาโทบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
โทร. 02-3503500 ต่อ 1613
ตารางที่ 1. รายได้ต่อเดือนของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
รายได้ต่อเดือน นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
0-5,000 31 21 52
5,01-10,000 44 58 102
10,001-20,000 24 48 75
20,001-30,000 24 17 41
30,001-40,000 12 4 16
40,001-50,000 4 0 4
50,001-60,000 6 2 8
มากกว่า 60,000 บาท 2 0 2
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 22.92, df = 7, p = .002
ตารางที่ 2. การศึกษาของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
การศึกษา นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
ประถมศึกษา 42 14 56
มัธยมต้น 31 17 48
มัธยมปลาย/ปวช. 22 19 41
อนุปริญญา 16 17 33
ปริญญาตรี 34 80 114
สูงกว่าปริญญาตรี 5 3 8
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 37.40, df = 5, p < .001
ตารางที่ 3. ความถี่ของการพนันลอตเตอรี่ของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
ความถี่ของการพนัน นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
นาน ๆ จะซื้อสักครั้ง 46 74 120
ซื้อบ่อย แต่ไม่ทุกงวด 49 51 100
ซื้อทุกงวด ไม่เคยขาด 55 25 80
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 17.82, df = 2, p < .001
ตารางที่ 4. จำนวนเงินที่ซื้อลอตเตอรี่ต่องวดของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
จำนวนเงินที่ซื้อลอตเตอรี่ต่องวด นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
1-250 65 104 169
125-500 39 17 56
501-750 11 6 17
751-1,000 14 9 23
1,001-1,500 6 7 13
1,501-2,000 6 4 10
2,001-2,500 1 0 1
2,501-3,000 2 0 2
มากกว่า 3,000 บาท 6 3 9
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 24.68, df = 8, p = .002
ตารางที่ 5. ความหวังที่จะถูกลอตเตอรี่ของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
ความหวังที่จะถูกลอตเตอรี่ นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
ไม่หวังเลย 5 9 14
ไม่หวัง 13 6 19
หวังครึ่งไม่หวังครึ่ง 63 89 152
หวังมาก 30 24 54
หวังมากที่สุด 39 22 54
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 13.57, df = 4, p = .009
ตารางที่ 6. ประสบการณ์การถูกลอตเตอรี่ของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
ประสบการณ์การถูกลอตเตอรี่ นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
ไม่เคยถูกเลย 29 54 83
เคยถูกบ้าง 102 86 188
เคยถูกบ่อย ๆ 19 10 29
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 11.69, df = 2, p =.003
ตารางที่ 7. การพนันลอตเตอรี่ของคนในบ้านของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
การพนันลอตเตอรี่ของคนในบ้าน นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
ไม่มีใครเล่นนอกจากตัวท่านเอง 30 28 58
บางคนในบ้านเล่นลอตเตอรี่ 82 106 188
ทุกคนในบ้านเล่นลอตเตอรี่ 38 16 54
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 12.10, df = 2, p = .002
ตารางที่ 8. การพนันลอตเตอรี่ของเพื่อนของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
การพนันลอตเตอรี่ของเพื่อน นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
ไม่มีใครเล่นนอกจากตัวท่านเอง 22 13 35
เพื่อน ๆ บางคนเล่นลอตเตอรี่ 84 112 196
เพื่อน ๆ ทุกคนเล่นลอตเตอรี่ 44 25 69
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 11.54, df = 2, p = .003
ตารางที่ 9. อิทธิพลของสื่อที่มีต่อการเล่นลอตเตอรี่ของนักพนันลอตเตอรี่ที่วัดและที่แผงขาย
สื่อต่าง ๆ มีส่วนทำให้เล่นพนัน นักพนันที่วัด นักพนันที่แผง รวม
ไม่มีส่วนเลย 51 72 123
มีส่วนบ้างเล็กน้อย 51 56 107
มีส่วนพอสมควร 21 17 38
มีส่วนมาก 27 5 32
รวม 150 150 300
ไคสแควร์ = 11.54, df = 2, p = .003
เพื่อวัดว่า นักพนันที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดติดการพนันอย่างรุนแรง (pathological gambling) หรือไม่ ผู้วิจัยได้พัฒนาแบบวัดการติด
การพนันอย่างรุนแรงโดยดัดแปลงจากแบบวัดของสมาคมจิดเวชของอเมริกา (American Psychiatric Association) แบบสอบถามนี้มี 10 ข้อ
ด้วยกันและถามนักพนันลอตเตอรี่ว่า มีเหตุการณ์ตามที่บรรยายในแบบสอบถามเกิดขึ้นในเดือนที่แล้ว ในระหว่างปีที่แล้ว เคยเกิดขึ้นในอดีตหรือไม่ หรือไม่
เคยเกิดขึ้นเลย ถ้านักพนันตอบว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นในเดือนที่แล้วหรือในระหว่างปีที่แล้ว ก็ถือว่านักพนันคนนั้นมีอาการติดการพนันอย่างรุนแรง นักพนัน
ที่แสวงหาเลขเด็ดที่วัดกับนักพนันที่ซื้อลอตเตอรี่จากแผงตอบคำถามทั้ง 10 ข้อดังนี้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักพนัน ที่วัด ที่แผง
1. ท่านครุ่นคิดถึงวิธีหาเงินเพื่อเอาไปซื้อลอตเตอรี่ 29 (19.3%) > 12 (8.0%)
2. ท่านซื้อลอตเตอรี่ด้วยเงินก้อนใหญ่ขึ้น เพื่อให้ตื่นเต้นเท่าเดิม 30 (20.0%) > 15 (10.0%)
3. ท่านพยายามลดหรือเลิกเล่นลอตเตอรี่ แต่ลดหรือเลิกไม่ได้ 40 (26.6%) = 33 (22.0%)
4. เมื่อพยายามลดหรือเลิกเล่นลอตเตอรี่ ท่านจะรู้สึกหงุดหงิด 27 (18.0%) = 17 (11.3%)
5. ท่านเล่นลอตเตอรี่ เพื่อหนีปัญหาชีวิต 26 (17.3%) > 6 (4.0%)
6. ท่านกลับไปเล่นลอตเตอรี่ เพราะต้องการเอาเงินที่เสียไปคืนให้ได้ 32 (21.3%) > 11 (7.3%)
7. ท่านต้องโกหกกับครอบครัวหรือเพื่อน เรื่องการเล่นลอตเตอรี่ 22 (14.6%) > 11 (7.3%)
8. ท่านเคยขโมยหรือยักยอกเงิน เพื่อเอาไปเล่นลอตเตอรี่ 18 (12.0%) > 2 (1.3%)
9. ท่านมีปัญหาในงานในครอบครัวหรือหย่าร้างเพราะการเล่นลอตเตอรี่ 18 (12.0%) > 2 (1.3%)
10. ท่านต้องขอยืมเงินจากคนในครอบครัวหรือเพื่อน เพราะหมดตัวจากการเล่นลอตเตอรี่ 18 (12.0%) > 5 (3.3%)
ความแตกต่างมีนัยสำคัญทางสถิติเกินค่า p = .05
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--
-พห-