กรุงเทพโพลล์ : คนกรุงเทพฯ ไม่เชื่อว่าจะมีการยุบพรรคการเมืองจริง คาดเลือกตั้งครั้งหน้าคะแนนโนโหวตยังคงสูงลิ่ว
ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจเรื่องอนาคตการเมืองไทยภายใต้สถานการณ์เรื่องการยุบ
พรรค โดยพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าจะมีการตัดสินให้ยุบพรรคการเมืองทั้ง 5 พรรคจริง และเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงเกมการเมือง
โดยผู้ที่ระบุว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่ลงคะแนนเลือกใครเลยมีเปอร์เซ็นต์สูงกว่าผู้ที่ระบุว่าจะเลือกพรรคไทยรักไทย และพรรคอื่น ทั้งๆ ที่ส่วน
ใหญ่ยังคงต้องการให้นายกฯ คนต่อไปมาจากการเลือกตั้งก็ตาม
การสำรวจดังกล่าวเก็บข้อมูลจากประชาชนในกรุงเทพมหานคร โดยการสุ่มเขตการปกครองจำนวน 30 เขตจาก 50 เขต เมื่อวันที่
30 มิถุนายน — 3 กรกฎาคม 2549 ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,419 คน เป็นชายร้อยละ 51.7 และหญิงร้อยละ 48.3 จากนั้นจึงเลือกสัมภาษณ์เจาะ
ลึกเฉพาะผู้ที่ระบุว่าติดตามข่าวเรื่องการยุบพรรคการเมือง โดยผลสำรวจพบว่า คนกรุงเทพฯ ร้อยละ 43.2 ไม่แน่ใจว่ากระบวนการพิจารณายุบพรรค
การเมืองโปร่งใสหรือไม่ ขณะที่ร้อยละ 35.5 เชื่อว่าไม่โปร่งใส มีเพียงร้อยละ 21.3 ที่เชื่อว่าโปร่งใส โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าสุดท้ายจะมีคำตัดสิน
ว่าไม่ต้องยุบพรรคการเมือง โดยเชื่อว่าจะไม่ยุบพรรคไทยรักไทยร้อยละ 59.8 และไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ร้อยละ 57.2 นอกจากนี้ ร้อยละ
63.6 ยังเห็นว่าประเด็นเรื่องการยุบพรรคที่เกิดขึ้นเป็นเกมการเมือง มีเพียงร้อยละ 15.3 ที่ไม่เชื่อว่าเป็นเกมการเมือง และร้อยละ 21.1 ไม่แน่
ใจ
สำหรับความเชื่อมั่นว่าการยุบพรรคการเมืองจะสามารถยุติปัญหาวิกฤตทางการเมืองได้หรือไม่นั้น ประชาชนร้อยละ 71.7 ไม่เชื่อว่าการ
ยุบพรรคการเมืองทั้ง 5 พรรคจะยุติปัญหาการเมืองได้ มีเพียงร้อยละ 11.6 ที่เชื่อว่าจะยุติปัญหาได้ และร้อยละ 16.7 ไม่แน่ใจ
ส่วนความเชื่อมั่นต่อการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ ร้อยละ 41.1 ไม่แน่ใจว่าจะมีการเลือกตั้งในวันดังกล่าวได้จริงหรือไม่
ขณะที่ร้อยละ 30.5 เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งในวันดังกล่าว และร้อยละ 28.4 ไม่เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งในวันดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อถามว่าหากไม่มีการยุบพรรคการเมืองทั้ง 5 พรรค ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเลือกพรรคใด พบว่า คะแนนไม่เลือกพรรคใดเลย
หรือโนโหวตสูงที่สุดคือร้อยละ 38.8 ร องลงมาเลือกพรรคไทยรักไทย ร้อยละ 31.8 เลือกพรรคประชาธิปัตย์ร้อยละ 19.5 เลือกพรรค
ชาติไทยร้อยละ 5.3 และเลือกพรรคอื่นร้อยละ 4.6
สำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีคนต่อไปนั้น คนกรุงเทพฯ ร้อยละ 83.7 ยังอยากได้นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง มี
เพียงร้อยละ 13.9 ที่อยากได้นายกรัฐมนตรีจากการแต่งตั้ง และร้อยละ 2.4 ไม่แสดงความเห็น
ส่วนประเด็นเรื่องการกลับมาจัดรายการ “นายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน” ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นั้น ร้อยละ 42.7 เห็นว่าเป็น
การไม่เหมาะสมโดยให้เหตุผลว่าเป็นการพูดเอาประโยชน์ใส่ตัวเพื่อหวังคะแนนนิยม ผิดมารยาททางการเมือง เอาเปรียบพรรคอื่นที่ไม่มีโอกาสได้พูด
และบ้านเมืองกำลังมีปัญหายิ่งนายกฯ ออกมาพูดปัญหาจะยิ่งบานปลาย ขณะที่ร้อยละ 37.2 เห็นว่าเหมาะสมโดยให้เหตุผลว่าเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารกับ
ประชาชน เป็นการทำงานตามหน้าที่ของนายกฯ เป็นสิ่งที่เคยทำอยู่แล้วไม่น่าจะเสียหายอะไร และชอบนายกฯ ทักษิณ ส่วนอีกร้อยละ 20.1 ไม่
แสดงความเห็น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โทรศัพท์ 02-350-3500 ต่อ 1776
รายละเอียดในการสำรวจ
วัตถุประสงค์ในการสำรวจ
เพื่อทราบข้อมูลความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพมหานครเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของไทยหลังมีข่าวเรื่องการยุบพรรคการ
เมือง โดยมีประเด็นคำถามดังต่อไปนี้
1. ความสนใจติดตามข่าวเรื่องการยุบพรรคการเมือง
2. ความเชื่อมั่นในความโปร่งใสของกระบวนการพิจารณายุบพรรคการเมือง
3. การคาดการณ์เกี่ยวกับผลการตัดสินให้ยุบพรรคไทยรักไทยเปรียบเทียบกับผลการตัดสินให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์
4. ความเชื่อมั่นว่าการยุบพรรคการเมืองจะช่วยแก้วิกฤตทางการเมืองของชาติที่ดำเนินอยู่
5. พรรคการเมืองที่ตั้งใจจะเลือกในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหากไม่มีการยุบพรรคการเมือง
6. การได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
7. ความเหมาะสมต่อการที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กลับมาจัดรายการ นายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน
ระเบียบวิธีการสำรวจ
การสำรวจใช้วิธีสุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปในเขตกรุงเทพมหานคร ด้วยการสุ่มเขตการปกครองจำนวน 30 เขตจาก 50
เขต ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้นจำนวน 1,419 คน เป็นเพศชายร้อยละ 51.7 เพศหญิงร้อยละ 48.3 จากนั้นจึงเลือกสัมภาษณ์เจาะลึกเฉพาะผู้ที่ติดตาม
ข่าวเรื่องการยุบพรรคการเมือง จำนวน 1,310 คน
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างใช้ความคลาดเคลื่อน ฑ 5% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล
การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถามสัมภาษณ์ความคิดเห็นของประชากรเป้าหมายที่สุ่มได้
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 30 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2549
วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ : 4 กรกฎาคม 2549
โดย ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1776
http://research.bu.ac.th/poll/poll_list.php
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ
เพศ :
ชาย 734 51.7
หญิง 685 48.3
อายุ
18-25 ปี 416 29.3
26-35 ปี 423 29.8
36-45 ปี 295 20.8
46 ปีขึ้นไป 285 20.0
การศึกษา
ต่ำกว่าปริญญาตรี 616 43.4
ปริญญาตรี 701 49.4
สูงกว่าปริญญาตรี 102 7.2
อาชีพ
ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ 189 13.3
ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว 325 22.9
รับจ้างทั่วไป 142 10.0
พนักงาน/ลูกจ้างบริษัทเอกชน 382 26.9
พ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ 92 6.5
นิสิต นักศึกษา 254 17.9
อื่นๆ 35 2.5
รวม 1,419 100.0
ตารางที่ 2: การติดตามข่าวเรื่องการยุบพรรคการเมือง
จำนวน ร้อยละ
ติดตาม 1,310 92.3
ไม่ได้ติดตาม (จบการสัมภาษณ์) 109 7.7
ตารางที่ 3: ความคิดเห็นต่อความโปร่งใสในกระบวนการพิจารณายุบพรรคการเมือง 5 พรรค
จำนวน ร้อยละ
เชื่อว่าโปร่งใส 279 21.3
เชื่อว่าไม่โปร่งใส 465 35.5
ไม่แน่ใจ 566 43.2
ตารางที่ 4: ความคิดเห็นต่อประเด็นที่ว่าการยุบพรรคการเมือง 5 พรรคเป็นเกมการเมือง
จำนวน ร้อยละ
เชื่อว่าเป็นเกมการเมือง 834 63.6
ไม่เชื่อว่าเป็นเกมการเมือง 200 15.3
ไม่แน่ใจ 276 21.1
ตารางที่ 5: การคาดการณ์ผลการตัดสินให้ยุบพรรคการเมืองเปรียบเทียบระหว่างการให้ยุบพรรคไทยรักไทย
และการให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์
พรรคไทยรักไทย พรรคประชาธิปัตย์
จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ
เชื่อว่ายุบ 208 15.9 204 15.6
เชื่อว่าไม่ยุบ 784 59.8 750 57.2
ไม่แน่ใจ 318 24.3 356 27.2
ตารางที่ 6: ความเชื่อมั่นว่าการยุบพรรคการเมือง 5 พรรคจะสามารถยุติปัญหาวิกฤตทางการเมืองได้
จำนวน ร้อยละ
เชื่อว่าจะยุติปัญหาการเมืองได้ 152 11.6
ไม่เชื่อว่าจะยุติปัญหาการเมืองได้ 939 71.7
ไม่แน่ใจ 219 16.7
ตารางที่ 7: ความเชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคม 2549 ตามกำหนดเดิม
จำนวน ร้อยละ
เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคม 400 30.5
ไม่เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคม 372 28.4
ไม่แน่ใจ 539 41.1
ตารางที่ 8: พรรคการเมืองที่ตั้งใจจะเลือกในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหากไม่มีการยุบพรรคการเมือง 5 พรรค
จำนวน ร้อยละ
เลือกพรรคไทยรักไทย 417 31.8
เลือกพรรคประชาธิปัตย์ 255 19.5
เลือกพรรคชาติไทย 69 5.3
เลือกพรรคอื่น 60 4.6
ไม่เลือกพรรคใดเลย 509 38.8
ตารางที่ 9: อยากได้นายกรัฐมนตรีคนต่อไปมาจากการเลือกตั้งหรือการแต่งตั้ง
จำนวน ร้อยละ
มาจากการเลือกตั้ง 1,097 83.7
มาจากการแต่งตั้ง 182 13.9
ไม่แสดงความเห็น 31 2.4
ตารางที่ 10: ความคิดเห็นต่อการที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กลับมาจัดรายการนายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน
จำนวน ร้อยละ
เหมาะสม 487 37.2
เพราะ (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)
- เป็นการให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชน
- เป็นการทำงานตามหน้าที่
- เป็นสิ่งที่เคยทำอยู่แล้วไม่น่าจะเสียหายอะไร
- ชอบนายกฯ ทักษิณ
- ฯลฯ
ไม่เหมาะสม 560 42.7
เพราะ (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)
- เป็นการพูดเอาประโยชน์ใส่ตัวเพื่อหวังคะแนนนิยม
- ผิดมารยาททางการเมืองเพราะเป็นเพียงนายกฯ รักษาการ
- เอาเปรียบพรรคอื่นที่ไม่มีโอกาสได้พูด
- บ้านเมืองกำลังมีปัญหายิ่งนายกฯ ออกมาพูดปัญหาจะยิ่งบานปลาย
- ฯลฯ
ไม่มีความเห็น 263 20.1
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--
-กภ-
ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจเรื่องอนาคตการเมืองไทยภายใต้สถานการณ์เรื่องการยุบ
พรรค โดยพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าจะมีการตัดสินให้ยุบพรรคการเมืองทั้ง 5 พรรคจริง และเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเพียงเกมการเมือง
โดยผู้ที่ระบุว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่ลงคะแนนเลือกใครเลยมีเปอร์เซ็นต์สูงกว่าผู้ที่ระบุว่าจะเลือกพรรคไทยรักไทย และพรรคอื่น ทั้งๆ ที่ส่วน
ใหญ่ยังคงต้องการให้นายกฯ คนต่อไปมาจากการเลือกตั้งก็ตาม
การสำรวจดังกล่าวเก็บข้อมูลจากประชาชนในกรุงเทพมหานคร โดยการสุ่มเขตการปกครองจำนวน 30 เขตจาก 50 เขต เมื่อวันที่
30 มิถุนายน — 3 กรกฎาคม 2549 ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,419 คน เป็นชายร้อยละ 51.7 และหญิงร้อยละ 48.3 จากนั้นจึงเลือกสัมภาษณ์เจาะ
ลึกเฉพาะผู้ที่ระบุว่าติดตามข่าวเรื่องการยุบพรรคการเมือง โดยผลสำรวจพบว่า คนกรุงเทพฯ ร้อยละ 43.2 ไม่แน่ใจว่ากระบวนการพิจารณายุบพรรค
การเมืองโปร่งใสหรือไม่ ขณะที่ร้อยละ 35.5 เชื่อว่าไม่โปร่งใส มีเพียงร้อยละ 21.3 ที่เชื่อว่าโปร่งใส โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าสุดท้ายจะมีคำตัดสิน
ว่าไม่ต้องยุบพรรคการเมือง โดยเชื่อว่าจะไม่ยุบพรรคไทยรักไทยร้อยละ 59.8 และไม่ยุบพรรคประชาธิปัตย์ร้อยละ 57.2 นอกจากนี้ ร้อยละ
63.6 ยังเห็นว่าประเด็นเรื่องการยุบพรรคที่เกิดขึ้นเป็นเกมการเมือง มีเพียงร้อยละ 15.3 ที่ไม่เชื่อว่าเป็นเกมการเมือง และร้อยละ 21.1 ไม่แน่
ใจ
สำหรับความเชื่อมั่นว่าการยุบพรรคการเมืองจะสามารถยุติปัญหาวิกฤตทางการเมืองได้หรือไม่นั้น ประชาชนร้อยละ 71.7 ไม่เชื่อว่าการ
ยุบพรรคการเมืองทั้ง 5 พรรคจะยุติปัญหาการเมืองได้ มีเพียงร้อยละ 11.6 ที่เชื่อว่าจะยุติปัญหาได้ และร้อยละ 16.7 ไม่แน่ใจ
ส่วนความเชื่อมั่นต่อการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ ร้อยละ 41.1 ไม่แน่ใจว่าจะมีการเลือกตั้งในวันดังกล่าวได้จริงหรือไม่
ขณะที่ร้อยละ 30.5 เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งในวันดังกล่าว และร้อยละ 28.4 ไม่เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งในวันดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อถามว่าหากไม่มีการยุบพรรคการเมืองทั้ง 5 พรรค ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเลือกพรรคใด พบว่า คะแนนไม่เลือกพรรคใดเลย
หรือโนโหวตสูงที่สุดคือร้อยละ 38.8 ร องลงมาเลือกพรรคไทยรักไทย ร้อยละ 31.8 เลือกพรรคประชาธิปัตย์ร้อยละ 19.5 เลือกพรรค
ชาติไทยร้อยละ 5.3 และเลือกพรรคอื่นร้อยละ 4.6
สำหรับความคิดเห็นเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีคนต่อไปนั้น คนกรุงเทพฯ ร้อยละ 83.7 ยังอยากได้นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง มี
เพียงร้อยละ 13.9 ที่อยากได้นายกรัฐมนตรีจากการแต่งตั้ง และร้อยละ 2.4 ไม่แสดงความเห็น
ส่วนประเด็นเรื่องการกลับมาจัดรายการ “นายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน” ของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นั้น ร้อยละ 42.7 เห็นว่าเป็น
การไม่เหมาะสมโดยให้เหตุผลว่าเป็นการพูดเอาประโยชน์ใส่ตัวเพื่อหวังคะแนนนิยม ผิดมารยาททางการเมือง เอาเปรียบพรรคอื่นที่ไม่มีโอกาสได้พูด
และบ้านเมืองกำลังมีปัญหายิ่งนายกฯ ออกมาพูดปัญหาจะยิ่งบานปลาย ขณะที่ร้อยละ 37.2 เห็นว่าเหมาะสมโดยให้เหตุผลว่าเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารกับ
ประชาชน เป็นการทำงานตามหน้าที่ของนายกฯ เป็นสิ่งที่เคยทำอยู่แล้วไม่น่าจะเสียหายอะไร และชอบนายกฯ ทักษิณ ส่วนอีกร้อยละ 20.1 ไม่
แสดงความเห็น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โทรศัพท์ 02-350-3500 ต่อ 1776
รายละเอียดในการสำรวจ
วัตถุประสงค์ในการสำรวจ
เพื่อทราบข้อมูลความคิดเห็นของประชาชนในกรุงเทพมหานครเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของไทยหลังมีข่าวเรื่องการยุบพรรคการ
เมือง โดยมีประเด็นคำถามดังต่อไปนี้
1. ความสนใจติดตามข่าวเรื่องการยุบพรรคการเมือง
2. ความเชื่อมั่นในความโปร่งใสของกระบวนการพิจารณายุบพรรคการเมือง
3. การคาดการณ์เกี่ยวกับผลการตัดสินให้ยุบพรรคไทยรักไทยเปรียบเทียบกับผลการตัดสินให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์
4. ความเชื่อมั่นว่าการยุบพรรคการเมืองจะช่วยแก้วิกฤตทางการเมืองของชาติที่ดำเนินอยู่
5. พรรคการเมืองที่ตั้งใจจะเลือกในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหากไม่มีการยุบพรรคการเมือง
6. การได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
7. ความเหมาะสมต่อการที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กลับมาจัดรายการ นายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน
ระเบียบวิธีการสำรวจ
การสำรวจใช้วิธีสุ่มตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปในเขตกรุงเทพมหานคร ด้วยการสุ่มเขตการปกครองจำนวน 30 เขตจาก 50
เขต ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้นจำนวน 1,419 คน เป็นเพศชายร้อยละ 51.7 เพศหญิงร้อยละ 48.3 จากนั้นจึงเลือกสัมภาษณ์เจาะลึกเฉพาะผู้ที่ติดตาม
ข่าวเรื่องการยุบพรรคการเมือง จำนวน 1,310 คน
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างใช้ความคลาดเคลื่อน ฑ 5% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล
การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถามสัมภาษณ์ความคิดเห็นของประชากรเป้าหมายที่สุ่มได้
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 30 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม 2549
วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ : 4 กรกฎาคม 2549
โดย ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โทร. 0-2350-3500 ต่อ 1776
http://research.bu.ac.th/poll/poll_list.php
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ
เพศ :
ชาย 734 51.7
หญิง 685 48.3
อายุ
18-25 ปี 416 29.3
26-35 ปี 423 29.8
36-45 ปี 295 20.8
46 ปีขึ้นไป 285 20.0
การศึกษา
ต่ำกว่าปริญญาตรี 616 43.4
ปริญญาตรี 701 49.4
สูงกว่าปริญญาตรี 102 7.2
อาชีพ
ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ 189 13.3
ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว 325 22.9
รับจ้างทั่วไป 142 10.0
พนักงาน/ลูกจ้างบริษัทเอกชน 382 26.9
พ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ 92 6.5
นิสิต นักศึกษา 254 17.9
อื่นๆ 35 2.5
รวม 1,419 100.0
ตารางที่ 2: การติดตามข่าวเรื่องการยุบพรรคการเมือง
จำนวน ร้อยละ
ติดตาม 1,310 92.3
ไม่ได้ติดตาม (จบการสัมภาษณ์) 109 7.7
ตารางที่ 3: ความคิดเห็นต่อความโปร่งใสในกระบวนการพิจารณายุบพรรคการเมือง 5 พรรค
จำนวน ร้อยละ
เชื่อว่าโปร่งใส 279 21.3
เชื่อว่าไม่โปร่งใส 465 35.5
ไม่แน่ใจ 566 43.2
ตารางที่ 4: ความคิดเห็นต่อประเด็นที่ว่าการยุบพรรคการเมือง 5 พรรคเป็นเกมการเมือง
จำนวน ร้อยละ
เชื่อว่าเป็นเกมการเมือง 834 63.6
ไม่เชื่อว่าเป็นเกมการเมือง 200 15.3
ไม่แน่ใจ 276 21.1
ตารางที่ 5: การคาดการณ์ผลการตัดสินให้ยุบพรรคการเมืองเปรียบเทียบระหว่างการให้ยุบพรรคไทยรักไทย
และการให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์
พรรคไทยรักไทย พรรคประชาธิปัตย์
จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ
เชื่อว่ายุบ 208 15.9 204 15.6
เชื่อว่าไม่ยุบ 784 59.8 750 57.2
ไม่แน่ใจ 318 24.3 356 27.2
ตารางที่ 6: ความเชื่อมั่นว่าการยุบพรรคการเมือง 5 พรรคจะสามารถยุติปัญหาวิกฤตทางการเมืองได้
จำนวน ร้อยละ
เชื่อว่าจะยุติปัญหาการเมืองได้ 152 11.6
ไม่เชื่อว่าจะยุติปัญหาการเมืองได้ 939 71.7
ไม่แน่ใจ 219 16.7
ตารางที่ 7: ความเชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคม 2549 ตามกำหนดเดิม
จำนวน ร้อยละ
เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคม 400 30.5
ไม่เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 15 ตุลาคม 372 28.4
ไม่แน่ใจ 539 41.1
ตารางที่ 8: พรรคการเมืองที่ตั้งใจจะเลือกในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหากไม่มีการยุบพรรคการเมือง 5 พรรค
จำนวน ร้อยละ
เลือกพรรคไทยรักไทย 417 31.8
เลือกพรรคประชาธิปัตย์ 255 19.5
เลือกพรรคชาติไทย 69 5.3
เลือกพรรคอื่น 60 4.6
ไม่เลือกพรรคใดเลย 509 38.8
ตารางที่ 9: อยากได้นายกรัฐมนตรีคนต่อไปมาจากการเลือกตั้งหรือการแต่งตั้ง
จำนวน ร้อยละ
มาจากการเลือกตั้ง 1,097 83.7
มาจากการแต่งตั้ง 182 13.9
ไม่แสดงความเห็น 31 2.4
ตารางที่ 10: ความคิดเห็นต่อการที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร กลับมาจัดรายการนายกฯ ทักษิณคุยกับประชาชน
จำนวน ร้อยละ
เหมาะสม 487 37.2
เพราะ (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)
- เป็นการให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชน
- เป็นการทำงานตามหน้าที่
- เป็นสิ่งที่เคยทำอยู่แล้วไม่น่าจะเสียหายอะไร
- ชอบนายกฯ ทักษิณ
- ฯลฯ
ไม่เหมาะสม 560 42.7
เพราะ (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)
- เป็นการพูดเอาประโยชน์ใส่ตัวเพื่อหวังคะแนนนิยม
- ผิดมารยาททางการเมืองเพราะเป็นเพียงนายกฯ รักษาการ
- เอาเปรียบพรรคอื่นที่ไม่มีโอกาสได้พูด
- บ้านเมืองกำลังมีปัญหายิ่งนายกฯ ออกมาพูดปัญหาจะยิ่งบานปลาย
- ฯลฯ
ไม่มีความเห็น 263 20.1
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--
-กภ-