กรุงเทพโพลล์: "วิสาขบูชา” กับการเยียวยาประเทศไทย

ข่าวผลสำรวจ Thursday May 27, 2010 09:02 —กรุงเทพโพลล์

ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เผยผลสำรวจพบคนกรุงเทพฯ ร้อยละ 80.6 ระบุเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเกิดความกลัว เครียด วิตกกังวล รู้สึกว่าชีวิตไม่ปลอดภัย และต้องระวังตัวมากขึ้น ขณะที่บางส่วนระบุว่ามีรายได้ลดลงและเสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้าง

ทั้งนี้ คนส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 79.0 เชื่อว่า หากทุกฝ่ายยึดถือหลักธรรมคำสอนของศาสนามาเป็นแนวทางในการทำงานและดำเนินชีวิตจะช่วยเยียวยาแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นได้ โดยคาดหวังให้สถาบันครอบครัวเป็นผู้ทำหน้าที่ปลูกฝังธรรมะแก่ลูกหลานมากที่สุด

สำหรับหลักธรรมะที่ต้องการให้รัฐบาลยึดถือเป็นแนวทางในการบริหารประเทศมากที่สุดในขณะนี้คือ “ยุติธรรม โปร่งใส” ส่วนหลักธรรมะที่ต้องการให้ประชาชนคนไทยยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตมากที่สุดในขณะนี้คือ “สามัคคีปรองดอง”

สำหรับสิ่งที่คนกรุงเทพฯ ตั้งใจจะอธิษฐานขอพรเนื่องในวันวิสาขบูชาปีนี้ อันดับแรกคือ ขอให้ประเทศไทยมีความสงบสุข ผ่านพ้นวิกฤติโดยเร็ว และไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้อีก

ดังรายละเอียดต่อไปนี้

1. เหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันหรือไม่ อย่างไร พบว่า
  • ร้อยละ 80.6 ระบุว่า ส่งผลกระทบ

โดยเรื่องที่ส่งผลกระทบคือ

                     - ทำให้เกิดความกลัว เครียด และวิตกกังวล                              ร้อยละ 21.3
                     - ทำให้รู้สึกว่าชีวิตไม่ปลอดภัย ต้องระวังตัวมากขึ้น                          ร้อยละ 21.3
                     - ทำให้มีรายได้ลดลง เสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้าง                             ร้อยละ 20.9
                     - ทำให้ไม่อยากอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ                                    ร้อยละ 7.7
  • อื่นๆ อาทิ รถติด เดินทางไม่สะดวก และโดนจำกัดเวลาจากการประกาศเคอร์ฟิว ร้อยละ 9.4
  • ร้อยละ 19.4 ระบุว่า ไม่ส่งผลกระทบ
2. หากทุกฝ่ายยึดถือหลักธรรมคำสอนของศาสนามาเป็นแนวทางในการทำงานและดำเนินชีวิต
จะช่วยเยียวยาแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นได้หรือไม่
          -  เชื่อว่าสามารถช่วยเยียวยาแก้ปัญหาได้                                           ร้อยละ 79.0
          - เชื่อว่าไม่สามารถช่วยเยียวยาแก้ปัญหาได้                                          ร้อยละ  7.0
          - ไม่แน่ใจ                                                                  ร้อยละ 14.0

3.  แนวทางที่เหมาะสมในการนำหลักธรรมคำสอนของศาสนาพุทธมาใช้เยียวยาแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น พบว่าคนกรุงเทพฯ เสนอแนวทางดังต่อไปนี้
          - ให้ครอบครัวปลูกฝังธรรมะให้กับลูกหลาน                                           ร้อยละ 22.8
          - ให้โรงเรียนเน้นการเรียนการสอนที่สอดแทรกธรรมะให้มากขึ้น                           ร้อยละ 18.3
          - ให้รัฐบาลบริหารประเทศโดยยึดหลักธรรมาภิบาล                                     ร้อยละ 17.5
          - ให้เครือข่ายชุมชนเพิ่มกิจกรรมทางศาสนาให้เข้าถึงคนในชุมชน                           ร้อยละ 16.7
          - ให้สื่อมวลชนเพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับธรรมะและปรับวิธีการนำเสนอให้น่าสนใจ                   ร้อยละ 15.0
          - ให้พระสงฆ์ปรับวิธีเผยแผ่หลักธรรมคำสอนให้เป็นเชิงรุกมากขึ้น                           ร้อยละ  9.7

4.  หลักธรรมะที่ต้องการให้รัฐบาลยึดถือเป็นแนวทางในการบริหารประเทศมากที่สุดในขณะนี้ คือ
          - ยุติธรรม โปร่งใส                             ร้อยละ 22.3
          - ซื่อสัตย์ สุจริต                                ร้อยละ 19.3
          - สามัคคีปรองดอง                              ร้อยละ 17.5
          - มีสติ รอบคอบ                                ร้อยละ 12.2
          - แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ                              ร้อยละ 11.2
          - ขันติ อดทน อดกลั้น                            ร้อยละ  8.9
          - ให้อภัย ไม่จองเวร                            ร้อยละ  5.0
          - เมตตา กรุณา                                ร้อยละ  3.6

5. หลักธรรมะที่ต้องการให้ประชาชนคนไทยยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตมากที่สุดในขณะนี้ คือ
          - สามัคคีปรองดอง                              ร้อยละ 37.1
          - ยึดทางสายกลาง                              ร้อยละ 17.1
          - มีสติ รอบคอบ                                ร้อยละ 16.8
          - ให้อภัย ไม่จองเวร                            ร้อยละ 12.1
          - เมตตา กรุณา                                ร้อยละ  9.4
          - ขันติ อดทน อดกลั้น                            ร้อยละ  7.5

6. สิ่งที่คนกรุงเทพฯ ตั้งใจจะอธิษฐานขอพรเนื่องในวันวิสาขบูชาในปีนี้ (มากที่สุด 5 อันดับแรก) คือ
(เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)

อันดับ 1 ขอให้ประเทศไทยมีความสงบสุข ผ่านพ้นวิกฤติโดยเร็ว และไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้อีก ร้อยละ 67.8

          อันดับ 2   ขอให้คนไทยกลับมารักกัน ให้อภัยกันเป็นพี่เป็นน้องกันเหมือนเดิม                        ร้อยละ 10.5
          อันดับ 3   ขอให้ตนเองและครอบครัวมีความสุข และมีสุขภาพแข็งแรง                            ร้อยละ  6.3
          อันดับ 4   ขอให้พระเจ้าอยู่หัวทรงหายประชวร                                            ร้อยละ  5.3
          อันดับ 5  ขอให้เศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น                          ร้อยละ  4.5

          ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)   โทร. 02-350-3500 ต่อ 1770, 1776   E-mail: bangkokpoll@bu.ac.th      Website: http://research.bu.ac.th    Twitter :  http://twitter.com/bangkok_poll

รายละเอียดในการสำรวจ

วัตถุประสงค์ในการสำรวจ

เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับการนำเอาหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนามาเยียวยาแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา ตลอดจนสิ่งที่ตั้งใจอธิษฐานขอพรเนื่องในโอกาสวันวิสาขบูชา ทั้งนี้เพื่อสะท้อนให้สังคม และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเพื่อประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมต่อไป

ระเบียบวิธีการสำรวจ

การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างประชาชนทั่วไปทุกสาขาอาชีพที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปและอาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) และใช้วิธีเก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,002 คน เป็นเพศชาย ร้อยละ 49.9 และเพศหญิงร้อยละ 50.1

ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)

ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน +/- 4% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

วิธีการรวบรวมข้อมูล

ใช้การสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิด (Open Form) และได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล            :  25-26 พฤษภาคม 2553

วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ                :  27 พฤษภาคม 2553

ข้อมูลประชากรศาสตร์

                                             จำนวน         ร้อยละ
เพศ
                       ชาย                     500         49.9
                       หญิง                     502         50.1
          รวม                                1,002        100.0

อายุ
                      18 - 25 ปี                232         23.2
                      26 - 35 ปี                270         26.9
                      36 - 45 ปี                226         22.6
                      46 ปีขึ้นไป                 274         27.3
          รวม                                1,002        100.0

การศึกษา
               ต่ำกว่าปริญญาตรี                    586         58.5
               ปริญญาตรี                         336         33.5
               สูงกว่าปริญญาตรี                     80          8.0
          รวม                                1,002        100.0

อาชีพ
     ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ                128          12.8
     พนักงาน / ลูกจ้าง บริษัทเอกชน                 218          21.7
     ค้าขาย / ประกอบอาชีพส่วนตัว                  260          26.0
     รับจ้างทั่วไป                                124          12.3
     พ่อบ้าน แม่บ้าน เกษียณอายุ                     108          10.8
     อื่นๆ อาทิ นักศึกษา อาชีพอิสระ ว่างงาน เป็นต้น     164          16.4
          รวม                               1,002         100.0

--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ