ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจาก 27 จังหวัด ทั่วทุกภาคของประเทศ พบว่า ประชาชนให้คะแนนความพึงพอใจต่อการทำหน้าที่ของรัฐบาลในการฟื้นฟูประเทศหลังผ่านเหตุการณ์ความรุนแรงมาแล้ว 1 เดือนได้คะแนนเฉลี่ยรวม 4.28 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยพึงพอใจด้านการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ความรุนแรงมากที่สุด แต่พึงพอใจด้าน การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรม เพื่อลดเงื่อนไขความขัดแย้งและแตกแยกในสังคมน้อยที่สุด
เมื่อถามความเห็นต่อแผนปรองดองแห่งชาติที่นายกฯ อภิสิทธิ์ แถลงเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 35.3 เห็นด้วยกับแผน ดังกล่าว ขณะที่ร้อยละ 24.1 ไม่เห็นด้วย และภายหลังการประกาศแผนปรองดองแล้วมีเพียงร้อยละ 18.4 ที่ระบุว่ามีคะแนนนิยมต่อรัฐบาลเพิ่มมาก ขึ้น ในขณะที่ร้อยละ 38.6 ระบุว่ามีคะแนนนิยมเท่าเดิม และร้อยละ 22.9 มีคะแนนนิยมลดลง
สำหรับประเด็นการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. นั้น ร้อยละ 39.8 ระบุว่า เห็นด้วย (โดยในจำนวนนี้ร้อยละ 26.9 เห็นว่าควรนิรโทษกรรมเฉพาะผู้ชุมนุมที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีก่อการร้าย ส่วนอีกร้อยละ 12.9 เห็นว่าควรนิรโทษกรรมให้ทั้งหมด) ขณะที่ร้อยละ 37.0 ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 23.2 ไม่แน่ใจ
ความคิดเห็นต่อการยกเลิก พรก. ฉุกเฉินในพื้นที่ 24 จังหวัดที่ประกาศใช้อยู่ในขณะนี้ ร้อยละ 55.9 เห็นว่าพิจารณาจากสถานการณ์ที่เป็น อยู่ในปัจจุบันแล้วเห็นว่าควรยกเลิก พรก. ฉุกเฉิน ในขณะที่ร้อยละ 24.9 เห็นว่ายังไม่ควรยกเลิก
ส่วนสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลทำมากที่สุดในขณะนี้เพื่อเป็นการเริ่มต้นสร้างความปรองดองของคนในชาติ พบว่า อันดับแรกคือให้รัฐบาลเปิดใจ รับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย รองลงมาคือให้ช่วยเหลือคนจน สร้างงานสร้างรายได้ แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรมในสังคม ยุบสภาคืน อำนาจให้ประชาชน หาคนกลางที่ทุกฝ่ายยอมรับมาทำหน้าที่สอบสวนหาความจริงในเหตุการณ์ความรุนแรงที่ผ่านมา และเร่งจับผู้ก่อการร้ายมาดำเนิน คดี รวมถึงหาตัวคนผิดมาลงโทษ ตามลำดับ
ดังรายละเอียดต่อไปนี้
- เห็นว่าความขัดแย้งเพิ่มขึ้น ร้อยละ 13.5 - เห็นว่าความขัดแย้งเท่าเดิม ร้อยละ 37.3 - เห็นว่าความขัดแย้งลดลง ร้อยละ 49.2 2. ความพึงพอใจต่อการทำหน้าที่ของรัฐบาลในการฟื้นฟูประเทศหลังผ่านเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง พบว่า ประชาชนให้คะแนนความพึงพอใจ เฉลี่ยรวม 4.28 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยพึงพอใจด้านการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ความรุนแรงมากที่สุด แต่ พึงพอใจด้านการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรม เพื่อลดเงื่อนไขความขัดแย้งและแตกแยกในสังคมน้อยที่สุด ดังนี้ ความพึงพอใจการทำหน้าที่ในด้านต่างๆ คะแนนที่ได้
(จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน)
ด้านการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ความรุนแรง 4.82 ด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูการท่องเที่ยว 4.30 ด้านการสืบสวนหาข้อเท็จจริงในช่วงสลายการชุมนุมเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย 4.14 ด้านการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรม เพื่อลดเงื่อนไขความขัดแย้งและแตกแยกในสังคม 3.86 เฉลี่ยรวม 4.28 3. ความคิดเห็นต่อแผนปรองดองของรัฐบาลที่นายกฯ อภิสิทธิ์ แถลงเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา พบว่า - เห็นด้วย ร้อยละ 35.3
(โดยให้เหตุผลว่า เป็นทางออกที่ดี ช่วยลดปัญหาความขัดแย้ง เป็นแนวทางสันติวิธี อยากเห็นภาพความปรองดองกัน คนไทยจะได้กลับมา รักและสามัคคีกัน ฯลฯ)
- เห็นด้วยแบบมีเงื่อนไข ร้อยละ 16.0
(เช่น จะต้องแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลตั้งใจจริงไม่ใช่แค่สร้างภาพ จะต้องมีความชัดเจนเป็นรูปธรรม จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และจะต้องสร้างความร่วมมือจากทุกฝ่าย ฯลฯ)
- ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 24.1
(โดยให้เหตุผลว่า แก้ปัญหาไม่ถูกจุด รัฐบาลไม่จริงใจดีแต่สร้างภาพ เป็นนามธรรมมากเกินไป และทำไม่ได้จริง ฯลฯ)
- ไม่แน่ใจ ร้อยละ 24.6
(เพราะ ขาดรายละเอียดที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม ฯลฯ)
- คะแนนนิยมเพิ่มขึ้น ร้อยละ 18.4 - คะแนนนิยมเท่าเดิม ร้อยละ 38.6 - คะแนนนิยมลดลง ร้อยละ 22.9 - ไม่แน่ใจ/ ไม่แสดงความเห็น ร้อยละ 20.1 5. ความคิดเห็นต่อการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. - เห็นด้วย ร้อยละ 39.8
(โดยเห็นว่า - ควรนิรโทษกรรมเฉพาะผู้ชุมนุมที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีก่อการร้าย ร้อยละ 26.9
- ควรนิรโทษกรรมให้ทั้งหมด ร้อยละ 12.9 - ไม่เห็นด้วย ร้อยละ 37.0 - ไม่แน่ใจ ร้อยละ 23.2 6. ความคิดเห็นต่อสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันว่าควรยกเลิก พรก. ฉุกเฉินในพื้นที่ 24 จังหวัดที่ประกาศใช้อยู่หรือไม่ - ควรยกเลิก ร้อยละ 55.9
- ไม่ควรยกเลิก ร้อยละ 24.9
- ไม่แน่ใจ ร้อยละ 19.2 7. สิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลทำมากที่สุดในขณะนี้เพื่อเป็นการเริ่มต้นสร้างความปรองดองของคนในชาติ (5 อันดับแรก) คือ (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุคำตอบเองโดยอิสระ) - เปิดใจรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย ร้อยละ 28.0 - ช่วยเหลือคนจน สร้างงานสร้างรายได้ แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรมในสังคม ร้อยละ 24.9 - ยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน ร้อยละ 16.6 - หาคนกลางที่ทุกฝ่ายยอมรับมาทำหน้าที่สอบสวนหาความจริงในเหตุการณ์ความรุนแรงที่ผ่านมา ร้อยละ 9.5 - จับผู้ก่อการร้ายมาดำเนินคดี หาตัวคนผิดมาลงโทษ ร้อยละ 6.6 8. ความคิดเห็นต่อประเด็นที่ว่าเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ - เชื่อว่าจะเกิดขึ้นอีก ร้อยละ 45.9
(โดยให้เหตุผลว่า รัฐบาลไม่จริงใจในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ความขัดแย้งทางความคิดและอิทธิพลของ พ.ต.ท. ทักษิณ ยังคงมีอยู่ )
- เชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก ร้อยละ 10.7 (โดยให้เหตุผลว่า ทุกคนได้เห็นแล้วว่าประเทศชาติบอบช้ำ คงไม่มีใครอยากทำร้ายประเทศชาติอีก แกนนำกลุ่ม นปช.ถูกควบคุมตัวอยู่) - ไม่แน่ใจ ร้อยละ 43.4
รายละเอียดในการสำรวจ
เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนจากทั่วประเทศ เกี่ยวกับแผนปรองดองแห่งชาติของรัฐบาล เพื่อสะท้อนให้สังคม และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบและนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติและสังคมส่วนรวมต่อไป
การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างประชาชนทั่วไปทุกสาขาอาชีพอายุ 18 ปีขึ้นไปที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครและ จังหวัดต่างๆ ในแต่ละภาค ทั่วประเทศ จำนวน 27 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง ราชบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม นครสวรรค์ ลำปาง เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ ขอนแก่น นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี หนองคาย นครศรี ธรรมราช ภูเก็ต ตรัง และสงขลา ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) และใช้วิธีการสัมภาษณ์แบบพบตัวและการ สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,628 คน เป็นเพศชาย ร้อยละ 52.1 และเพศหญิงร้อยละ 47.9
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน +/- 3% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว (Face-to-face Interview) และสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบ ถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุคำตอบเองโดยอิสระ (Open Form) และได้นำแบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 15-16 มิถุนายน 2553 วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ : 17 มิถุนายน 2553
ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ เพศ ชาย 848 52.1 หญิง 780 47.9 รวม 1,628 100.0 อายุ 18 - 25 ปี 370 22.7 26 - 35 ปี 457 28.1 36 - 45 ปี 405 24.9 46 ปีขึ้นไป 396 24.3 รวม 1,628 100.0 การศึกษา ต่ำกว่าปริญญาตรี 957 58.8 ปริญญาตรี 620 38.1 สูงกว่าปริญญาตรี 51 3.1 รวม 1,628 100.0 อาชีพ ข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ 243 14.9 พนักงาน / ลูกจ้าง บริษัทเอกชน 350 21.5 ค้าขาย / ประกอบอาชีพส่วนตัว 410 25.2 รับจ้างทั่วไป 246 15.1 พ่อบ้าน แม่บ้าน เกษียณอายุ 93 5.7 อื่นๆ อาทิ เกษตรกรรม อาชีพอิสระ ว่างงาน ฯลฯ 286 17.6 รวม 1,628 100.0
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--