กรุงเทพโพลล์: "ความในใจที่มีต่อกันระหว่างแม่และลูกวัยรุ่น”

ข่าวผลสำรวจ Tuesday August 10, 2010 10:00 —กรุงเทพโพลล์

ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ(กรุงเทพโพลล์) เผยผลสำรวจพบว่าโอกาสวันแม่ปีนี้สิ่งที่ลูกวัยรุ่นตั้งใจจะทำให้แม่มากที่สุดอันดับแรกคือจะนำ ดอกมะลิ พวงมาลัยไปกราบแม่ (ร้อยละ 23.5) รองลงมาคือให้เวลาอยู่กับแม่ พาแม่ไปเที่ยว พาไปทานข้าว (ร้อยละ 14.8) และบอกรักแม่ กอด แม่ หอมแม่ (ร้อยละ 14.6) ส่วนในมุมมองของผู้เป็นแม่นั้นของขวัญวันแม่ที่อยากได้จากลูกมากที่สุดอันดับแรกคือให้ลูกเป็นคนดีของสังคม (ร้อยละ 43.8) รองลงมาคือให้เชื่อฟังคำสั่งสอนของแม่ (ร้อยละ 17.8) และตั้งใจเรียนหนังสือ (ร้อยละ 14.8)

เมื่อสอบถามความรู้สึกของแม่ที่มีต่อลูก พบว่า เรื่องที่ลูกทำให้แม่ดีใจ ปลื้มใจมากที่สุดคือ การที่ลูกตั้งใจเรียนหนังสือ ไม่หนีเรียน (ร้อยละ 33.3) ส่วนเรื่องที่ลูกทำให้เสียใจและทุกข์ใจมากที่สุดคือ การที่ลูกดื้อ ไม่เชื่อฟังแม่ เถียงแม่ และพูดจาก้าวร้าวกับแม่ (ร้อยละ 40.0) และความรู้สึก ของแม่เมื่อต้องเฆี่ยนตีหรือทำโทษลูกคือรู้สึกเสียใจมากที่สุด (ร้อยละ 55.1)

ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบความรู้สึกของลูกที่มีต่อแม่ พบว่า เรื่องที่แม่ทำให้ลูกดีใจปลื้มใจมากที่สุดคือ การที่แม่แสดงออกถึงความรักโดยการก อด หอม ดูแลเอาใจใส่ให้ความอบอุ่น (ร้อยละ 28.7) ส่วนเรื่องที่แม่ทำให้รู้สึกเสียใจทุกข์ใจมากที่สุดคือ การถูกแม่ดุด่า ต่อว่า ตำหนิ จู้จี้ ขี้บ่น (ร้อย ละ 31.7) และความรู้สึกของลูกเมื่อถูกแม่เฆี่ยนตีหรือทำโทษคือรู้สึกเสียใจ น้อยใจมากที่สุด (ร้อยละ 39.8)

สำหรับเรื่องที่เป็นห่วงและวิตกกังวลมากที่สุดจากสภาพสังคมในปัจจุบัน พบว่า

แม่เป็นห่วงลูกในเรื่องยาเสพติดมากที่สุด (ร้อยละ 44.8)

รองลงมาคือการคบเพื่อนไม่ดี (ร้อยละ 44.6)

และภัยจากอินเทอร์เน็ต (ร้อยละ 31.4)

ในขณะที่ลูกเป็นห่วงแม่มากที่สุดในเรื่องปัญหาสุขภาพ (ร้อยละ 81.2)

รองลงมาคือการทำงานหนัก พักผ่อนน้อย (ร้อยละ 59.5)

และห่วงเรื่องแม่เครียดและคิดมาก (ร้อยละ 45.3)

ดังรายละเอียดต่อไปนี้

1. สิ่งที่ตั้งใจจะให้เป็นของขวัญในวันแม่ปีนี้ (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)
      ของขวัญที่แม่อยากได้จากลูกมากที่สุด 3 อันดับแรก                  ของขวัญที่ลูกอยากให้แม่มากที่สุด3 อันดับแรก
อันดับที่ 1 ให้ลูกเป็นคนดีของสังคม          ร้อยละ 43.8         อันดับที่ 1 นำดอกมะลิ พวงมาลัยไปกราบแม่       ร้อยละ 23.5
อันดับที่ 2 เชื่อฟังคำสั่งสอนของแม่ ไม่ดื้อ     ร้อยละ 17.8         อันดับที่ 2 ให้เวลากับแม่ พาไปเที่ยว ทานข้าว     ร้อยละ 14.8
อันดับที่ 3 ตั้งใจเรียนหนังสือ              ร้อยละ 14.8         อันดับที่ 3 บอกรักแม่ กอด และ หอมแม่          ร้อยละ 14.6

2. เปรียบเทียบการกระทำของแม่และลูกที่ทำให้อีกฝ่ายดีใจ สุขใจ หรือปลื้มใจ มากที่สุด (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)
      การกระทำของลูกที่ทำให้แม่ดีใจมากที่สุด 3 อันดับแรก                การกระทำของแม่ที่ทำให้ลูกดีใจมากที่สุด 3 อันดับแรก
อันดับที่ 1 ลูกตั้งใจเรียนหนังสือไม่หนีเรียน          ร้อยละ 33.3    อันดับที่ 1 แม่แสดงออกถึงความรัก กอด หอม ดูแลเอาใจใส่ให้ความอบอุ่น ร้อยละ 28.7
อันดับที่ 2 เป็นเด็กดี ไม่เกเร เชื่อฟังคำสั่งสอนของแม่ ร้อยละ 23.9    อันดับที่ 2 เป็นที่ปรึกษายามทุกข์ใจ ให้กำลังใจ และช่วยเหลือ          ร้อยละ 15.5
อันดับที่ 3 ลูกเรียนเก่ง ได้เกรดดี                ร้อยละ 15.4    อันดับที่ 3 แม่ตามใจ ซื้อของให้                                ร้อยละ 12.4

3. เปรียบเทียบการกระทำของแม่และลูกที่ทำให้อีกฝ่ายเสียใจหรือทุกข์ใจมากที่สุด (เป็นคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุเอง)
การกระทำของลูกที่ทำให้แม่เสียใจหรือทุกข์ใจมากที่สุด 3 อันดับแรก                      การกระทำของแม่ที่ทำให้ลูกเสียใจหรือทุกข์ใจมากที่สุด 3 อันดับแรก
อันดับที่ 1 ลูกดื้อ ไม่เชื่อฟังแม่ ชอบเถียงต่อปากต่อคำ และพูดจาก้าวร้าวกับแม่ ร้อยละ 40.0   อันดับที่ 1 แม่ดุ ต่อว่า ตำหนิ จู้จี้ ขี้บ่น           ร้อยละ 31.7
อันดับที่ 2 ลูกไม่สนใจการเรียนหนีเรียน                             ร้อยละ 16.4   อันดับที่ 2 แม่ไม่เข้าใจ ไม่ฟังเหตุผลมองลูกในแง่ลบ ร้อยละ 14.9
อันดับที่ 3 ลูกติดเกม                                           ร้อยละ  6.1   อันดับที่ 3 แม่ทำงานหนัก ไม่ดูแลสุขภาพตัวเอง     ร้อยละ  6.4

4. เมื่อเปรียบเทียบความรู้สึกต่อการเฆี่ยนตี หรือการทำโทษลูก พบว่า
   ความรู้สึกของแม่ที่ต้องเฆี่ยนตี หรือลงโทษลูก3 อันดับแรก           ความรู้สึกของลูกที่ถูกแม่เฆี่ยนตี ลงโทษ3 อันดับแรก
อันดับที่ 1 รู้สึกเสียใจ                     ร้อยละ  55.1        อันดับที่ 1 รู้สึกเสียใจ น้อยใจ   ร้อยละ 39.8
อันดับที่ 2 รู้สึกสงสารลูก                   ร้อยละ  14.4        อันดับที่ 2 ยอมรับและเข้าใจ    ร้อยละ 37.4
อันดับที่ 3 รู้สึกภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่แม่           ร้อยละ   5.5        อันดับที่ 3 รู้สึกเฉยๆ          ร้อยละ  8.7

5. เปรียบเทียบความรู้สึกระหว่างแม่กับลูกวัยรุ่นต่อการที่แม่ให้เวลาในการพูดคุย ให้คำปรึกษา หรือทำกิจกรรมร่วมกับลูกในทุกวันนี้
          ความรู้สึกของแม่                                       ความรู้สึกของลูก
เห็นว่าแม่ให้เวลากับลูกอย่างเพียงพอ          ร้อยละ 72.1      เห็นว่าแม่ให้เวลากับลูกอย่างเพียงพอ        ร้อยละ 84.1
   เห็นว่าไม่เพียงพอ                                        เห็นว่าไม่เพียงพอ
  (โดยให้เหตุผลว่าต้องทำงาน เวลาไม่ตรงกัน-                   (โดยให้เหตุผลว่า เวลาไม่ตรงกัน กลับบ้านดึก -
   ลูกอยู่หอพัก ลูกติดเพื่อน ฯลฯ)            ร้อยละ 27.9         ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ฯลฯ)                ร้อยละ 15.9

6.เปรียบเทียบความคิดเห็นต่อเรื่องที่เป็นห่วง หรือ วิตกกังวลมากที่สุด จากสภาพสังคมในปัจจุบัน (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
เรื่องที่แม่เป็นห่วงลูกมากที่สุด มากที่สุด 3 อันดับแรก           เรื่องที่ลูกเป็นห่วงแม่มากที่สุด 3 อันดับแรก
อันดับที่ 1 เรื่องยาเสพติด          ร้อยละ 44.8          อันดับที่ 1 ปัญหาสุขภาพ            ร้อยละ 81.2
อันดับที่ 2 คบเพื่อนไม่ดี            ร้อยละ 44.6          อันดับที่ 2 ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย    ร้อยละ 59.5
อันดับที่ 3 ภัยจากอินเทอร์เน็ต       ร้อยละ 31.4          อันดับที่ 3 แม่เครียด คิดมาก        ร้อยละ 45.3

รายละเอียดในการสำรวจ วัตถุประสงค์ในการสำรวจ

เพื่อสอบถามความคิดเห็นของแม่และลูกที่เป็นวัยรุ่นในกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับความใจในที่อยากบอกซึ่งกันและกันในโอกาสวันแม่ที่จะมา ถึงในปีนี้ เพื่อสะท้อนมุมมองความคิดเห็นของทั้งสองฝ่าย ตลอดจนให้สังคมและผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ และนำไปใช้เป็นแนวทางในการเสริมสร้าง ความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแม่และลูกวัยรุ่นต่อไป

ระเบียบวิธีการสำรวจ

การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างแม่ที่มีลูกอยู่ในช่วงอายุ 15-25 ปี และวัยรุ่นอายุ 15-25 ปีที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร ด้วยวิธีการสุ่ม ตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) โดยสุ่มจากเขตการปกครองทั้งเขตชั้นใน ชั้นกลาง และชั้นนอก จำนวนทั้งสิ้น 30 เขต ได้แก่ เขตคลองเตย คลองสาน จตุจักร ดอนเมือง ดินแดง ทุ่งครุ ธนบุรี บางกอกน้อย บางกอกใหญ่ บางกะปิ บางขุนเทียน บางคอแหลม บางแค บางนา บางบอน บางรัก บึงกุ่ม ปทุมวัน พระโขนง มีนบุรี ยานนาวา ราชเทวี ลาดพร้าว วังทองหลาง วัฒนา สวนหลวง สาทร หนองจอก หลักสี่ และห้วยขวาง จากนั้นจึงสุ่มถนน และประชากรเป้าหมายที่จะสัมภาษณ์อย่างเป็นระบบ ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,013 คน เป็นแม่ร้อยละ 42.7 และลูกร้อยละ 57.3

ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)

ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน +/- 4% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%

วิธีการรวบรวมข้อมูล

ใช้การสัมภาษณ์แบบพบตัว (Face-to-face Interview) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอน ประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) และคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบระบุคำตอบเองโดยอิสระ (Open Form) และได้นำ แบบสอบถามทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล

ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล            :  6-8 สิงหาคม 2553

วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ                :  10 สิงหาคม 2553

ข้อมูลประชากรศาสตร์ของกลุ่มตัวอย่าง

                                     จำนวน          ร้อยละ
สถานภาพของกลุ่มตัวอย่าง
          เป็นแม่ (ที่มีลูกอายุ 15-25 ปี)      433          42.7
          เป็นลูก (อายุ 15-25 ปี)          580          57.3
          รวม                        1,013         100.0

อายุลูก
          15 - 18 ปี                    203          34.9
          19 - 22 ปี                    203          34.9
          23 - 25 ปี                    174          30.2
          รวม                          580         100.0

--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ