สืบเนื่องจากการที่ตุลาการรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักไทย และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเป็นเวลา 5 ปี
เป็นผลให้กลุ่มผู้สนับสนุนและแกนนำพรรคไทยรักไทยเดิมรวมถึงกลุ่มอื่นๆ ได้รวมตัวเป็นแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) เพื่อชุมนุมเรียก
ร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ลาออก โดยมีการชุมนุมและเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดกระแสความวิตกกังวล
ขึ้นในสังคมว่าจะเป็นสาเหตุให้เกิดเหตุการณ์ลุกลามบานปลายได้ ทั้งมีกระแสเรื่องการออกกฎหมายนิรโทษกรรมแก่ผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองจนเป็นที่
สนใจของประชาชนในวงกว้าง ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพจึงได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ความคิดเห็นของ
ประชาชนต่อการชุมนุมทางการเมืองและการนิรโทษกรรม” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน
967 คน เมื่อวันที่ 18-20 มิถุนายน 2550 สรุปผลได้ดังนี้
1. ความเห็นต่อการติดตามและรับทราบข่าวสารบ้านเมืองที่อยู่ในความสนใจ ณ ขณะนี้ พบว่า
(เป็นคำถามปลายเปิด)
- ติดตามข่าวสารการชุมนุมทางการเมือง.................................ร้อยละ 54.8
- ติดตามข่าวอื่นๆ อาทิ สังคม เศรษฐกิจ บันเทิง กีฬา.......................ร้อยละ 13.5
- ติดตามข่าวการยึดทรัพย์และการกลับเมืองไทยของอดีตนายกฯ.................ร้อยละ 13.0
- ติดตามข่าวความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้.......................ร้อยละ 9.2
- ติดตามข่าวการยุบพรรคและการตัดสิทธิทางการเมือง.......................ร้อยละ 4.0
- ติดตามข่าวการร่างรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้ง...........................ร้อยละ 3.9
- ไม่สนใจติดตามข่าวใดๆเลย.........................................ร้อยละ 1.6
เมื่อพิจารณาความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างต่อการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองและการชุมนุมทางการเมืองที่ปรากฏเป็นข่าวในปัจจุบัน โดย
แยกเป็นประเด็นต่างๆ ดังนี้
1.1 ความเห็นและความเข้าใจต่อวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ(นปก.)
- เพื่อรักษาผลประโยชน์ทางการเมืองของกลุ่มหรือคณะบุคคล...................ร้อยละ 57.5
- เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยต่อประชาชนส่วนรวม..........................ร้อยละ 23.3
- ไม่แน่ใจ.......................................................ร้อยละ 19.2
1.2 ความคิดเห็นต่อประเด็นว่าใครคือผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.)
(เป็นคำถามปลายเปิด)
- ไม่แน่ใจว่าใครคือผู้ได้รับประโยชน์..............................ร้อยละ 24.8
- นักการเมืองผู้เสียผลประโยชน์.................................ร้อยละ 23.9
- พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร.......................................ร้อยละ 20.5
- ประชาชน................................................ร้อยละ 14.9
- แกนนำผู้ชุมนุมและผู้เข้าชุมนุม..................................ร้อยละ 10.7
- อื่นๆ ได้แก่ คมช. รัฐบาล คนจน และตำรวจ......................ร้อยละ 4.0
- ไม่มีใครได้ประโยชน์........................................ร้อยละ 1.2
1.3 ความเห็นต่อแนวทางที่อยากให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการนำไปดำเนินการ
- ส่งตัวแทนเจรจากับรัฐบาลเพื่อหาข้อยุติและสลายการชุมนุม.............ร้อยละ 65.0
- ชุมนุมอย่างสงบและต่อเนื่อง...................................ร้อยละ 20.4
- อื่นๆ อาทิ ควรรอรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และให้มีการเลือกตั้งก่อน..........ร้อยละ 14.6
2. เมื่อถามความเห็นต่อการอนุญาตให้อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สามารถสื่อสารกับผู้ชุมนุมได้โดยตรง อาทิ ผ่านระบบวีดิโอคอน
เฟอร์เรนซ์ โดยไม่ควรมีการปิดกั้น พบว่า
- เห็นด้วย.................................................ร้อยละ 53.9
เพราะ เป็นสิทธิที่พึงกระทำได้, ไม่ควรปิดกั้นการรับข่าวสารของประชาชน
- ไม่เห็นด้วย...............................................ร้อยละ 46.1
เพราะ อาจเกิดความวุ่นวาย สับสน
โดยกลุ่มที่ระบุว่าไม่เห็นด้วยจำนวนร้อยละ 46.1 เห็นว่า
- ไม่ควรอนุญาตให้มีการสื่อสารโดยตรงกับผู้ชุมนุมเลย...............ร้อยละ 23.5
- ให้สื่อสารกับผู้ชุมนุมได้แต่ต้องผ่านการตรวจสอบจากรัฐบาลก่อน.......ร้อยละ 20.2
- อื่นๆ อาทิ ควรมีการควบคุมโดยให้เผยแพร่ได้เฉพาะสื่อบางประเภท,
ควรอนุญาตหลังจากมีการเลือกตั้งไปแล้ว.......................ร้อยละ 2.4
3. ความเห็นต่อการปิดกั้นสื่อชนิดอื่นๆ อาทิ Website Hi-Taksin หรือ Youtube ที่มีคำปราศรัยและเทปคำปราศรัย ของอดีตนายกรัฐมนตรี
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
- ไม่ควรปิดกั้นแต่ให้ผ่านการตรวจสอบเนื้อหาจากรัฐบาลก่อน.............ร้อยละ 41.7
- ไม่ควรมีการปิดกั้นเลย.......................................ร้อยละ 32.6
- ควรให้มีการปิดกั้นต่อไป......................................ร้อยละ 18.0
- ไม่แน่ใจ.................................................ร้อยละ 7.7
4. ความเห็นต่อการออกกฎหมายนิรโทษกรรมแก่ผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ให้ได้รับการคืนสิทธิและสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ตามเดิม
- เห็นด้วย.................................................ร้อยละ 38.7
เพราะ เชื่อว่าผู้ถูกตัดสิทธิบางคนไม่ได้กระทำผิดและเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ
- ไม่เห็นด้วย...............................................ร้อยละ 61.3
เพราะ ศาลมีคำตัดสินไปแล้วต้องให้ความเคารพคำตัดสินของศาล, เห็นว่ากระทำผิดจริง
และต้องการให้เป็นบรรทัดฐานของสังคม
5. ความเห็นต่อการที่กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคไทยรักไทยดำเนินการล่ารายชื่อประชาชน เพื่อยื่นถวายฎีกากรณีคดียุบพรรค พบว่า
- เห็นด้วย................................................ร้อยละ 30.6
เพราะ เป็นสิทธิที่พึงกระทำได้
- ไม่เห็นด้วย..............................................ร้อยละ 69.4
เพราะ เป็นการกระทำที่ไม่สมควรและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง, ศาลมีคำตัดสินไปแล้ว
และไม่เชื่อมั่นในที่มาของรายชื่อ
6. ความเห็นต่อการเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อชี้แจงต่อศาลในคดีซุกหุ้นและอายัดทรัพย์
- เห็นด้วย................................................ร้อยละ 71.4
เพราะ เพื่อเปิดโอกาสให้ชี้แจงและพิสูจน์ตัวเอง
- ไม่เห็นด้วย..............................................ร้อยละ 28.6
เพราะ เหตุการณ์ยังไม่สงบอาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองเพิ่มขึ้น
รายละเอียดในการสำรวจ
วัตถุประสงค์ในการสำรวจ
เพื่อสะท้อนข้อมูลความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองและความเห็นต่อการนิรโทษกรรมแก่นักการเมืองให้สาธารณชน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
ระเบียบวิธีการสำรวจ
การสำรวจใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) โดยการสุ่มเขตการปกครองจำนวน 27 เขต จาก 50 เขต
ของกรุงเทพมหานคร ทั้งเขตชั้นใน เขตชั้นกลาง และเขตชั้นนอก ได้แก่ เขตคลองเตย คลองสาน ดุสิต ทวีวัฒนา บางกอกน้อย บางกะปิ บางเขน
บางคอแหลม บางซื่อ บางนา บางพลัด บางรัก บึงกุ่ม ปทุมวัน ประเวศ พญาไท ภาษีเจริญ มีนบุรี ราชเทวี ราษฎร์บูรณะ วังทองหลาง สวนหลวง
สัมพันธวงศ์ สาทร สายไหม หนองจอก หลักสี่ และปริมณฑล 3 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ จากนั้นสุ่มถนน และประชากรเป้า
หมายที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 967 คน เป็นเพศชายร้อยละ 54.2 และเพศหญิงร้อยละ 45.8
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีความคลาดเคลื่อน ฑ 5% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล
การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถามสัมภาษณ์ความคิดเห็นของประชากรเป้าหมายที่สุ่มได้
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 18-20 มิถุนายน 2550
วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ : 21 มิถุนายน 2550
ตาราง ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ
เพศ :
ชาย 524 54.2
หญิง 443 45.8
อายุ
18-25 ปี 372 38.5
26-35 ปี 284 29.4
36-45 ปี 181 18.7
46 ปีขึ้นไป 130 13.4
การศึกษา
ต่ำกว่าปริญญาตรี 393 40.6
ปริญญาตรี 491 50.8
สูงกว่าปริญญาตรี 83 8.6
อาชีพ
ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ 110 11.4
พนักงาน/ลูกจ้างบริษัทเอกชน 296 30.6
ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว 194 20.1
รับจ้างทั่วไป 105 10.8
พ่อบ้าน แม่บ้าน เกษียณอายุ 39 4.0
อื่นๆ อาทิ อาชีพอิสระ เกษตรกร นิสิตนักศึกษา ฯลฯ 223 23.1
ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โทร. 02-350-3500 ต่อ 1776
E-mail: research@bu.ac.th Website: http://research.bu.ac.th
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--
-พห-
เป็นผลให้กลุ่มผู้สนับสนุนและแกนนำพรรคไทยรักไทยเดิมรวมถึงกลุ่มอื่นๆ ได้รวมตัวเป็นแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) เพื่อชุมนุมเรียก
ร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ลาออก โดยมีการชุมนุมและเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดกระแสความวิตกกังวล
ขึ้นในสังคมว่าจะเป็นสาเหตุให้เกิดเหตุการณ์ลุกลามบานปลายได้ ทั้งมีกระแสเรื่องการออกกฎหมายนิรโทษกรรมแก่ผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองจนเป็นที่
สนใจของประชาชนในวงกว้าง ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพจึงได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ความคิดเห็นของ
ประชาชนต่อการชุมนุมทางการเมืองและการนิรโทษกรรม” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล จำนวน
967 คน เมื่อวันที่ 18-20 มิถุนายน 2550 สรุปผลได้ดังนี้
1. ความเห็นต่อการติดตามและรับทราบข่าวสารบ้านเมืองที่อยู่ในความสนใจ ณ ขณะนี้ พบว่า
(เป็นคำถามปลายเปิด)
- ติดตามข่าวสารการชุมนุมทางการเมือง.................................ร้อยละ 54.8
- ติดตามข่าวอื่นๆ อาทิ สังคม เศรษฐกิจ บันเทิง กีฬา.......................ร้อยละ 13.5
- ติดตามข่าวการยึดทรัพย์และการกลับเมืองไทยของอดีตนายกฯ.................ร้อยละ 13.0
- ติดตามข่าวความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้.......................ร้อยละ 9.2
- ติดตามข่าวการยุบพรรคและการตัดสิทธิทางการเมือง.......................ร้อยละ 4.0
- ติดตามข่าวการร่างรัฐธรรมนูญและการเลือกตั้ง...........................ร้อยละ 3.9
- ไม่สนใจติดตามข่าวใดๆเลย.........................................ร้อยละ 1.6
เมื่อพิจารณาความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างต่อการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองและการชุมนุมทางการเมืองที่ปรากฏเป็นข่าวในปัจจุบัน โดย
แยกเป็นประเด็นต่างๆ ดังนี้
1.1 ความเห็นและความเข้าใจต่อวัตถุประสงค์ของการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ(นปก.)
- เพื่อรักษาผลประโยชน์ทางการเมืองของกลุ่มหรือคณะบุคคล...................ร้อยละ 57.5
- เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยต่อประชาชนส่วนรวม..........................ร้อยละ 23.3
- ไม่แน่ใจ.......................................................ร้อยละ 19.2
1.2 ความคิดเห็นต่อประเด็นว่าใครคือผู้ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.)
(เป็นคำถามปลายเปิด)
- ไม่แน่ใจว่าใครคือผู้ได้รับประโยชน์..............................ร้อยละ 24.8
- นักการเมืองผู้เสียผลประโยชน์.................................ร้อยละ 23.9
- พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร.......................................ร้อยละ 20.5
- ประชาชน................................................ร้อยละ 14.9
- แกนนำผู้ชุมนุมและผู้เข้าชุมนุม..................................ร้อยละ 10.7
- อื่นๆ ได้แก่ คมช. รัฐบาล คนจน และตำรวจ......................ร้อยละ 4.0
- ไม่มีใครได้ประโยชน์........................................ร้อยละ 1.2
1.3 ความเห็นต่อแนวทางที่อยากให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการนำไปดำเนินการ
- ส่งตัวแทนเจรจากับรัฐบาลเพื่อหาข้อยุติและสลายการชุมนุม.............ร้อยละ 65.0
- ชุมนุมอย่างสงบและต่อเนื่อง...................................ร้อยละ 20.4
- อื่นๆ อาทิ ควรรอรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และให้มีการเลือกตั้งก่อน..........ร้อยละ 14.6
2. เมื่อถามความเห็นต่อการอนุญาตให้อดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สามารถสื่อสารกับผู้ชุมนุมได้โดยตรง อาทิ ผ่านระบบวีดิโอคอน
เฟอร์เรนซ์ โดยไม่ควรมีการปิดกั้น พบว่า
- เห็นด้วย.................................................ร้อยละ 53.9
เพราะ เป็นสิทธิที่พึงกระทำได้, ไม่ควรปิดกั้นการรับข่าวสารของประชาชน
- ไม่เห็นด้วย...............................................ร้อยละ 46.1
เพราะ อาจเกิดความวุ่นวาย สับสน
โดยกลุ่มที่ระบุว่าไม่เห็นด้วยจำนวนร้อยละ 46.1 เห็นว่า
- ไม่ควรอนุญาตให้มีการสื่อสารโดยตรงกับผู้ชุมนุมเลย...............ร้อยละ 23.5
- ให้สื่อสารกับผู้ชุมนุมได้แต่ต้องผ่านการตรวจสอบจากรัฐบาลก่อน.......ร้อยละ 20.2
- อื่นๆ อาทิ ควรมีการควบคุมโดยให้เผยแพร่ได้เฉพาะสื่อบางประเภท,
ควรอนุญาตหลังจากมีการเลือกตั้งไปแล้ว.......................ร้อยละ 2.4
3. ความเห็นต่อการปิดกั้นสื่อชนิดอื่นๆ อาทิ Website Hi-Taksin หรือ Youtube ที่มีคำปราศรัยและเทปคำปราศรัย ของอดีตนายกรัฐมนตรี
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
- ไม่ควรปิดกั้นแต่ให้ผ่านการตรวจสอบเนื้อหาจากรัฐบาลก่อน.............ร้อยละ 41.7
- ไม่ควรมีการปิดกั้นเลย.......................................ร้อยละ 32.6
- ควรให้มีการปิดกั้นต่อไป......................................ร้อยละ 18.0
- ไม่แน่ใจ.................................................ร้อยละ 7.7
4. ความเห็นต่อการออกกฎหมายนิรโทษกรรมแก่ผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ให้ได้รับการคืนสิทธิและสามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ตามเดิม
- เห็นด้วย.................................................ร้อยละ 38.7
เพราะ เชื่อว่าผู้ถูกตัดสิทธิบางคนไม่ได้กระทำผิดและเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ
- ไม่เห็นด้วย...............................................ร้อยละ 61.3
เพราะ ศาลมีคำตัดสินไปแล้วต้องให้ความเคารพคำตัดสินของศาล, เห็นว่ากระทำผิดจริง
และต้องการให้เป็นบรรทัดฐานของสังคม
5. ความเห็นต่อการที่กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคไทยรักไทยดำเนินการล่ารายชื่อประชาชน เพื่อยื่นถวายฎีกากรณีคดียุบพรรค พบว่า
- เห็นด้วย................................................ร้อยละ 30.6
เพราะ เป็นสิทธิที่พึงกระทำได้
- ไม่เห็นด้วย..............................................ร้อยละ 69.4
เพราะ เป็นการกระทำที่ไม่สมควรและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง, ศาลมีคำตัดสินไปแล้ว
และไม่เชื่อมั่นในที่มาของรายชื่อ
6. ความเห็นต่อการเดินทางกลับประเทศไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อชี้แจงต่อศาลในคดีซุกหุ้นและอายัดทรัพย์
- เห็นด้วย................................................ร้อยละ 71.4
เพราะ เพื่อเปิดโอกาสให้ชี้แจงและพิสูจน์ตัวเอง
- ไม่เห็นด้วย..............................................ร้อยละ 28.6
เพราะ เหตุการณ์ยังไม่สงบอาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองเพิ่มขึ้น
รายละเอียดในการสำรวจ
วัตถุประสงค์ในการสำรวจ
เพื่อสะท้อนข้อมูลความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองและความเห็นต่อการนิรโทษกรรมแก่นักการเมืองให้สาธารณชน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ
ระเบียบวิธีการสำรวจ
การสำรวจใช้วิธีสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-Stage Sampling) โดยการสุ่มเขตการปกครองจำนวน 27 เขต จาก 50 เขต
ของกรุงเทพมหานคร ทั้งเขตชั้นใน เขตชั้นกลาง และเขตชั้นนอก ได้แก่ เขตคลองเตย คลองสาน ดุสิต ทวีวัฒนา บางกอกน้อย บางกะปิ บางเขน
บางคอแหลม บางซื่อ บางนา บางพลัด บางรัก บึงกุ่ม ปทุมวัน ประเวศ พญาไท ภาษีเจริญ มีนบุรี ราชเทวี ราษฎร์บูรณะ วังทองหลาง สวนหลวง
สัมพันธวงศ์ สาทร สายไหม หนองจอก หลักสี่ และปริมณฑล 3 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ จากนั้นสุ่มถนน และประชากรเป้า
หมายที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ได้กลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 967 คน เป็นเพศชายร้อยละ 54.2 และเพศหญิงร้อยละ 45.8
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error)
ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีความคลาดเคลื่อน ฑ 5% ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล
การเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถามสัมภาษณ์ความคิดเห็นของประชากรเป้าหมายที่สุ่มได้
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล : 18-20 มิถุนายน 2550
วันที่เผยแพร่ผลการสำรวจ : 21 มิถุนายน 2550
ตาราง ข้อมูลประชากรศาสตร์
จำนวน ร้อยละ
เพศ :
ชาย 524 54.2
หญิง 443 45.8
อายุ
18-25 ปี 372 38.5
26-35 ปี 284 29.4
36-45 ปี 181 18.7
46 ปีขึ้นไป 130 13.4
การศึกษา
ต่ำกว่าปริญญาตรี 393 40.6
ปริญญาตรี 491 50.8
สูงกว่าปริญญาตรี 83 8.6
อาชีพ
ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ 110 11.4
พนักงาน/ลูกจ้างบริษัทเอกชน 296 30.6
ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว 194 20.1
รับจ้างทั่วไป 105 10.8
พ่อบ้าน แม่บ้าน เกษียณอายุ 39 4.0
อื่นๆ อาทิ อาชีพอิสระ เกษตรกร นิสิตนักศึกษา ฯลฯ 223 23.1
ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์ สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ โทร. 02-350-3500 ต่อ 1776
E-mail: research@bu.ac.th Website: http://research.bu.ac.th
--ศูนย์วิจัยกรุงเทพโพลล์--
-พห-