ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน วันที่ 24 สิงหาคม 2554

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 24, 2011 17:00 —ธนาคารแห่งประเทศไทย

ฉบับที่ 33 /2554

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยแถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันนี้ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อรวมทั้งแนวโน้มในระยะต่อไปเพื่อกำหนดแนวนโยบายการเงินที่เหมาะสม โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

คณะกรรมการฯ ประเมินว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศอุตสาหกรรมหลักมีความเสี่ยงมากขึ้น จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัวชะลอลงต่อเนื่องและอยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาด เศรษฐกิจของประเทศหลักในยุโรปเริ่มขยายตัวชะลอลงบ้าง แต่คาดว่าเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียจะสามารถรองรับผลกระทบจากการชะลอตัวดังกล่าวได้ในระดับหนึ่ง จากแรงขับเคลื่อนของอุปสงค์ในประเทศและภาคการส่งออกที่มีความเข้มแข็งและปรับตัวได้ดี นอกจากนี้ ฐานะด้านการเงินการคลังก็ยังอยู่ในวิสัยที่จะดำเนินนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้หากจำเป็น

คณะกรรมการฯ ประเมินว่า เศรษฐกิจในประเทศอุตสาหกรรมหลักที่ชะลอลง จะส่งผลต่อการส่งออกของไทยบ้าง โดยผลกระทบน่าจะบรรเทาลงจากการค้าภายในภูมิภาคเอเชียและการกระจายการส่งออกไปตลาดใหม่ๆ ที่มีมากขึ้น ส่วนการบริโภคและการลงทุนในประเทศคาดว่าจะยังเติบโตได้ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาวะการจ้างงานที่ยังอยู่ในระดับสูง ความเชื่อมั่นที่ปรับดีขึ้น ความต้องการสินเชื่อที่ยังขยายตัวได้ดี รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในระยะต่อไป

สำหรับแรงกดดันเงินเฟ้อ แม้ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกเริ่มชะลอลง แต่อุปสงค์ในประเทศที่เติบโตดีและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ยังเอื้อให้แรงกดดันด้านราคามีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ส่งผลให้การคาดการณ์เงินเฟ้อของประชาชนเร่งตัวขึ้นด้วย

คณะกรรมการฯ ประเมินว่า แม้ความเสี่ยงของการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะสูงขึ้นจากการประชุมครั้งที่แล้ว เนื่องจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้น แต่ในภาพรวม เศรษฐกิจไทยยังมีแรงขับเคลื่อนให้ขยายตัวได้ ในขณะที่ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อในอนาคตก็สูงขึ้นเช่นกัน ประกอบกับระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันยังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ คณะกรรมการฯ จึงเห็นว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้เข้าใกล้ระดับสมดุลมากขึ้น เพื่อดูแลแรงกดดันเงินเฟ้อในอนาคตยังเป็นนโยบายที่เหมาะสม จึงมีมติ 5 ต่อ 2 ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 3.25 เป็นร้อยละ 3.50 ต่อปี ทั้งนี้คณะกรรมการฯ จะติดตามพัฒนาการของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะดำเนินนโยบายที่เหมาะสม เพื่อดูแลให้เศรษฐกิจไทยเจริญเติบโตได้ต่อเนื่องอย่างมีเสถียรภาพ

ข้อมูลเพิ่มเติม : ทีมกลยุทธ์นโยบายการเงิน 1 โทร: 0-2283-5621, 0-2283-6186

e-mail: MonetaryPolicyStrategyTeam@bot.or.th

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ